ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวเรือง วันที่ 22 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 352 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ดาวเรือง วันที่ 22 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2013, 01:50:54 am »

 กำนันเทิ้มไปนั่งรอดาวเรืองอยู่ที่ร้าน เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงดาวเรืองยังไม่กลับมา กำนันเทิ้มร้อนใจ ขอกระดาษกับปากกาจากบานชื่นมาเขียนข้อความอะไรบางอย่าง แล้วฝากบานชื่นให้เก็บไว้ให้ดาวเรือง ก่อนรีบร้อนเดินออกจากร้านไป
    
    “ข้าจะรีบไปดูที่ปางไม้ให้เห็นกับตาว่ามันซ่อนอาวุธไว้จริงหรือเปล่า จะได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานมัดตัวมัน แล้วจะซุ่มรออยู่แถวนั้นจนกว่าเอ็งจะพาตำรวจมา...เทิ้ม”
    
    ดาวเรืองกลับมาเจอจดหมายที่กำนันเทิ้มเขียนไว้ก็ตกใจมาก พอดีจินตวัฒน์มาตามดาวเรืองให้ไปดอนล้อมเก้งด้วยกัน ดาวเรืองรีบกระโดดขึ้นรถจินตวัฒน์ทันที
    
    “ไปก็ได้ แต่ขอฉันแวะทำธุระก่อนนะ เร็ว ๆ เลยคุณปลัด”
     
    ดาวเรืองพาจินตวัฒน์ไปที่ป่าใกล้ปางไม้ของกำพล จินตวัฒน์เห็นรถมอเตอร์ไซค์กำนันเทิ้มจอดซ่อนอยู่ในดงไม้ก็ถึงกับชะงัก ดาวเรืองบอกกำนันเทิ้มกำลังตกอยู่ในอันตราย ก่อนวิ่งหายเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว จินตวัฒน์ยังปะติดปะต่อเรื่องไม่ถูก แต่ก็รีบตามดาวเรืองไป
    
    กำนันเทิ้มแอบเข้าไปหาหลักฐานในโกดังเก็บไม้ในแคมป์คนงานในปางไม้ของกำพล ข้างในมีลังไม้วางเรียงซ้อนกันเป็นตับ กำนันเทิ้มคิดว่าเป็นลังใส่อาวุธสงครามแน่ จึงรีบหยิบกล้องถ่ายรูปดิจิทัลขนาดเล็กออกมาถ่ายในมุมต่าง ๆ แต่พอหยิบปืนในกล่องขึ้นมาดู ถึงได้รู้ว่าเป็นปืนของเล่น กำนันเทิ้มขว้างปืนของเล่นทิ้งอย่างเจ็บใจ
    
    เสียงกำพลหัวเราะดังลั่น กำนันเทิ้มหันขวับไปมองด้านหลังชาติ ศักดิ์ และสมุนของเสี่ยกำพลห้อมล้อมเต็มไปหมด กำพลเดินทะลุกลางวงล้อมลูกน้องออกมา
    
    “ผิดหวังมากสิมึง ไม่นึกเลยว่ากำนันกระดูกเหล็กจะหลอกได้ง่ายดายขนาดนี้”
    
    กำพลก้าวมายืนตรงหน้ากำนันแล้วเอาปืนสั้นที่อยู่ในมือตบหน้ากำนันเทิ้มฉาดใหญ่ กำนันเทิ้มหน้าหัน ทรุดลงไปกองกับพื้น เลือดทะลักออกจากปาก กำพลก้าวมาประชิด คว้าคอเสื้อกำนันเทิ้ม ลากคอขึ้นมาเผชิญหน้ากัน
    
    “มึงรู้ตัวรึเปล่า...ว่ามึงยื่นหน้ามาขวางตีนใคร”
     
    ดาวเรืองพาจินตวัฒน์วิ่งลัดป่าเข้าไปใกล้ปางไม้กำพล เสียงปืนดังขึ้น จินตวัฒน์ดึงดาวเรืองให้มาหลบหลังตน แล้วกวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง
    
    “พวกไอ้เสี่ยมันต้องเห็นเราแล้วแน่เลย”จินตวัฒน์หันมามองหน้าดาวเรือง “ที่นี่เป็นเขตปางไม้ของเสี่ยเหรอ”
    
    ลูกน้องเสี่ยกำพล 2 คน ถือปืนสั้นวิ่งเข้ามา จินตวัฒน์กับดาวเรืองวิ่งเข้าไปหลบหลังต้นไม้ ลูกน้องเสี่ยมองซ้ายมองขวาเหมือนหาใคร..แต่ไม่เจอ แล้ววิ่งผ่านไป จินตวัฒน์กับดาวเรืองออกจากที่ซ่อน วิ่งไปอีกทาง เสียงปืนดังกระชั้นมาเรื่อย ๆ จินตวัฒน์กับดาวเรืองวิ่งพ้นป่าทึบออกมาเจอป่าโปร่ง ตรงหน้าไม่มีที่ให้หลบซ่อนตัว นอกจากบึงบัวกว้าง ทั้งสองคนมองหน้ากัน เสียงปืนดังไล่เข้ามาใกล้ ดาวเรืองตัดสินใจกระชากมือจินตวัฒน์กระโดดลงไปในบึงบัวด้วยกัน
    
    กำนันเทิ้มวิ่งหนีพวกกำพลมาถึงที่บึงบัว จินตวัฒน์กับดาวเรืองหลบอยู่ในกอบัวที่อัดกันแน่นอยู่ในบึง มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดาวเรืองเห็นสภาพกำนันเทิ้มแล้วอยากจะร้องไห้ จินตวัฒน์เอามือปิดปากไม่ให้ดาวเรืองส่งเสียงร้อง “มึงทำกูเสียหายหลายสิบล้าน เพราะฉะนั้นมึงคงต้องทรมาน...นานหน่อย”
    
    กำพลยิ้มโรคจิตแล้วเหนี่ยวไกยิงขาขวากำนันเทิ้ม กำนันเทิ้มร้องด้วยความเจ็บปวด คลานหนีเข้าใกล้ขอบตลิ่งมากขึ้น กำพลก็ยิงขาข้างซ้ายกำนันจากด้านหลัง กำนันเทิ้มร้องลั่น ดาวเรืองที่ถูกจินตวัฒน์ปิดปากได้แต่ส่งเสียงร้องไห้อู้อี้ด้วยความสงสารกำนันเทิ้ม
    
    “คนชั่วอย่างมึงไม่มีวันตายดี”
    
    “คนไม่ตายดีน่ะมึงต่างหาก”
    
    กำพลยิงอีกนัด กะให้กระสุนโดนแขนซ้ายของกำนันเทิ้ม จากนั้นก็ก้าวสวบ ๆ เข้ามาถีบร่างที่อาบเลือดสะบักสะบอมของกำนันเทิ้มสุดแรง ร่างกำนันเทิ้มลอยผ่านหน้าดาวเรืองกับจินตวัฒน์ที่หลบอยู่ในกอบัว...ก่อนจะตกลงไปในน้ำ ดาวเรืองช็อกสุดขีด จินตวัฒน์กอดดาวเรืองไว้แนบอกเพื่อให้หญิงสาวสงบลง กำพลและลูกน้องยืนมองร่างกำนันเทิ้มที่ตะเกียกตะกายโผล่ขึ้นเหนือน้ำเพื่อยื้อลมหายใจเฮือกสุดท้าย
    
    “ศพมันลอยขึ้นมาเมื่อไหร่ ค่อยลากไปเผาในป่า”
    
    กำพลหันหลัง เดินห่างออกไป พวกลูกน้องยืนมองร่างกำนันเทิ้มที่ดิ่งลงสู่ใต้น้ำจนแผ่นน้ำเรียบสนิทแล้วจึงหันหลังเดินตามเจ้านายไป จินตวัฒน์หน้าซีด ช็อกกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เห็นเต็มตา ในขณะที่ดาวเรืองหันมามองจุดที่กำนันเทิ้มจมดิ่งลงไป แล้วปล่อยโฮสะอื้นฮัก ๆ
     
    เช้าวันใหม่ ดาวเรืองกับจินตวัฒน์ยืนอยู่ตรงข้ามผู้กำกับ ทั้งสามคนถกกันเครียดจัดในห้องทำงานของผู้กำกับ
    
    “มัวมายืนทำอะไรอยู่นี่ ทำไมไม่ไปจับมันล่ะผู้กำกับ”
    
    “ใจเย็นน่าดาวเรือง”
    
    “เย็นเหรอ! ผู้กำกับก็เย็นได้สิ ผู้กำกับไม่ได้เห็นกับตานี่ ว่ามันยิงกำนันเทิ้มกี่นัด มันตั้งใจทำให้แกบาดเจ็บสาหัส แล้วก็ถีบตกน้ำเพื่อให้ตายอย่างทรมาน คนชั่วอย่างไอ้กำพลมันไม่ควรลอยหน้าลอยตาให้คนทั้งจังหวัดยกมือไหว้มันอีกต่อไป”
    
    “ดาวเรือง ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันก็อยู่ที่นั่น ฉันเห็นทุกอย่างกับตาเหมือนเธอ แต่เราสองคนจะเอาผิดเสี่ยกำพลยังไงล่ะ เรามีแค่คำพูด ชาวบ้านจะเชื่อเราเหรอ ต่อให้ผู้กำกับออกหมายจับเขาเดี๋ยวนี้ เขาก็พ้นข้อหาได้ง่าย ๆ เพราะหลักฐานของเราไม่พอ”
    
    “แล้วเราจะปล่อยให้ไอ้ฆาตกรมันลอย นวลต่อไปรึไง นอกจากกำนันเทิ้มแล้วจะต้องรอให้มีใครถูกมันฆ่าอีก”
    
    “นั่นแหละที่ฉันเป็นห่วง ถ้าเราผลีผลามทำอะไรตอนนี้ คนที่จะถูกฆ่าปิดปากเป็นรายต่อไปก็คือปลัดจินตวัฒน์และเธอ..ดาวเรือง”
    
    “ถ้าเราดันทุรังเอาผิดเสี่ยกำพลโดยที่มีหลักฐานแค่พยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งก็คือเราสองคน นอกจากจะทวงความยุติธรรมให้กำนันเทิ้มไม่ได้แล้ว ยังสร้างปัญหาให้ผู้กำกับ แล้วเราสองคนก็จะตกอยู่ในอันตรายด้วย จะจัดการกับคนอย่างเสี่ยกำพลต้องมีสติ ต้องใช้สมอง...ไม่งั้นสิ่งที่กำนันเทิ้มทำมาตลอดจะสูญเปล่า”
    
    “ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำคือ...จัดงานศพของกำนันเทิ้มให้ดีที่สุด”
    
    จินตวัฒน์กับดาวเรืองจ้องตาผู้กำกับ แววตาของทั้งสองทั้งเศร้า ทั้งหนักใจ และคล้ายจะไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ทำไปเหมาะสมที่สุดแล้วหรือไม่
     
    ตอนที่ 14
    
    ไสวแต่งตัวสวย เตรียมไปเปิดตัวเป็นเมียคนที่ 10 ของผู้ใหญ่ผันในงานศพของกำนันเทิ้ม ผู้ใหญ่ผันเกณฑ์บรรดาเมีย ๆ ทั้งหมดไปช่วยงานศพกำนันเทิ้มเตรียมลงสมัครชิงตำแหน่งกำนันคนต่อไป หลวงตาคงเองก็คิดฉวยโอกาสทำธุรกิจในงานศพ หลอกขายของดีให้พวกชาวบ้านเอาไว้ป้องกันกระสุนกันมีดพร้า พระครูจ้อยพูดดักคอกลางงาน ทำเอาผู้ใหญ่ผันกับหลวงตาคงสะดุ้ง นั่งไม่ติดที่
    
    ทันทีที่เสี่ยกำพลกับลูกน้องเดินเข้ามาในงาน ผู้ใหญ่ผันก็รีบเข้าไปหา ต้อนหน้าต้อนหลังพามานั่งใกล้ผู้กำกับ ทั้งคู่ยกมือไหว้ทักทายกันตามมารยาท ดาวเรืองกัดฟันกรอด กำมือแน่น จินตวัฒน์คอยพูดเตือนสติไม่ให้ดาวเรืองวู่วาม ดาวเรืองกลัวตัวเองจะอดใจไม่ไหวต้องลุกหนีไปนั่งสงบจิตสงบใจที่โบสถ์ จินตวัฒน์เดินตามไปคุย
    
    ดาวเรืองอยากเอาเรื่องกำพลให้ได้ จินตวัฒน์บอกหลังงานศพจะเริ่มสืบดูว่ากำนันเทิ้มทิ้งเบาะแสอะไรไว้ให้บ้าง พูดถึงเบาะแสดาวเรืองก็นึกขึ้นมาได้ว่ากำนันเทิ้มเขียนโน้ตทิ้งไว้ให้ก่อนเข้าป่า ดาวเรืองรีบวิ่งกลับไปที่ร้าน จินตวัฒน์วิ่งตามไปติด ๆ
    
    วรรณกับสมุนขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาในวัด เห็นดาวเรืองกับจินตวัฒน์วิ่งหายออกไปจากวัดด้วยกัน แหลมเสนอให้วรรณแอบตามไปดูว่าทั้งสองคนพากันไปไหน เสมอใจที่อ้างคำสั่งเวียงแอบติดสอยห้อยตามวรรณมาด้วยรีบหาทางขัดขวาง วรรณกลัวเวียงโกรธจำต้องเลิกล้มความคิดที่จะไปตามดาวเรืองกับจินตวัฒน์
    
    ดาวเรืองกลับไปหาจดหมายกำนันเทิ้มที่ร้านจนทั่วแต่ไม่พบ หญิงสาวเดินซึมไปนั่งหมดหวังที่เล้าเป็ด จินตวัฒน์ตามไปปลอบ ดาวเรืองไล่จินตวัฒน์ให้รีบกลับไปกรุงเทพฯ
    
    “นายไม่ควรอยู่ที่นี่ อยู่ไปก็ตายเปล่า”
    
    “แล้วเธอล่ะดาวเรือง เธอเป็นผู้หญิงตัว   เล็ก ๆ ทำไมถึงอยู่ได้”
    
    “ที่นี่คือบ้านฉัน ฉันเกิดที่นี่และจะตายที่นี่ แต่นายไม่ใช่”
    
    “ทำไมฉันต้องไป”
    
    “นายอยากจะเป็นอย่างกำนันเทิ้มงั้นเหรอ นายอยากถูกยิง แล้วถูกมันถีบตกน้ำ อยากโดนฆ่าหมกป่า หรือถูกพวกมันจับเผานั่งยางแบบผีไม่มีญาติรึไง เก็บอุดมการณ์ของนาย แล้วกลับบ้านไปซะ”
    
    จินตวัฒน์นิ่ง ทั้งคู่มองหน้ากันไปมา
    
    สายวันรุ่งขึ้น ดาวเรืองพาเพี้ยนไปทำบัตรประชาชนที่ที่ว่าการอำเภอ ได้ยินกำจรกับแหวงคุยกันว่าปลัดขอทำเรื่องย้ายกลับไปกรุงเทพฯ แถมยังเห็นจินตวัฒน์เดินถือกระเป๋าเดินทางผ่านหน้าห้องทำบัตรประชาชนไปก็ถึงกับอึ้ง กรอดที่ไปทำบัตรประชาชนเหมือนกันรีบวิ่งกลับไปรายงานวรรณว่าจินตวัฒน์หนีกลับไปกรุงเทพฯแล้ว วรรณรีบคิดหาทางทำคะแนนกับดาวเรือง วรรณรีบพาแหลมกับกรอดไปหาบานชื่นที่ร้าน วรรณเสนอตัวเป็นลูกเขยให้บานชื่นพิจารณา บานชื่นไม่อยากได้อันธพาลอย่างวรรณมาเป็นเขย วรรณพยายามจะพิสูจน์ใ
    ห้บานชื่นเห็นว่ากลับตัวกลับใจได้แล้ว เริ่มต้นด้วยการสั่งแหลมกับกรอดช่วยทำงานในร้าน ปัดกวาดเช็ดถู เสิร์ฟอาหารแทนบานชื่น
    
    วรรณที่กำลังจะเอาใจบานชื่นด้วยการช่วยบีบนวด หันไปเห็นดาวเรืองเดินเข้ามาในร้าน พร้อมกับหอบหิ้วฝูงเป็ดใส่กล่องมาด้วย จึงรีบผละจากบานชื่นหันไปเอาใจดาวเรืองแทน แต่ดาวเรืองไม่สนใจอุ้มกล่องใส่เป็ดเดินหนีไปทางหลังร้าน วรรณเดินตามไปตอแย ดาวเรืองหันมาโวยใส่ ไม่พอใจที่วรรณมาขัดจังหวะให้ข้าวเป็ด วรรณนึกอิจฉาพวกเป็ดที่เห็นดาวเรืองให้ความสนใจมากกว่า
    
    “เห็นเป็ดดีกว่าข้าเหรอ...ได้เห็นดีกันแน่ ไอ้เรือง”
    
    ดาวเรืองเอาโพยหวยไปส่งให้เจ๊หมวยที่ร้าน พร้อมกับเจ้ามือหวยต่างตำบลคนหนึ่ง
    
    “เอ็งมาก็ดีแล้ว ไอ้ชาติกับไอ้ศักดิ์มันอยากได้คนเพิ่ม เอ็งมีเส้นสายฝั่งโน้น ก็จัดมาให้สักสิบยี่สิบสิ เผื่อข้าได้ค่าหัวคิวกับเขาบ้าง”
    
    “หายากแล้วเจ๊ เขาส่งไปออกเรือทางใต้หมดแล้ว”
    
    “ไอ้เรือง เอ็งรู้จักใครที่ฝั่งโน้นบ้างมั้ย หัวละเป็นหมื่นเชียวนะ”
    
    ดาวเรืองทำเป็นไม่สน “ฉันจะไปรู้จักใครล่ะเจ๊ ไม่เคยข้ามไปฝั่งโน้นเลย นี่ถ้ารู้ว่าค้าคนมันกำไรงามขนาดนี้ คงหาลู่ทางไว้บ้างแล้ว”
    
    พอกลับออกมาจากร้านเจ๊หมวย ดาวเรืองก็รีบไปส่งข่าวให้ผู้กำกับรู้ว่ากำลังจะมีการขนแรงงานต่างด้าวผ่านเข้ามาทางชายแดนลอตใหญ่ โดยใส่จดหมายไว้ในถุงกล้วยแขก เพื่อไม่ให้มีใครสงสัย
     
    วรรณแอบไปขโมยเป็ดที่เล้าหลังร้านของดาวเรือง โดยให้กรอดกับแหลมไปคอยเบี่ยงเบนความสนใจจากบานชื่น วรรณพยายามวิ่งไล่จับเป็ดตัวใหญ่ในเล้า แต่ทำไม่สำเร็จ มีเพียงจี๊ดจ๊าดตัวเดียวในเล้าที่ไม่วิ่งหนีวรรณ วรรณตัดสินใจจับจี๊ดจ๊าดออกไปเพียงตัวเดียว
    
    จู่ ๆ วรรณก็หิ้วเป็ดเข้ามาในบ้าน บอกอยากจะกินกะเพราเป็ด เวียงไม่อยากฆ่าเป็ดบอกปัดให้เมียเบอร์อื่น ๆ ทำกะเพราเป็ดแทน แต่ก็ไม่มีใครอยากฆ่าเป็ดเหมือนกัน เสมอใจสบโอกาสคิดเอาใจวรรณเต็มที่ รีบอาสาเป็นคนทำ
    กะเพราเป็ดให้กิน
    
    พฤกษ์มารับโรสออกจากโรงพยาบาล จะพาไปส่งที่คอนโดฯ คนไข้ที่โรงพยาบาลจำโรสได้ เข้ามาขอถ่ายรูปด้วย โรสยังเจ็บขาอยู่ทำท่าจะเซล้ม พฤกษ์รีบเข้าไปประคอง ทำให้เหมือนกำลังโอบกอดกันอยู่ ทุกคนพากันกดชัตเตอร์ถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือกันเมามัน พฤกษ์ทำหน้าไม่ถูก โรสหันไปยิ้มให้กล้องอย่างมืออาชีพ เพราะลืมตัว คิดว่ากำลังถ่ายแบบ
    
    ส่งโรสที่คอนโดฯเสร็จ พฤกษ์ตั้งท่าจะขอตัวกลับ โรสอ้อนขอให้พฤกษ์ช่วยอุ่นอาหารให้ก่อน เพราะมียาหลังอาหารจะต้องกิน พฤกษ์เดินไปเปิดดูอาหารในตู้เย็น เห็นมีแต่อาหารแช่แข็งที่หมดอายุแล้ว ดีที่ยังมีข้าวสารกับหมูแช่แข็งเหลืออยู่ พฤกษ์เลยทำข้าวต้มให้โรสแทน แถมยังช่วยเก็บกวาดห้องที่รกรุงรังจนเรียบร้อย
    
    ระหว่างที่โรสเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอน เสียงโทรศัพท์มือถือที่โรสวางทิ้งไว้ในห้องรับแขกดังขึ้น พฤกษ์วางมือจากการทำข้าวต้มเดินไปรับโทรศัพท์ให้ จินตวัฒน์ที่โทรศัพท์มาหาโรสถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายรับโทรศัพท์ แถมพฤกษ์ยังบอกอีกว่าโรสกำลังอาบน้ำอยู่
    
    โรสอาบน้ำเสร็จ เดินสวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสั้นเต่อออกมาจากห้อง พฤกษ์คิดว่าโรสไม่ได้ใส่อะไรอยู่ข้างใน จึงรีบขอตัวกลับไปทันที โรสเห็นท่าแปลก ๆ ของพฤกษ์แล้วก็ได้แต่นึกขำ
    
    “อะไรของเขานะ ทำอย่างกับฉันจะปล้ำ” โรสปลดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นกางเกงขาสั้น เสื้อกล้ามอยู่ด้านใน
    
    จินตวัฒน์ตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปหาโรสอีกครั้ง คราวนี้โรสกดรับสายด้วยตัวเอง
    
    “สวัสดีค่ะ...อ้าว จิ๋น ทำไมใช้เบอร์นี้โทรฯมาล่ะ” โรสแปลกใจที่เห็นว่าไม่ใช่เบอร์มือถือจินตวัฒน์
    
    “แบตหมดน่ะ แต่เป็นห่วงก็เลยหาที่โทรฯ โรสเป็นยังไงบ้าง”
    
    “เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อบ่ายนี้เอง ตอนนี้อยู่คอนโดฯแล้ว ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วด้วย”
    
    “แล้วโรสจะทำยังไง พี่น้ำหวานไม่อยู่แบบนี้ ใครจะดูแล ใครจะขับรถให้”
    
    “เป็นห่วงก็กลับมาอยู่กับโรสสิ” เห็นจินตวัฒน์อึกอักโรสรีบพูดดักคอ “งานยุ่ง...จิ๋นไม่ยอมกลับมาแบบนี้ สงสัยโรสต้องหาคนมาขับรถ มาป้อนข้าวแทนแล้วล่ะ”
    
    “ไม่ใช่ว่าตอนนี้มีใครมาดูแลแทนผมแล้วจริง ๆ เหรอ”
    
    “ไม่เอาน่า อย่าคิดมากสิคะ...แค่นี้ก่อนนะ โรสต้องกินข้าว กินยา ต้องรีบหาย เดี๋ยวไม่สวย ขอให้ทำงานให้สนุกนะคะ” โรสวางโทรศัพท์ ยิ้มคิกคักมีความสุข “หึงล่ะซี่ ฮิ ๆ”
    
    จินตวัฒน์วางโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกหลายอย่างประดังประเด กลุ้มใจ ลังเล ผิดหวัง ไม่แน่ใจ เสียใจ หรือโล่งใจ
     
    กลับมาถึงบ้านในตอนเย็น เห็นว่าจี๊ดจ๊าดหายไปจากเล้า ดาวเรืองตกใจมาก รีบวิ่งไปถามบานชื่นที่นั่งกินข้าวอยู่ในบ้านกับเพี้ยนและเสมอใจ
    
    “จี๊ดจ๊าดมันหายไป แม่เห็นมั้ย”
    
    “ข้าจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ข้าไม่ได้มีเวลาไปฟักเป็ดฟักไก่อย่างเอ็งนี่ มันตัวเล็กสุด มันคงจะแอบอยู่แถว ๆ นั้นแหละ”
    
    “ไม่มี หาทั่วแล้ว”
    
    “ใครจะเอาไปทำอะไร ตัวกะเปี๊ยกแค่นั้น มากินกะเพราเป็ดดีกว่าไอ้เรือง ไอ้วรรณอุตส่าห์มีน้ำใจแบ่งมาให้”
    
    “ลงจากกระทะปั๊บ ก็แบ่งมานี่เลย ไม่รู้ไอ้วรรณมันไปเอาเป็ดมาจากไหน เป็ดสาว เนื้ออ๊อน อ่อน”
    
    ดาวเรืองชะงัก “แม่ พวกไอ้วรรณมันมาที่นี่รึเปล่า”
    
    “เออ มา ๆ ไป ๆ หลายรอบ”
    
    ดาวเรืองใจหายวาบ หันไปหาเสมอใจ   “เป็ดที่ไอ้วรรณเอาไปให้ทำ หน้าตาเป็นยังไง”
    
    “ก็หน้าตาเหมือนเป็ด แต่มันตัวเล็ก สีขาวปลอด”
    
    เพี้ยนสูดปากซู่ซ่า “ซู้ดดดด...สุดยอด...ตัวเล็ก สีขาวปลอด  อืม...เหมือนไอ้จี๊ดจ๊าด เอ๊ยยยหรือว่า...มันคือไอ้จี๊ดจ๊าด”
    
    บานชื่นที่เพิ่งตักกะเพราเป็ดเข้าปากถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดาวเรืองโกรธจนตัวสั่น วิ่งไปหยิบมีดอีโต้สับหมูที่เคาน์เตอร์ วิ่งออกไปจากร้าน บานชื่น เสมอใจ เพี้ยนวางช้อนโดยพร้อมเพรียงกัน!
    
    ดาวเรืองถืออีโต้วิ่งไปมาทั่วหมู่บ้าน สุด ท้ายไปหยุดยืนหอบอยู่ที่กลางสะพาน แล้วปล่อยโฮร้องไห้ออกมา สักครู่มีมือหนึ่งมาแตะบ่า ดาวเรืองตกใจหันขวับ แล้วหญิงสาวก็ต้องแปลกใจ   สุด ๆ เห็นว่าเจ้าของมือคือจินตวัฒน์
    
    “ร้องไห้ทำไม”
    
    “นายกลับมาทำไม”
    
    “ก็ฉันอยู่ที่นี่แล้วจะให้ไปไหน”
    
    “นายไม่ได้ย้ายกลับกรุงเทพฯเหรอ”
    
    “ย้าย ไปเอามาจากไหน”
    
    “ก็...น้าจรบอกไอ้เพี้ยนว่าปลัดขอย้ายเข้ากรุงเทพฯ”
    
    “ไม่ใช่ฉัน ปลัดธีรเดชต่างหากที่ขอย้ายกลับกรุงเทพฯ ฉันเอากระเป๋าไปส่งเขาที่ท่ารถ แล้วก็ไปประชุมที่จังหวัด ประชุมเสร็จก็กลับมาเนี่ย อ๋อ นี่เธอคิดว่าฉันย้ายกลับบ้านเลยเสียใจงั้นสิ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าฉันสำคัญมากขนาดนี้”
    
    ดาวเรืองยิ่งร้องไห้ไปกันใหญ่ จินตวัฒน์ลูบหัวปลอบ...คิดเป็นจริงเป็นจังมาก
    
    “ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องร้องไห้ ฉันกลับมาแล้ว”
    
    “ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะนาย”
    
    “อ้าว แล้วร้องทำไม”
    
    “เจ้าจี๊ดจ๊าดมันตาย ได้ยินมั้ย เจ้าจี๊ดจ๊าด มันตายแล้ว ไอ้วรรณ ไอ้ฆาตกร ฉันจะฆ่ามัน” ดาวเรืองประกาศกร้าวแล้วพุ่งออกไปทันที
     
    ตอนที่ 15
    
    เวลาเดียวกันนั้นเอง วรรณกำลังอุ้มเป็ดจี๊ดจ๊าดขึ้นมาชื่นชมอยู่แถวหน้าบ้านผู้ใหญ่ผัน “ไง...ตัวเล็กลูกพ่อ...เดี๋ยวพ่อจะพาหนูกลับไปสู่อ้อมอกแม่แล้วนะ ดีใจมั้ยตัวเล็ก”
    
    “ไอ้เรืองมันต้องปลื้มแน่ที่เป็ดของมันยังอยู่ พี่วรรณนี่นะ ปกติคิดอะไรไม่ค่อยเป็น แต่บทจะคิดได้ขึ้นมา โอ้โฮ..พระเอกมั่ก ๆ ดูซิ หลอกให้นางเอกเสียใจ แล้วกลับไปทำให้มีความสุข ฉากจบมันช่างแฮปปี้ดี๊ด๊า อูยยย...ขนลุก”
    
    “ไอ้เรืองไม่เห็นพี่เป็นพระเอกตอนนี้ ก็ไม่รู้จะเห็นตอนไหนแล้ว”
    
    วรรณปลื้ม ฉีกยิ้มถึงรูหู
     
    จินตวัฒน์พยายามรั้งตัวดาวเรืองไว้ “เธอต้องทำใจให้ได้ว่าเป็ดมันเป็นอาหารของคน ตอนนี้เจ้าจี๊ดจ๊าดมันไปสวรรค์แล้ว ต้องคิดซะว่ามันหมดเวรหมดกรรมแล้ว”
    
    “แต่มันยังเล็กอยู่เลย มันยังไม่สมควรจะไปสวรรค์ตอนนี้ แล้วก็ไม่สมควรที่จะเป็นอาหารของคนใจบาปอย่างไอ้วรรณด้วย ฉันจะฆ่ามัน”
    
    ดาวเรืองชูมีดอีโต้ทำท่าจะออกวิ่งอีกครั้ง จินตวัฒน์รีบคว้าแขนดาวเรืองไว้
    
    “ปล่อยนะ! ฉันจะเอามีดไปเจี๋ยน..เจี๋ยน..เจี๋ยน แล้วสับ ๆ ๆ ๆ มันเป็นชิ้น ๆ”
    
    ดาวเรืองเอามีดในมือปาดซ้ายปาดขวา จินตวัฒน์หลบไปมาแบบเฉียดฉิว “เธอจะไปฆ่านายวรรณเพราะเรื่องนี้เหรอ จริงอยู่ที่มันอาจจะทำให้เธอหายแค้น แต่ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เธอคิดบ้างรึเปล่า ถ้าเขาตายหรือบาดเจ็บ เธอก็ต้องติดคุกข้อหาพยายามฆ่า คนที่เสียใจที่สุดจะเป็นใคร...ไม่ใช่แม่กับพี่ชายเธอเหรอ”
    
    จินตวัฒน์จ้องลึกลงไปในดวงตาดาวเรือง ดาวเรืองนิ่งฟัง สงบลง
    
    “น้องเรืองจ๋าาาาา...พี่วรรณมาแล้วววว” วรรณขี่รถมอเตอร์ไซค์มา มีกรอดซ้อนท้าย แหลมขี่มอเตอร์ไซค์มาอีกคัน กรอดเป็นคนอุ้มเป็ดจี๊ดจ๊าด ดาวเรืองจึงไม่เห็น ดาวเรืองเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน วรรณจอดรถ วิ่งเข้ามาหาดาวเรืองแบบเสน่หาสุด ๆ
    
    “น้องเรืองงงง... ไอ้กรอด เอ็งเอา...” จังหวะที่วรรณเหลียวไปทางกรอด ดาวเรืองยกเท้าขึ้นถีบยอดอกวรรณเต็ม ๆ วรรณล้มก้นจ้ำเบ้าท่ามกลางสายตาจินตวัฒน์และลูกน้องทั้งสองที่กำลังจะตามมา ดาวเรืองเงื้อมีดขึ้นสูง วรรณตกใจทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งช็อกอยู่กับที่ กรอดกับแหลมวิ่งหนีเอาตัวรอดไปหลบหลังต้นไม้   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)