ผู้เขียน หัวข้อ: แค้นเสน่หา วันที่ 21 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 372 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แค้นเสน่หา วันที่ 21 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2013, 03:50:55 am »

 “ได้พูดกันรึเปล่าลูก”
    
    “เปล่าค่ะ ชายว่า เขาแปลก ๆ เวลาพบชาย น้าจันทร์จะอึกอักไม่ค่อยพูด ได้แต่มอง” ชายเดียวพูดตามความจริง
     
    ท่านหญิงนิ่งอึ้ง แล้วโบกมือให้ชายเดียวออกไป ชายเดียวจูบแก้มแม่เบา ๆ แล้วออกไป ท่านหญิงนอนลืมตามองเพดานสักครู่ น้ำตาก็ขึ้นมาเต็มตา พลิกตัวนอนตะแคง น้ำตาไหลผ่าน
    
    “เฟือง ถ้าเป็นอย่างที่คิด หญิงคงทนไม่ได้...เฟือง ได้ยินหญิงรึเปล่า...อยู่ไหน ได้ยินมั้ย” ท่านหญิงพลิกตัว นอนคว่ำหน้าสะอื้นเบา ๆ เฟืองคุกเข่าข้างเตียง มือลูบแขนท่านหญิง ปลอบ
     
    พจน์เห็นว่าฉัตต์เรียนจบแล้ว จึงเตรียมตัวจะส่งเขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ซึ่งฉัตต์ไม่ขัดข้อง เพราะรู้หน้าที่ดีอยู่แล้ว
    
    “ตั้งใจเรียนนะลูก วันหนึ่งฉัตต์ต้องไปเรียนต่อ จะได้กลับมาเป็นเกียรติเป็นศรีกับวงศ์สกุล ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ...เข้าใจมั้ยลูก” คุณหญิงเพ็งกำชับฉัตต์
    
    “เข้าใจครับคุณย่า”
    
    “ริมาล่ะคะคุณย่า ริมาต้องเรียนต่อรึเปล่าคะ” จริมาโพล่งถามขึ้น
    
    “ริมาก็ต้องไปเมื่อเรียนจบ” พจน์บอกลูกสาว
    
    “อ้าว ! ทำไมคะ ริมาไม่เกี่ยว...ริมาเป็นผู้หญิงนะคะ” จริมาโวยวาย
    
    “อย่า...อย่าอ้างเรื่องผู้หญิง การศึกษาไม่มีผู้หญิงผู้ชาย เกลียดนักคนที่คิดว่าลูกชายต้องเรียนมากกว่าลูกสาวเนี่ย ได้ยินเมื่อไหร่โมโหขึ้นสมองทุกที ว่าไงริมา...เรียนจบชั้น ม.8 ก็ต้องไป...เข้าใจมั้ยริมา” คุณหญิงเพ็งบอกเสียงดุ
    
    “เปลืองตังค์” จริมาถอนใจ
    
    “พ่อเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว มีพอสำหรับรุ้ง ถ้ารุ้งอยากไปเรียนต่อ ประเทศใกล้ ๆ นี้” พจน์บอกลูกสาว “รุ้งจะเรียนพยาบาลค่ะ เรียนในเมืองไทย”
    
    ทุกคนหันขวับมาทางรุ้ง เว้นจันทร์ที่รู้แล้ว
    
    “ตัวเล็ก...โธ่ ไม่ต้องหรอกนะ คุณย่า คุณพ่อไม่สบาย ก็มีโรงพยาบาล มีหมอ ตัวเล็กเรียนมหาวิทยาลัยเถอะ อย่างที่เคยฝันไว้ไงล่ะ”
    
    จริมาคะยั้นคะยอ แต่รุ้งส่ายหน้า เหลือบไปสบตากับฉัตต์ที่แม้จะสีหน้าบึ้งแต่สายตาลึกซึ้งยิ่งนัก...เวลาต่อมารุ้งเดินอยู่ในสวน เห็นนกบาดเจ็บจึงอุ้มมาพยาบาล ฉัตต์ หอบหนังสือจะไปที่ท่าน้ำเหลือบเห็นรุ้ง จึงเดินเข้าไปหา      “อยากเป็นพยาบาลนักเหรอ”
    
    “เป็นก็ได้ค่ะ”
    
    “หมายความว่ายังไง อ้อ...แสดงว่าจำยอม เพราะตอบแทนถึงต้องจำใจเรียนเหรอ”
    
    “ทำไมชอบหาเรื่องคะ” รุ้งมองตาฉัตต์ตรง ๆ
    
    “จริงมั้ยล่ะ” ฉัตต์เสียงกวน ๆ
    
    “คุณฉัตต์จะต้องแคร์ทำไมคะ รุ้งอยากดูแลคุณย่าคุณลุงอย่างดี รุ้งก็ต้องเรียนให้รู้วิธี จะเพราะอะไรสำคัญแค่ไหนคะ”
    
    “สำคัญ เพราะถ้าไม่เต็มใจ ทำโดยเป็นภาระจำยอมฉันก็ไม่ต้องการให้ทำ”
    
    “ถ้ารุ้งบอกว่าเต็มใจคุณฉัตต์จะเชื่อมั้ยคะ”
    
    “ก็ไม่แน่ เพราะเธอมันเจ้าคารม พูดอะไรออกมาทีนึง ฉันก็ต้องคิดว่าหมายความว่ายังไง”
    
    “เพราะรุ้งพูดอะไรตรง ๆ ไม่ได้ไงคะ”
    
    “เห็นมั้ย...ฉันก็ต้องถามอีกว่าหมายความว่ายังไง”
    
    “ไม่เหมือนคุณฉัตต์ นึกอยากจะพูดว่าเกลียดใครก็พูด...พูด...พูด...วันละ 3 เวลาหลังอาหารแต่รุ้งพูดไม่ได้ไงคะ”
    
    ฉัตต์จ้องมองนัยน์ตาตรง ๆ
    
    “เธอเกลียดฉันมากใช่มั้ย...ว่าไง”
    
    “รุ้งจะไม่เกลียดคนที่เกลียดรุ้งได้ไงคะ”
    
    “แล้วไม่เกลียดใคร” ฉัตต์นัยน์ตาเป็นประกายดุ
    
    รุ้งอึกอัก ฉัตต์จับสองแขนเขย่าแรง ๆ รุ้งอึด ไม่ร้อง
    
    “กวนประสาท”
    
    “ไปเมืองนอกก็ไม่มีคนกวนแล้วค่ะ”
    
    “กวนตลอดเวลา...เกลียดจริง” ฉัตต์ปล่อย แขนรุ้ง
    
    รุ้งมีสีหน้าเสียใจอย่างที่สุด มองหน้าฉัตต์นิ่ง ฉัตต์ใจหายวับ สายตานั้นตัดพ้อต่อว่า แล้วเจ้าของสายตาก็หันหลังกลับ วิ่งจากไปทันที ฉัตต์ตกใจ รีบวิ่งตามทัน จับแขนรุ้งให้หันมาเผชิญหน้า ต่างคนต่างมองกัน ความในใจอัดแน่นรุ้งปลดมือฉัตต์ออกอย่างละมุนละม่อม
     
    “รุ้งดีใจกับคุณฉัตต์จะได้ไปไกลจากคนที่เกลียด”
     
    รุ้งพูดจบก็เดินออกไปทันที ฉัตต์ได้แต่อึ้ง...
     
    ก่อนที่ฉัตต์จะเดินทางไปเรียนต่อที่เมืองนอก รุ้งที่อยากจะคืนดีกับฉัตต์ที่นอนเล่นอยู่ แต่พอฉัตต์เห็นรุ้งเขาก็ออกปากไล่เธอ ทำให้รุ้งเสียใจลุกจะเดินไป
    
    “เป็นอะไร” ฉัตต์ถามห้วน ๆ
    
    “จะโกรธไปจนตายมั้ย เรื่องไม่เป็นความจริง...เมื่อไหร่จะเลิกเอาความผิดใส่คนอื่นเสียที” รุ้งถามอย่างอึดอัดใจ
    
    “อะไรกัน”
    
    “คุณฉัตต์พูดอย่างเนี้ยเป็นสิบเป็นร้อยครั้ง...เบื่อที่สุด”
    
    “พูดว่าไง”
    
    “มาทำดี...คิดว่าจะลบล้างความผิดของพวกตัวเองเหรอ...อย่าหวังเลย”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)