ผู้เขียน หัวข้อ: ‘เจมี่’ พระเอกลุคเซอร์ ทุ่มสุดตัว กับบทบาทชาโดว์ฮันเตอร์สุดเท่  (อ่าน 727 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 เตรียมขึ้นแท่นเป็นพระเอกหนุ่มสุดฮอตอีกคนในวงการฮอลลีวูดเรียบร้อยแล้ว สำหรับหนุ่มหล่อมาดเซอร์ “เจมี่ แคมป์เบล โบเวอร์” ที่เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบให้กับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำหลายแบรนด์ ก่อนจะแจ้งเกิดเป็นที่จดจำของผู้ชมในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ถึง 2 เรื่องทั้ง เดอะ ทไวไลท์ ซากา และ แฮร์รี่ พอตเตอร์ แอนด์ เดอะ เด๊ธลี่ ฮาร์โลว์ ซึ่งส่งผลให้หนุ่มเจมี่ ได้รับรางวัลนักแสดงอังกฤษที่น่าจับตามองจากเวที เนชั่นนัล มูฟวี่ อะวอร์ด มาครอง และได้รับการคาดหมายว่าเขาจะกลายเป็นนักแสดงหนุ่มขวัญใจของผู้ชมวัยรุ่นทั่วโลกคนใหม่
    
    และในวันนี้ เจมี่กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์แอ๊คชั่น– แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ ภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมที่ขายไปแล้วกว่า 22 ล้านเล่มทั่วโลก จนติดอันดับหนังสือขายดีของเดอะนิวยอร์คไทม์สหลายสัปดาห์ติดต่อกัน เดอะ มอร์ทัล อินสทรูเม้นท์ : ซิตี้ ออฟ โบนส์ หรือชื่อภาษาไทยว่า “นักรบครึ่งเทวดา” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของอีกโลกคู่ขนานที่ไม่มีมนุษย์คนไหนเคยรู้จัก โลกที่จะเผยให้เห็นการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ของเหล่า “ชาโดว์ฮันเตอร์” นักรบครึ่งมนุษย์ครึ่งเทวดาผู้ทำหน้าที่ไล่ล่าเหล่าอสูรสายพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งผีดิบ, แวมไพร์ หรือมนุษย์หมาป่า ไม่ให้มาเข่นฆ่ามนุษย์ โดย “เจมี่” รับบทเป็น เจส เวย์แลนด์ ผู้นำกลุ่มชาโดว์ฮันเตอร์หนุ่มที่มีพร้อมทั้งรูปลักษณ์ที่งดงามและฝีมือการต่อสู้ที่ฉกาจเหนือใคร
      
    ซึ่งบทนี้เป็นบทที่นักแสดงหนุ่มมากมายหมายปอง เพราะถูกจับตามองว่าบทบาทนี้จะกลายเป็นคาแรกเตอร์ไอดอลคนใหม่ที่สาว ๆ ทั่วโลกกรี๊ดต่อจาก เอ็ดเวิร์ด คัลเลน แห่ง เดอะ ทไวไลท์ ซากา และในเรื่องนี้ “เจมี่ แคมป์เบล โบเวอร์” ได้พูดถึงการเตรียมตัวเพื่อรับบทบาทสุดท้าทายครั้งนี้ว่า
    
    “บท เจส เป็นอะไรที่ท้าทายมากสำหรับผม เนื่องจากผมอยากจะแสดงทุกฉากด้วยตัวเอง ทั้งฉากต่อสู้และฉากอันตรายอื่น ๆ นั่นทำให้ผมเตรียมตัวฝึกฝนมากกว่า 4 เดือนก่อนการถ่ายทำ ผมต้องฝึกการใช้อาวุธและฉากสตั๊นต์เพิ่ม ทั้งหมดนั้นเป็นการฝึกที่สาหัสมาก ผมตื่นตั้งแต่ตีห้าทุกเช้า ฟิตร่างกาย 3 ชั่วโมง กินทุกสิ่งทุกอย่างภายในครึ่งชั่วโมง และกลับไปซ้อมต่ออีก 2 ชั่วโมง เป็นแบบนี้ซ้ำอีกในวันรุ่งขึ้นและวันต่อ ๆ ไป มันเป็นอะไรที่เหน็ดเหนื่อย แต่ก็คุ้มค่าเมื่อผมได้เห็นผลลัพธ์จากความทุ่มเทของตัวเอง” สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเข้าฉายบ้านเราในวันที่ 22 สิงหาคม นี้.   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)