ผู้เขียน หัวข้อ: ฟ้ากระจ่างดาว วันที่ 16 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 361 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ฟ้ากระจ่างดาว วันที่ 16 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2013, 08:21:04 am »

 “มี่เข้าใจที่สารวัตรกังวลค่ะ แต่ผู้หญิงบางคนที่ต้องเสียสามีไปเพราะทำงานในหน้าที่ แน่นอนเค้าต้องเสียใจ แต่ในความเสียใจ เค้าคงรู้สึกเป็นเกียรติที่การตายของคนที่เค้ารักเป็นการเสียสละเพื่อส่วนรวม เค้าคงภูมิใจที่มีสามีเป็นคนดี รักสังคมและชาติบ้านเมืองมากกว่าตัวเอง”
    
    หิรัณย์น้ำตาแทบร่วง ชื่มชมในความคิด “ชื่นใจมากเลยนะครับที่ได้ยินคุณพูดแบบนี้ ถ้าคุณไม่กลัวที่จะแต่งงานกับผู้ชายอย่างผม” จ้องตา ส่งสายตาหวานเชื่อม “ผมสัญญาว่าซักวันผมจะทำให้คุณรักผมให้ได้”
    
    “วันนี้ก็ทำสำเร็จแล้วนี่คะ” มีคณาพูด  เขิน ๆ หิรัณย์อึ้งไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ขำ ๆ “วันนี้คุณทำให้ผมไม่เชื่อหูตัวเองหลายครั้งมากเลยนะ”
    
    มีคณาพูดต่อทั้งน้ำตารื้น ๆ ขึ้นมาเมื่อย้อนนึกตามที่ตนพูด สารภาพความในใจ “ช่วงที่มี่มาทำข่าวชิ้นนี้ มี่นึกถึงสารวัตรอยู่ตลอดเวลา...ตอนที่มี่ถูกบังคับให้นั่งเรือข้ามฟาก นอกจากจะกลัวจับใจแล้ว มี่ยังคิดว่าสิ่งที่ทำลงไปมันโง่สิ้นดี ถ้าโชคร้ายไม่ได้กลับออกไป” เสียงเริ่มสั่น ขาด ๆ หาย ๆ มองหน้าหิรัณย์น้ำตาท่วม ก่อนจะไหลออกมา “มี่จะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าคุณอีก”
    
    หิรัณย์จับมือทั้งสองของมีคณามากุมเอาไว้ น้ำตารื้น ๆ อ้อนวอน “รับปากแต่งงานกับผมเถอะนะ”
    
    “ค่ะ มี่จะแต่งงานกับพี่รันเท่านั้น” มีคณายิ้มทั้งน้ำตา หิรัณย์ดีใจมากสวมกอดมีคณาเอาไว้แน่น มีคณากอดหิรัณย์ทั้งตัวทั้งใจ เปิดใจเต็มที่สำหรับผู้ชายคนนี้ ไม่เหลือข้อแม้ใด ๆ ในใจอีก ได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดหิรัณย์เอาไว้ไม่ยอมปล่อย ในคืนที่ฟ้ากระจ่างเห็นดวงดาวชัดเจนที่สุดในชีวิตของมีคณา
     
    หิรัณย์กลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็พามีคณาไปที่บ้าน กัลยาจับมือมีคณาเป็นห่วงและขอร้องไม่ให้ไปทำงานเสี่ยง ๆ อีก มีคณาเรียกกัลยาว่าป้า แต่กัลยาเห็นท่าทางลูกชายก็เลยเอาใจบอกให้มีคณาฝึกเรียกแม่ จะได้ชินปาก
    
    มีคณาเขินมาก เรียกหิรัณย์ว่า พี่รัน สันติตาโตรีบแซวทันที “โอ้ว พี่รัน ดีใจด้วยนะครับลุงรัน ได้อัพเกรดแล้ว” สันติขำ ๆ วัทนีย์ก็เช่นกัน“แซวลุงเขยเดี๋ยวจะโดน” หิรัณย์แกล้งดุสันติ มีคณาหยิกแขนหิรัณย์เบา ๆ อาย วันทนีย์และกัลยาชำเลืองมองกันงง ๆ เล็กน้อย “พี่รันพูดแปลก ๆ เหมือนแอบไปขอแต่งงานกันมาแล้วงั้นแหละ”
    
    มีคณาได้แต่อมยิ้มเขิน ๆ หิรัณย์เข้าไปสวมกอดเอวมีคณาเอาไว้บอกกัลยาว่าเขาและมีคณาจะแต่งงานกัน เท่านั้นแหละ สันติเฮ เป่าปากลั่นบ้าน บอกดีใจมาก ส่วนกัลยาและวันทนีย์ก็ดีใจสุด ๆ
     
    หิรัณย์และมีคณาไปรับธิดาที่สนามบิน หลังจากบอกเบาะแสและข้อมูลกับตำรวจเรียบร้อยแล้ว มีคณาพาธิดาไปบ้าน พอเจอสันติธิดาดีใจมาก แต่สันติดูไม่ยินดียินร้าย เพราะคำสอนของพ่อและปู่ยังฝังอยู่ในความคิดของสันติไม่เลือนหายไปง่าย ๆ วันรุ่งขึ้น ธิดารับอาสาไปรับสันติที่โรงเรียน แต่ด้วยการแต่งตัวของธิดาที่วับ ๆ แวม ๆ ไปสักหน่อย ทำให้เพื่อนของสันติมองและซุบซิบนินทากัน สันติไม่พอใจมากและพูดจาไม่ดีใส่ บอกไม่อยากให้ธิดามาที่โรงเรียนอีกเพราะอายเพื่อน ธิดาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเธอแต่งตัวไม่เหมาะสมกับสถานที่ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะมีแต่เสื้อผ้าแบบนี้
    
    มีคณาและหิรัณย์กลับมาถึงบ้านก็แปลกใจที่สันติขึ้นไปเก็บตัวอยู่บนห้อง แทนที่จะนั่งดูทีวีเหมือนเคย ขณะที่ธิดาก็ดูเศร้า ๆ ชอบกล มีคณาขึ้นมาถามหลานชาย สันติก็โพล่งออกมาเรื่องที่ธิดาไปแต่งตัวโป๊อวดเพื่อนที่โรงเรียน แถมยังพูดถึงธิดาในทางเสียหาย มีคณาโกรธมากลากสันติลงมานั่งต่อหน้าธิดา
    
    “ผู้หญิงตรงหน้านี่คืออาแท้ ๆ ของติ อาที่รักติมาก ป้าจะบอกให้นะติ สมัยที่ติเกิด ป้ายังไม่ได้ทำงาน ไม่มีเงินส่งให้ย่าติ ปู่ย่าติก็ไม่ได้ทำงาน พ่อติก็ไม่ได้ทำงาน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่บ้านติใช้ ทั้งค่าอาหาร ค่าทำคลอด ค่ายา ค่านมของติ ผู้หญิงที่ติกำลังดูถูกคนนี้แหละ ที่เป็นคนหาเงินมาให้ ติเองก็รู้ดีแล้วนี่ว่าอาชีพที่อาดาทำมันมีแต่ความเจ็บปวด น่ารังเกียจแค่ไหน คงไม่ต้องให้ป้ารื้อฟื้นความจำหรอกนะ แต่ที่อาดายอมใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิตเป็นผู้หญิงที่ใครก็ตราหน้าว่าเลวว่าบาป เค้าทำเพื่อใคร ถ้าไม่ใช่เพื่อปู่ย่า พ่อติ แล้วก็ตัวติเอง” มีคณาน้ำตารื้น มองไปที่ธิดา “แล้วรู้มั้ยว่าป้ามองเห็นอะไร ป้าเห็นผู้หญิงเข้มแข็งมาก ที่เกิดมารักครอบครัวเหลือเกิน รักมากทั้ง ๆ ที่รู้ว่าครอบครัวของเธอ เห็นเธอเป็นเพียงสินค้าชิ้นหนึ่ง หวังแต่จะกอบโกยผลประโยชน์จากเธอ ป้าเห็นเด็กผู้หญิงที่กำลังอ้อนวอนขอพ่อ ขอเลิกไปทำงานขายตัว แต่พ่อไม่ยอมเพราะว่าเธอยังหาเงินเลี้ยงพ่อแม่ เลี้ยงพี่ชาย เลี้ยงพี่สะใภ้ที่กำลังท้องได้ไม่มากพอ”
    
    ธิดาร้องไห้โฮออกมา สะอึกสะอื้น หิรัณย์ต้องจับกุมมือธิดาแน่นขึ้นพร้อมหยิบกระดาษทิซชู ส่งให้ สันติดูจ๋อยสนิท เริ่มมีสีหน้าอ่อนลง เริ่มรู้สึกแย่ที่พูดออกไปแบบนั้น
    
    “ตอนที่ป้าเข้าไปเจออาดาในซ่องนรกนั่น ติรู้มั้ยว่าคำแรกที่ผู้หญิงคนนี้ถามป้าคืออะไร เธอถามป้าว่า พ่อ แม่ พี่ชาย และหลานของเธอสบายดีมั้ย เงินที่เธอเก็บออมส่งไปให้ทุกเดือนพอใช้รึเปล่า แต่พอเธอรู้ว่าถูกโกง เถ้าแก่ไม่เคยส่งเงินเธอกลับไปที่บ้านเลย ติรู้มั้ยว่าอาดาทำยังไงต่อ เธอช่วยให้ป้าหนี ทั้งที่รู้ว่าเธอจะต้องเดือดร้อนถึงตาย เท่านั้นยังไม่พอ เธอเอาเงินเก็บที่เหลือทั้งหมดให้ป้า ถอดสร้อยทองจากคอให้ป้า ฝากไปให้พ่อกับแม่ ฝากป้าให้บอกพ่อกับแม่ว่าคิดถึง ฝากป้าให้ดูแลติให้ดี เพราะติคือความหวังเดียวของครอบ ครัว คือความภาคภูมิใจของเธอ”
    
    น้ำตามีคณาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ธิดาเองก็เช่นกัน มีคณาจับหน้าสันติให้เงยหน้ามองธิดาอีกครั้ง “บอกป้าอีกครั้งได้มั้ยว่าตอนนี้ติเห็นอะไร บอกมาซิว่าเห็นอะไร”
    
    สันติปล่อยโฮออกมา สวมกอดธิดาเอาไว้แน่น “อาดา ติขอโทษ ติเสียใจ ต่อไปติจะไม่ทำยังงี้อีกแล้ว” ธิดากอดสันติไว้ ร้องไห้ทั้งพูดจนเสียงสั่นขาด ๆ หาย ๆ “ติไม่มีอะไรต้องขอโทษอาไม่ดีเอง อาไม่ควรทำให้ติอาย อาจะรีบกลับบ้านไปเร็ว ๆ อาจะไม่ทำให้ติต้องอายเพื่อน ๆ อีกแล้ว อาให้สัญญา ติไม่ต้องร้องแล้วนะลูกนะ”
    
    ธิดายิ่งปลอบสันติยิ่งร้องไห้หนักขึ้น และกอดกันแน่นขึ้น มีคณามองดูก็ร้องไห้ตามออกมาด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ หิรัณย์เดินเข้าไปโอบเอวมีคณาสวมกอดเอาไว้ มีคณาพิงหน้าพักกับหิรัณย์ร้องไห้ออกมาอย่างต่อเนื่อง
    
    “ผมภูมิใจในตัวคุณที่สุดคุณมี่” หิรัณย์กระซิบข้างหู มีคณายิ่งร้องไห้หันไปสวมกอดหิรัณย์เอาไว้ หิรัณย์ยิ้มบาง ๆ กอดมีคณาลูบผมอย่างปลอบประโลม...
     
    มีคณาเขียนจดหมายถึงป้ามั่นสิน เล่าเรื่องสันติรวมไปถึงเรื่องหิรัณย์ที่เธอตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน และหิรัณย์ก็อยากจะสู่ขอมีคณาต่อหน้าป้ามั่นสิน จึงอยากให้มั่นสินกลับเมืองไทยสักครั้ง ระหว่างเขียนจดหมาย มีคณาไม่มั่นใจเลยว่าป้ามั่นจะยอมกลับเมืองไทยตามคำขอของเธอ แต่ผิดคาดเมื่อมั่นสินบอกว่าจะกลับมาตามที่มีคณาขอร้อง
    
    มีคณารู้สึกระวนกระวายใจ ประหม่า กังวล เมื่อมารับป้ามั่นสินที่สนามบินจนหิรัณย์รู้สึก และเข้าใจเธอดี เพราะมีคณาถูกเลี้ยงดูมาแบบไม่ใกล้ชิดสนิทสนม ไม่เหมือนกับครอบครัวของเขา มีคณาถอยไปแอบอยู่หลังหิรัณย์เมื่อเห็นมั่นสินเดินออกมา หิรัณย์ดึงมีคณามายืนข้าง ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหามั่นสิน ยกมือไหว้พร้อมแนะนำตัว มีคณาเดินมาหยุดหน้ามั่นสิน มองป้าน้ำตาคลอพูดอะไรไม่ออก ทั้งคิดถึง ทั้งกลัวที่จะแสดงความรักความคิดถึงออกมา มั่นสินทักทายมีคณาด้วยคำพูดพื้น ๆ ห่างเหินตามแบบฉบับของเธอ มีคณารวบรวมความกล้าทั้งหมด เข้าไปกอดป้าแน่น
    
    “มี่คิดถึงคุณป้าที่สุดเลยค่ะ” มีคณากอดมั่นสิน ร้องไห้สะอึกสะอื้น มั่นสินน้ำตาคลอ ๆ ลูบผมมีคณา สีหน้าแววตาเอ็นดู คิดถึงเหมือนกัน และไม่ผลักมีคณาออกไปเหมือนที่เคยทำ หิรัณย์ยิ้มดีใจไปกับมีคณาด้วย
     
    สาระวารีมายื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการกับไชยวัฒน์ ขณะที่มัทนาทำผลงานเด่นจนได้รับรางวัลให้ไปฝึกงานกับแมกกาซีนที่ฝรั่งเศส 2 สัปดาห์ แต่อำเขตต์ตวันว่าครอบครัวของเธออยากให้ไปเรียนต่อและเบรกงานแต่งงานไว้ก่อน พอเฉลยเขตต์ตวันก็อยากจะเขกกะโหลกเด็กจอมแก่นเสียจริงเชียว แต่ลงโทษโดยการอุ้มพาดบ่าและตีก้นไป 3 ที
     
    กอง บก.สยามสารจัดงานปาร์ตี้สละโสดให้กับสามทหารเสือสาว บรรยากาศเป็นที่สนุกสนาน ส่วนไชยวัฒน์เดินเข้ามาในห้องทำงานและพบกระดาษโน้ต สามสาวขู่ให้ตามไปร่วมงานเลี้ยงให้ได้ หลังงานเลี้ยง สามสาวเดินคุยกันมาที่ป้ายรถเมล์ ทั้งสามไม่คิดว่าการที่แยกย้ายกันไปทำงานครั้งนี้จะทำให้แยกกันไปตลอดชีวิต แต่ทั้งสามคนสัญญาว่าจะไปมาหาสู่กัน รวมไปถึงส่งข้อความคุยกันทุกวัน สามสาวยิ้มทั้งน้ำตาของความตื้นตันสวมกอดกันเอาไว้
     
    การแต่งงานของสามสาวจัดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน สาระวารีและษมาจัดงานที่เกาะยานกโดยเชิญแขกเพียง 50 คนเท่านั้น ขณะที่งานของมัทนาและเขตต์ตวันจัดที่สวนสวยริมทะเลสาบตามที่มัทนาต้องการ และเชิญแขกเป็นเพื่อนและผู้ใหญ่  ที่นับถือเพียงไม่กี่คนตามความต้องการของเขตต์     ตวัน ส่วนมีคณาจัดแบบไทย ๆ ที่บ้าน มีแขกมาร่วมงานกว่า 400 คน เพราะหิรัณย์เป็นตำรวจที่ผู้บังคับบัญชาและลูกน้องรักมากมาย บรรยากาศทั้งสามงานเต็มไปด้วยความชื่นมื่น เพราะต่างคนต่างก็ผลัดกันมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาวให้กัน
     
    สายวันหนึ่ง สยามสารก็ได้ต้อนรับ 3 หนุ่มหล่อมาดแมนที่มาสมัครทำงาน ไชยวัฒน์ยิ้มแย้มเดินเข้าประตูห้องประชุมมา พร้อมกับกล่าวทักทาย สามหนุ่มยกมือไหว้นอบน้อม พร้อมเพรียง “สวัสดีฮ่ะ” น้ำเสียงชัดเจนไม่มีแอ๊บแมน ไชยวัฒน์อึ้งไปเล็กน้อย ตั้งสติก่อนพูด “อ่านสัญญาแล้ว ถ้าไม่มีข้อสงสัยอะไรก็เซ็นชื่อท้ายสัญญาได้เลยนะ”
    
    หนุ่มหยิบปากกาก้มเซ็นชื่อ มือจีบนิ้วก้อยกระดกชี้งอนกันโดยพร้อมเพรียง ไชยวัฒน์อึ้ง พึมพำออกมา “ได้สามทหารเสือสาวเหมือนเดิมเลย” ยิ้ม ๆ ชอบใจ ก่อนยกมือขึ้นปาดเหงื่อ แกล้งทำนิ้วก้อยกระดก เล็กน้อย
     
    หิรัณย์และมีคณามาสนามบินเพื่อเดินทางไปฮันนีมูนที่อังกฤษ ตามคำชวนของป้ามั่นสิน หิรัณย์เองก็ตั้งอกตั้งใจจะพาหลานกลับมาฝากพ่อกับแม่ด้วย แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะให้ชื่อ ลอนดอน หรือ บิ๊กเบนดี
    
    ส่วนสาระวารีก็ยอมไปเปิดกาสิโนที่เกาะพระฮามโดยไม่อิดออด เพราะไม่อยากให้ษมาไม่สบายใจ สาระวารียังตั้งใจว่า หลังจากคืนนี้จะหยุดกินยาคุมเสียที เพื่อให้ษมาหายเสียเซลฟ์ว่าเขาไม่มีน้ำยา
    
    ด้านมัทนาก็ขอเรียนต่อด้านการออก แบบเสื้อผ้า เพื่อมาช่วยงานห้องเสื้อตวัน และมัทนาก็มีส่วนช่วยเป็นแรงบันดาลใจในการออกคอลเลกชั่นเสื้อผ้าของเขตต์ตวันด้วย เขตต์ตวันยื่นมือ     จะจับมือมัทนา แต่มัทนากลับส่งอย่างอื่นให้ เมื่อเขตต์ตวันหยิบมาดูก็ยิ้มดีใจ เพราะมันคือที่ตรวจตั้งครรภ์ แสดง 2 ขีด บ่งบอกว่าท้องแล้วจ้า จบบริบูรณ์   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)