“แล้วเธอล่ะ จำได้ไหมว่าทำอะไรกับฉันไว้บ้าง”
ดาวเรืองถึงกับพูดไม่ออก แค้นใจสุด ๆ “ข่มขู่ประชาชน”
“ไม่ได้ข่มขู่ แค่เตือนความจำ ถ้าจำไม่ได้ก็พอมีวิธีเตือนความจำให้ได้นะ” จินตวัฒน์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าจะเปิดเสียงที่อัดไว้ยั่วดาวเรือง
“ไอ้เรือง เอ็งลั่นวาจาอะไรไว้ก็ต้องทำตามนั้นสิวะ คุณปลัดแค่ให้ช่วยนำทาง ไม่ได้ให้ไปว่าราชการแทนซะหน่อย ปลัดเขามีคลิปเสียง ถ้าเขาแฉ เอ็งกับข้าได้ดังไปทั้งอำเภอแน่” ดาวเรืองกำหมัด ครางฮึ่ม! เหมือนจะชกจินตวัฒน์ แต่แล้วก็ตัดใจหันหลังเดินออกมา
จินตวัฒน์พูดลอย ๆ ตามหลัง “พรุ่งนี้ บ่ายสามโมง ตรงเวลาด้วย อย่าลืม”
ตอนที่ 9
ผู้ใหญ่ผันกับเวียงไปขอโทษจ่าแม่นที่โรงพยาบาลแทนวรรณ พร้อมกับขอร้องให้จ่าแม่นยอมปล่อยวรรณไป จ่าแม่นยืนยันว่าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ ไม่มีการทำขวัญ ไม่มีการรับหมากพลู ไม่รับเงิน ไม่คอร์รัปชั่นใด ๆ ทั้งสิ้น ใครทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด บุญปลอดกับบุญปลีกช่วยกันพูด แต่จ่าแม่นยังยืนยันคำเดิม
“ถ้าไม่เห็นแก่พวกข้า ก็ขอให้เห็นแก่แม่บานก็แล้วกัน”
จ่าแม่นได้ยินชื่อบานชื่นก็หูผึ่ง แต่แกล้งทำไม่สนใจ “แม่บานเกี่ยวอะไรด้วย”
“ก็หนูวรรณทำเพื่อลูกสาวแม่บาน บาปมันก็ตกแก่ไอ้เรืองกับแม่บานด้วย”
“อืมม...จริง ฟังขึ้น มีเหตุผล ถ้างั้นก็ได้โว้ย ข้าจะเห็นแก่แม่บาน แต่ข้ามีข้อแม้ ข้ากับแม่บานจะต้องได้ดินเนอร์หรู ๆ กันคืนนี้ แล้วเป็นอันจบกัน”
ผู้ใหญ่ผันกับเวียงต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากบานชื่น ดาวเรืองเห็นช่องที่จะแกล้งจ่าแม่น จึงรีบรับปากแทนบานชื่น แต่มีข้อแม้ว่าการช่วยเหลือครั้งนี้ให้ถือเป็นบุญคุณ
“แม่...เอาขึ้นกระดานไว้เลยว่าบ้านผู้ใหญ่ผันติดหนี้เราอยู่ 1 ครั้ง”
“เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องขึ้นกระดาน ข้าจำได้ ไม่เบี้ยวหรอก”
“ถึงจำได้ก็ต้องขึ้น จะได้มีพยานรู้เห็นเยอะ ๆ”
“ตามสบาย ๆ แต่พูดแล้วว่าจะช่วยก็ต้องช่วยนะ ห้ามคืนคำ”
“คนอย่างไอ้เรืองไม่พูดพล่อย ๆ...แต่...บ้านผู้ใหญ่จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเก้าอี้ ค่าเสียเวลา ช่างหน้าช่างผมก็ต้องป้าไสวกับเสมอใจเท่านั้น จะมาใช้ไก่กาอย่างป้าเวียง น้าปลีก น้าปลอดไม่ได้...ว่าไง”
“จะว่าไงได้อีกล่ะไอ้เรือง ก็ถ้าเอ็งจะคิดค่าอากาศหายใจ ข้าก็ต้องยอม”
ดาวเรืองยิ้มกับเพี้ยน งานนี้ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งความสะใจ
เปิดเทอมแล้ว เพี้ยนต้องไปโรงเรียน ไม่สามารถตะลอน ๆ ไปกับดาวเรืองตอนกลางวันได้อีก จินตวัฒน์ไปรับดาวเรืองที่ร้านตามนัด ดาวเรืองพาจินตวัฒน์ไปดูโรงสีเอื้ออาทรหมู่บ้านดอนล้อมหมี แปลงพืชผักปลอดสารพิษเอื้ออาทรบ้านดอนล้อมหมู โรงผลิตน้ำดื่มเอื้ออาทรบ้านดอนล้อมวัว ฝายกั้นน้ำเพื่อความสุขที่ยั่งยืนของคนดอนล้อม
เก้ง ทุกที่ติดป้ายบอกว่าได้รับการอุปถัมภ์โดยกำพล ชอบอุปถัมภ์
“ดูเหมือนชีวิตคนดอนพัฒนาจะถูกอุปถัมภ์ โดยเสี่ยกำพลทั้งหมด ตั้งแต่ในตัวอำเภอ ยันหมู่บ้านที่กันดารสุด ๆ” “ก็งี้แหละ คนมันชอบช่วยเหลือ ชอบเอื้ออาทร”
“เอื้ออาทรขนาดนี้แล้วเขาอยู่ได้ยังไง ธุรกิจ จริง ๆ ของเสี่ยกำพลล่ะ มีมั้ย”
ดาวเรืองเห็นจินตวัฒน์อยากรู้เลยพาไปดูป่าปลูกของกำพล ที่มีทั้งร่องรอยถูกตัดไปแล้ว และยังยืนต้นเรียงเป็นแถวเป็นแนว
“ใหญ่เหมือนกันนะ”
“ไม่ใหญ่ ก็ไม่ใช่เสี่ยกำพล ปลูกเอง ตัดเอง ขนเอง รวยเอง”
“ถูกต้องตามกฎหมายใช่ไหม”
“ถูกสิ ทั้งกฎหมายไทยและกฎหมายฉบับเสี่ยกำพล”
“หมายความว่าไง กฎหมายฉบับเสี่ยกำพล”
“อ้าว ก็เป็นกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อการทำความดีของเสี่ยกำพลไง”
จินตวัฒน์ไม่เข้าใจ แต่ไม่ทันจะพูดอะไร ดาวเรืองเดินฉีกไปอีกทาง จินตวัฒน์มองตามไป เห็นดาวเรืองเข้าไปหาพวกรถขนซุงที่กำลังขนไม้กันอยู่ จึงรีบเดินตามไป
“ว่าไงน้าเสริม หายหน้าหายตาไปเลยนะ ไม่เห็นไปกินข้าวที่ร้านบ้าง”
“ไม่มีเวลาว่ะ ต้องรีบตัดไม้ จะได้ทันขนพร้อมกับ...ของหวาน”
“เที่ยวนี้มีของหวานด้วยเหรอ”
“เออ ข้ามเขามาแล้ว”
“มีเหลือให้ฉันแบ่งไปขายที่ร้านบ้างมั้ยล่ะ”
“ของไม่พอ จะแบ่งให้เอ็งได้ไง”
เสริมเห็นจินตวัฒน์เขม้นมองสงสัยจึงรีบขอตัวกลับไปทำงานต่อ จินตวัฒน์พยายามคาดคั้นถามดาวเรืองว่าของหวานอะไร ดาวเรืองบอกของหวานที่ว่าคือน้ำตาลทราย จินตวัฒน์ไม่เชื่อแต่ไม่สามารถทำอะไรได้
กำพลไปคุยกับผู้ใหญ่ผัน จะให้เลื่อนจัดงานวัดมาเป็นอาทิตย์หน้า ผู้ใหญ่ผันแอบกระซิบบอกเรื่องจัดซื้อตู้น้ำหยอดเหรียญกับยาฆ่าหญ้าแจกชาวบ้านของ อบต.ตอนนี้งบประมาณผ่านแล้ว ให้กำพลเข้าไปเสนอราคาได้เลย รับรองผ่านฉลุย กำพล รีบรับปากจะตัดแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ผู้ใหญ่ผันเหมือนเดิม ผู้ใหญ่ผันยิ้มหวาน ลาภก้อนใหญ่กำลังจะบินเข้ากระเป๋าอีกแล้ว
เวียงเกณฑ์บุญปลีก บุญปลอด และเมียทุกเบอร์มาช่วยกันทำกับข้าว แล้วยังต้องออกเงินจ้างไสวมาแต่งหน้าทำผมให้บานชื่น ดาวเรืองให้เพี้ยนขนจานชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำ เชิงเทียน ดอกไม้ ผ้าคลุมโต๊ะมาให้บุญปลอดกับบุญปลีกใช้จัดโต๊ะอาหาร เสร็จแล้วเรียกเก็บเงิน 3,500 บาท บุญปลีกจำต้องยอมจ่ายเงินให้กับดาวเรืองไป
จ่าแม่นยอมปล่อยตัววรรณออกจากห้องขัง ก่อนรีบไปดินเนอร์สองต่อสองกับบานชื่นที่ร้านดาวเรือง ดาวเรืองแอบเอาสลอดใส่ในน้ำส้มให้จ่าแม่นดื่ม เพี้ยนใส่กุญแจล็อกห้องน้ำเอาไว้
จ่าแม่นยังไม่ทันได้กินข้าวกับบานชื่นก็ต้องรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ดาวเรืองกับเพี้ยนแอบขำด้วยความสะใจ
“นึกแล้วเชียวว่าต้องมีอะไร ไม่งั้นเอ็งไม่ญาติดีกับไอ้จ่าแม่นหรอก”
“ช่วยไม่ได้ ไอ้จ่าแม่นอยากมีเรื่องกะไอ้เรืองก่อน สั่งสอนแค่นี้มันยังน้อยไป”
บานชื่นทำหน้าดุ ก่อนจะหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ยิ่งกว่าดาวเรืองและเพี้ยน เมื่อเห็นเข้าห้องน้ำไม่ได้ ต้องวิ่งเข้าไปในพงหญ้าแทน
คณะกรรมการหมู่บ้านมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เลื่อนการจัดงานวัดเร็วขึ้น จินตวัฒน์เห็นว่าโอกาสที่ชาวบ้านจะมารวมตัวกันแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ จึงไปปรึกษาไพศาล ว่าจะยกแผนงานพัฒนาที่วางแผนว่าจะทำเดือนหน้ามาทำช่วงมีงานวัดเลย
“แต่จะทำยังไงปลัด งานวัดของชาวบ้าน คือความสนุกสนานรื่นเริง ไม่ใช่งานที่จะมาออก แรง แค่ขนทรายเข้าวัด ก็ส่ายหน้ากันเป็นแถว”
“แต่ถ้าออกแรงแล้วได้ประโยชน์แก่วัดแก่ชุมชนล่ะครับ”
“ประโยชน์ต่อสาธารณะ ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว ปลัดจะไปพูดยังไงให้พวกเขาร่วมมือ”
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง