“ฉันจะทำยังไงดี...จะทำยังไง ท่านชายสิ้นแล้ว ลูกหญิงอยู่ทาง ลูกชายอยู่ทาง” จันทร์ถามเสียงเครือ ๆ
“หม่อมคิดจะให้คุณชายกับคุณหญิงมาอยู่ด้วยกันหรือครับ” ยอดถาม
“ฉันทำได้รึเปล่าล่ะยอด...ทำได้ไหม”
“จะอยู่ที่ไหนล่ะครับ” ยอดท้วงติง
“ก็อยู่...รู้มั้ยแม่เฟืองตายแล้ว”
“หรือครับ...แต่คนอย่างแกก็สมควรตาย บาปหนาเหลือเกิน” ยอดเอ่ยเสียงเข้ม
“ถ้าฉันพาคุณหญิงกลับไปวัง” จันทร์ปรึกษาอยู่ในที
“ไม่มียายเฟืองก็ยังมีท่านหญิงนะครับหม่อม ถึงท่านหญิงคืนคุณชายให้หม่อม หม่อมก็คงอยู่วังรังสิยาลำบากพอดูหรอกครับ”
ยอดปรารภไปตามความคิดของตน แต่ทำให้จันทร์กังวลและกลุ้มใจ
ตอนที่ 7
จันทร์ตัดสินใจไปปรึกษาพจน์ที่ห้องทำงาน “ดิฉันไม่ทราบจะเริ่มต้นยังไง เกี่ยวกับคุณ ชายศักดินากับ...รุ้ง”
“คุณหญิงวิมลโพยม” พจน์เอ่ยขึ้น
“ดิฉันเพิ่งทราบว่า คุณชายศักดินาก็คือคุณ ชายเดียวเมื่อวานนี้เอง เธอมาที่นี่ตั้งหลายครั้งไม่รู้เลยว่าเธอเป็น...ลูก...เธอมาตั้งแต่เธอยังตัวเล็ก ๆ ดิฉันหา ขนมหาน้ำให้เธอรับทาน มองเธอ...ยังนึกว่าเธอน่ารักเหลือเกิน ไม่ถือตัวพูดจาอ่อนโยนกับคนต่ำกว่า...ที่แท้...ที่แท้...ลูกชาย..ลูกชายดิฉันเอง” จันทร์สะอื้นออกมา
“พบแล้วพูดกันรึเปล่า”
“ค่ะ นิดหน่อย”
“พี่ดีใจ...เธอคงมีความสุขที่ได้พบลูกชายบ้าง”
“ดิฉันจะตอบคำถามคุณพี่ ที่เคยถามดิฉันว่าจะทำอย่างไรต่อไป...เพราะเฟืองตายแล้ว ตอนนี้ท่านแม่ของคุณชายเดียวคือ ท่านหญิงแขไขเจิดจรัส ที่สูงส่งผู้คนเคารพนับถือ ถ้าความจริงปรากฏว่า ดิฉันคือแม่คุณชาย ท่านหญิง จะเอาพักตร์ไว้ที่ไหน...ตัวคุณชายเองก็จะสับสน ระหว่าง “ท่านแม่” กับ “แม่” ที่มาจากไหนไม่ทราบ ถ้าดิฉันแสดงตัว คุณพี่คิดว่าคุณชายจะยอมรับดิฉันได้โดยไม่เสียใจหรือคะ เธออาจจะเกลียดดิฉันไปเลย แล้วจะมีประโยชน์อะไร”
“พี่ชื่นชมในการตัดสินใจของเธอ แต่รุ้งล่ะ น้องจะจัดการอย่างไรหรือ จะให้เขาเป็นแค่ รุ้ง ปัณณธร ตลอดไป ไม่ยุติธรรมกับรุ้งนะน้อง” พจน์เตือนอย่างใจเย็น
“ดิฉันคิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน...แม้ว่าตอนนี้แกจะมีความสุขอยู่แล้ว เพราะความกรุณาของคุณแม่และคุณพี่ แต่รุ้งก็ควรมีสิทธิชอบธรรมที่จะใช้ชื่อที่ท่านพ่อประทานให้ เราไม่ได้แอบอ้าง หลักฐานที่ท่านชายประทานมาก็ยังอยู่ เวลานี้ดิฉันจดทุกอย่างที่เกิดขึ้น พอรุ้งอายุ 21 ปี จะมอบให้ลูก ให้รุ้งเลือกระหว่าง เป็นรุ้งกับเป็นคุณหญิงวิมลโพยม รังสิยา...คุณพี่มีความเห็นว่ากระไรคะ” จันทร์เอ่ยถามความเห็นจากพจน์
“พี่เห็นด้วย ถึงเวลานั้น รุ้งจะเป็นผู้ใหญ่พอที่จะตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง พี่หวังว่าพี่คงมีชีวิตยืนยาวจนถึงวันนั้น”
“คุณพี่จะต้องไม่เป็นอะไร ดิฉันกับลูกจะดูแลคุณพี่และคุณแม่ให้สมกับความเมตตาปรานีที่ได้รับ”
จันทร์ยิ้มให้พจน์อย่างซึ้งใจ
ที่โรงเรียนคุณหญิงทอแสงไม่ค่อยชอบหน้าจริมาและรุ้ง จึงมักจะหาเรื่องสองสาวเสมอ
“มองอะไร”
คุณหญิงทอแสงเดินเข้ามาถาม จริมาแสร้งทำเป็นเหลียวซ้ายแลขวา
“เธอนั่นแหละริมา...เธอมองฉันแล้วหัวเราะเยาะ มันเรื่องอะไร” คุณหญิงทอแสงเสียงแข็ง
“ขอโทษ ฉันหัวเราะก่อน แล้วถึงมองเธอ... มีอะไรรึเปล่า” จริมายักไหล่ยียวน
“ไม่จริง”
“ไม่จริงก็ได้ ฉันหัวเราะเยาะเธอก็ได้ แต่ขอโทษอีกทีไม่รู้ว่าหัวเราะเยาะเรื่องอะไร เธอทำอะไรให้ฉันหัวเราะเยาะเหรอคุณหญิงงงงงง”
จริมาพูดใส่หน้าคุณหญิง ทำให้พี่ตุ๊ พี่เหน่ง และอรสา เพื่อน ๆ ทุกคนสีหน้าไม่ดี
“ไป...ไปริมา อย่าทะเลาะกันเลย คุณหญิงคะ” รุ้งเข้ามาห้าม
“อย่ายุ่ง...เธอเป็นใครจะมาห้ามฉัน” คุณหญิงถลึงตาใส่รุ้ง
“อ้าว...ถามอย่างนี้ เก๊าะมีเรื่องสิ นี่น้องฉันทำไมจะมีเรื่องกับเธอไม่ได้ล่ะคุณหญิง” จริมาย้อนเอาเรื่อง
“ไม่ได้ อย่ามายุ่งกับฉัน ห้ามใครห้ามไปเลย แต่อย่าบังอาจมาห้ามฉัน” คุณหญิงตวาดดุ
“ค่ะ...ค่ะ ขอโทษค่ะคุณหญิง”
“ไม่ต้องตัวเล็ก คนอะไรพูดจาแย่มากถือว่าเป็นหม่อมราชวงศ์แล้วจะอยู่เหนือคนอื่นเหรอ...โธ่เอ๊ย คนเหมือนกันนั่นแหละ มองหาเรื่องนี่ทอแสงรัศมี จะเอายังไง”
จริมาท้าทาย คุณหญิงทอแสงเห็นท่าไม่ดีรีบดึงแขนคุณหญิงลักษณา น้องสาวเดินไป พอคุณหญิงลักษณาเดินตามไป แล้วก็สะบัดแขนวิ่งกลับมาหาจริมา
“พี่ริมา พี่รุ้ง พี่สา พี่ตุ๊ พี่เหน่ง อย่าไปกลัว พี่หญิงเค้าต้องเจอคนจริงอย่างพี่ริมา เนี่ยหนีเลยเห็นมั้ย”
คุณหญิงลักษณาเข้ามาบอกพี่ ๆ และเพื่อนอย่างชอบอกชอบใจ
“หญิงลักษณ์ ไม่กลับใช่มั้ย” คุณหญิงทอแสงแว้ดใส่น้องสาว
“ไปนะ” คุณหญิงลักษณาวิ่งกลับไป
“พี่น้องกันจริงรึเปล่าเนี่ย” อรสาปรารภอย่าง เอ็นดู
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง