ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวเรือง วันที่ 11 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 825 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ดาวเรือง วันที่ 11 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2013, 06:13:51 am »

 จู่ ๆ จินตวัฒน์ก็ขับมอเตอร์ไซค์ซาเล้งพาบานชื่นเข้ามาในวัด ดาวเรืองขัดอกขัดใจเป็นอย่างมาก หลวงตาคงแอบโล่งอก ไม่ต้องหน้าแตกต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้าน จินตวัฒน์มองดาวเรืองถมึงทึง ก่อนจะยกมือไหว้ไพศาล ฤดี ผู้ใหญ่ผัน กำนันเทิ้ม หลวงตาคง แล้วหันไปยกมือไหว้ชาวบ้านทุกคน ก่อนเดินไปพูดที่ไมค์
    
    “สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะครับที่ทำให้ต้องรอนาน บังเอิญมีเหตุขัดข้องบางอย่างที่ทำให้ผมต้องเสียเวลาจัดการ แต่ผมอยากจะบอกทุกท่านว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุอะไรหรือมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้ผมถอดใจจากงานนี้ได้ ผมเลือกมาอยู่ที่นี่เพราะต้องการพัฒนาที่นี่ นี่คืองานแรกของผม ความตั้งใจแรกของผม ยังไงผมก็ต้องมา เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะเริ่มการอบรมเดี๋ยวนี้เลยครับ” ชาวบ้านปรบมือให้ระลอกใหญ่ แตรวงบรรเลงเพลงเปิดงานอีกครั้ง จินตวัฒน์ชายตามองดาวเรือง หญิงสาวเชิดหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่แอบกัดฟันกรอด
    
    จินตวัฒน์คิดหาทางเอาคืนดาวเรือง ด้วยการประกาศเรียกดาวเรืองมาเป็นผู้ช่วยผสมปุ๋ยคอก สาธิตการทำปุ๋ยชีวภาพให้ชาวบ้านดู วรรณแอบไม่พอใจที่เห็นจินตวัฒน์มาวุ่นวายกับดาวเรือง
    
    หลังเลิกงาน ดาวเรืองรีบไปอาบน้ำขัดตัว กำจัดกลิ่นขี้ควายออกจากตัวที่หนองน้ำในหมู่บ้าน จินตวัฒน์ตามไปขู่ให้ดาวเรืองกับเพี้ยนไปซ่อมประตูกับบันไดให้เสร็จภายในคืนนี้ ดาวเรืองจะไม่ยอมไป จินตวัฒน์ขู่จะไปฟ้องบานชื่น ดาวเรืองเจ็บใจมาก จำต้องทำตามคำสั่งจินตวัฒน์ แต่ไม่วายหาทางแกล้ง แอบตักน้ำสาดใส่จินตวัฒน์จนเปียกโชกไปทั้งตัว
    
    สำหรับกำจร จินตวัฒน์บอกจะทำทัณฑ์บนฐานละเลยต่อหน้าที่ กำจรรู้ว่าตัวเองผิด พยายามประจบเอาใจจินตวัฒน์เต็มที่ทำเอาดาวเรืองกับเพี้ยนหมั่นไส้
     
    ได้ยินวรรณประกาศก้องว่ารักดาวเรืองเพียงคนเดียว เสมอใจเศร้ามาก ยิ่งมาได้ฟังเรื่องความรักครั้งแรกของไสว เสมอใจก็ยิ่งเศร้าใจหนักขึ้นไปอีก ไสวบอกเสมอใจว่าไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับการไปแอบรักใครข้างเดียว แต่เสมอใจ     คิดว่าเจ็บแค่ไหนก็ยอม ขอแค่มีความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ วันนี้ พรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง ก่อนนอนคืนนั้น เสมอใจกดส่งข้อความบอกรักผ่านโทรศัพท์มือถือไปให้วรรณเช่นเคย วรรณดีใจมากคิดว่าดาวเรืองเป็นคนส่งข้อความมาให้
    
    กลับมาถึงบ้านดาวเรืองแหกปากตะโกนลั่น “ข้าเกลียดมัน”
    
    บานชื่นเปิดประตูห้องนอนออกมาได้ยินพอดี “ใครวะ”
    
    “ก็ไอ้ปลัดจอมบงการนั่นสิแม่”
    
    “ระวัง เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น”
    
    “ไม่มั้งป้าบาน อย่างไอ้พี่วรรณ พี่เรืองเขาก็เกลียดมันมาเป็นปีเป็นชาติ ยังไม่เห็นโอกาสว่าจะมาได้กันตอนไหน”
    
    “นั่นเขาไม่เรียกเกลียด แค่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมากกว่า แม่เคยเจอกับตัวเองแล้ว เกลียดเขาดีนัก สุดท้ายก็เจอเลย”
    
    “ใครอะแม่”
    
    “พ่อเอ็งไง ตอนแม่เป็นเทพี ผู้ใหญ่ผัน หลวงตาคง จ่าแม่นรุมจีบแม่กันทั้งนั้น จู่ ๆ อีตาพนาก็มาจากไหนก็ไม่รู้  ท่าทางยียวนกวนประสาท พูดอะไรก็ไม่ถูกหูแม่ แล้วเป็นไง...กลายเป็นผัว มีลูกยืนหัวโด่อยู่เนี่ย”
    
    “โอ๊ยยย ประวัติศาสตร์ไม่มีวันซ้ำรอยหรอกแม่...พ่อน่ะเป็นผู้ชายที่ใจดีที่สุดในโลก ไอ้คนขี้เก๊ก แก่วิชาการอย่างปลัดนั่น ฉันไม่เอามาทำผะ...เอ๊ย พันธุ์หรอก ชิ”  “สมัยหนุ่ม ๆ พ่อเอ็งก็ขี้เก๊กแก่วิชาการอย่างนี้แหละ” บานชื่นส่ายหน้าแล้วเดินออกไป
    
    ดาวเรืองส่ายหน้า เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
     
    เช้าวันใหม่ ขณะที่จินตวัฒน์กำลังนอนหลับบนเตียงอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงเหมือนใครเคาะหม้อเคาะกระทะดังโช้งเช้งลั่น จินตวัฒน์รีบลุกจากเตียงวิ่งหัวฟูออกไปที่ระเบียง
    
    “เฮ้ย” จินตวัฒน์แหกปากลั่นเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า
    
    ดาวเรืองกับเพี้ยนเอาทัพพีเคาะหม้อ เอาตะหลิวเคาะกระทะอยู่บนกระบะท้ายรถจินตวัฒน์ที่ยังซ่อมไม่เสร็จ แต่ที่อู่ไม่มีที่จอด กำจรเลยไปเอามาจอดไว้หน้าบ้านพัก บนหลังคารถมีกระถางดินเผาปลูกอะไรสักอย่างวางอยู่เต็มพรืด โดยมีชาวบ้าน 6-7 คนยืนดูทั้งคู่อยู่
    
    “เอ้า...เป็ดน้อย เป็ดใหญ่ ตื่นมากินข้าวกันเร้ววว”
    
    จินตวัฒน์วิ่งตาหูเหลือกไปหาดาวเรืองทันที “เธอทำอะไรของเธอหา...ดาวเรือง”
    
    “อ้าว...ก็เป็นตัวแทนเยาวชนดีเด่นอย่างที่ปลัดต้องการไง ชาวบ้านกลุ่มนี้ไม่ได้เข้าอบรมเมื่อวาน เขาอยากรู้ว่าอาหารเร่งไข่เป็ดทำยังไง ฉันก็สอนให้ ง่ายม้าก หาข้าวสวยตากแห้ง 3 กก. ผักต่าง ๆ 3 กก. หยวกกล้วย 3 กก. มันสำปะหลังสับตากแห้ง 3 กก. รำหยาบ 2 ชาม แล้วก็น้ำหมักผลไม้”
    
    เพี้ยนช่วยพูดด้วย “ได้ส่วนผสมทุกอย่างครบแล้วก็เอามาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสร็จแล้วเอาไปต้มให้สุก ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอามาผสมกับรำหยาบ ใส่น้ำหมักลงไป”
    
    “เสร็จแล้วก็เอาให้เป็ดกินวันละมื้อ รับ รองสุขภาพดี ผิวพรรณผ่องใสไร้สิวฝ้า ไข่ดก ไข่ใหญ่ และแดงชัวร์ คุณปลัดเอาหัวเป็นประกัน จริงป๊ะ”
    
    ชาวบ้านหันไปมองจินตวัฒน์ ชายหนุ่มยิ้มเจื่อน
    
    “ครับ แต่...สถานที่เลี้ยงก็ต้องจัดให้เหมาะสมด้วย จะมาเลี้ยงแบบนี้ไม่ได้”
    
    “อ๊ะ...ก็ปลัดบอกเองว่าให้ทำเป็นคอกปิด แล้วก็ให้ลองเอาของที่มีอยู่ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็นี่ไง รถจอดเฉย ๆ ได้ประโยชน์อะไร เอามาปลูกสะระแหน่ เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ไม่ได้ประโยชน์กว่าเหรอ”
    
    “คอกปิด แต่พื้นที่ต้องเปิดให้เป็ดเดินออกกำลังได้ ไม่ใช่อัดอยู่ในคอกแบบนี้ แบบนี้วิธีการมันผิด”
    
    “แล้วที่ถูกทำไง คุณปลัดคนเก่งทำเป็นเปล่า หรือว่า...ดีแต่ปาก” ดาวเรืองยักคิ้วหลิ่วตาท้าทายจินตวัฒน์
    
    จินตวัฒน์ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ...แล้วท่อง...หนักแน่น...ไม่โกรธ...หนักแน่น...ไม่โกรธ...ในใจ
     
    จินตวัฒน์กับกำจรไปทำเล้าเป็ดที่บ้านดาวเรือง บานชื่นชงโอเลี้ยงมาให้สองแก้ว
    
    “ขอบใจมากนะ อุตส่าห์มาทำเล้าเป็ดให้ นี่จ้ะ...โอเลี้ยงเย็น ๆ จะได้ชื่นใจ”
    
    “ทำเล้าแต่ไม่มีเป็ดก็เหมือนสร้างบ้านให้ปลวกอยู่ เปล่าประโยชน์”
    
    เพี้ยนรีบรับลูก “พี่เรืองพูดเหมือนอยากให้คุณปลัดหาเป็ดมาให้เลี้ยง”
    
    “โอ๊ย...โอเลี้ยง 2 แก้วที่ดูดไปน่ะจ่ายมาก่อนเฮอะ อย่าไปฝันถึงเป็ดถึงไก่เล้ยยย”
    
    “พูดจาให้มันหอมหูมั่งได้มั้ยวะ คุณปลัดอย่าไปถือสามันเลยนะคะ ปากมันไวแต่ใจมันไม่ได้คิดอะไรหรอกค่ะ”
    
    “ใครบอกไม่คิด คิดในใจตลอดว่า 2 แก้ว 30 จ่ายมา”
    
    ดาวเรืองยื่นมือออกไปกระดิกรับเงินจากจินตวัฒน์ ผ่านหน้าบานชื่นที่ยืนส่ายหน้าระอา
     
    หลังเสร็จงาน โรสมีนัดทานข้าวกับมาร์คที่ร้านอาหารหรูในโรงแรม ระหว่างรอมาร์ค โรสเห็นพฤกษ์นั่งคุยอยู่กับผู้ชายสูงอายุคนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นยื่นเช็คใบหนึ่งให้พฤกษ์ ก่อนตบบ่าแล้วเดินแยกจากไป พฤกษ์ก้มมองเช็คในมือแล้วยิ้มอย่างเห็นคุณค่า
    
    โรสรีบเดินไปหาพฤษ์ “ถึงตอนนี้ฉันไม่สงสัยแล้ว ว่าทำไมนายถึงไม่รู้จักฉัน”
    
    “ทำไมล่ะครับ”
    
    “ก็ท่าทางนายไม่สนใจผู้หญิงเท่าไหร่ มีคุณลุงคุณป๋าคอยช่วยอย่างนี้ ไม่เห็นต้องไปเป็นเมสเซนเจอร์ให้เหนื่อย”
    
    พฤกษ์ขี้เกียจแก้ตัว “ผมชอบใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์”
    
    มาร์คเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ โรส โรสหันไปจี๋จ๋า ยิ้มให้มาร์ค มาร์คมองพฤกษ์เหมือนจะถามโรสว่าเป็นใคร
    
    พฤกษ์ยิ้ม ๆ แถมกัดกลับ “ผมขอตัวก่อนนะครับ เพราะดูเหมือนคุณเองก็ชอบใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เหมือนกัน”
    
    พูดจบพฤกษ์ก็เก็บข้าวของลุกเดินหนีไปทันที โรสฟึดฟัดเพราะรู้ว่าพฤกษ์ตอกกลับ แต่แล้วก็ทำไม่สนใจหันไปจิ๊จ๊ะกับมาร์คต่อ
     
    เห็นวรรณต้องลำบาก สะกดคำ พิมพ์ส่งข้อความหาดาวเรือง แหลมเลยเสนอให้วรรณรีบหาทางเปิดตัวดาวเรือง ก่อนที่จะถูกมือดีปาดหน้าเค้กไปเสียก่อน
    
    “ข้าว่าแล้วว่าพวกเอ็งต้องรู้สึกเหมือนกับข้า ว่าไอ้ปลัดนั่นมันชักจะทำตัวหนิดหนมกลมกลืนไอ้เรืองมากไปแล้ว” วรรณตบเข่าผาง
    
    “ถูก แล้วดูน้าบานชื่นจะเห็นดีเห็นงามซะด้วยสิ ฉันว่าไอ้ปลัดนี่แหละคู่แข่งสำคัญของพี่เลยนา”
    
    “ฮิโธ่ ก็แค่เรียนมากกว่านิดหน่อย แล้วก็มีงานทำก็แค่นั้น อย่างมันจะมีอะไรเหนือกว่าข้า”
    
    กรอดกับแหลมพูดออกมาพร้อมกัน “ทุกอย่าง”
    
    วรรณถลึงตา ชี้หน้าลูกน้องเขม็ง ทั้งสองคนรีบเอาใจ
    
    “ที่บอกว่าทุกอย่างน่ะ ฉันหมายถึงทุกอย่างไม่มีอะไรเทียบพี่วรรณได้เลย”
    
    “ใช่ ๆ ที่พี่วรรณไม่เรียนต่อก็เพราะระบบการศึกษามันไม่ดี เรียนไป จบมาก็เป็นลูกจ้างเขา แล้วที่พี่วรรณไม่ทำงานก็เพราะมันไม่จำเป็นไง ก็บ้านรวยน่ะ อันนี้ใครก็เข้าใจ”
    
    วรรณฟังแล้วพยักหน้าพึงพอใจ “แต่เรื่องไอ้ปลัดมันตีซี้ทางน้าบานนี่ยังไงข้าก็ปล่อยไว้ไม่ได้ว่ะ ถึงไอ้เรืองมันจะมีใจให้ข้าก็เหอะ แต่ถ้าเกิดถูกแม่จับแต่งขึ้นมา ลูกกตัญญูอย่างมันคงขัดไม่ได้ ถึงตอนนั้นข้าไม่อยากเหนื่อยล่มงานวิวาห์พาเจ้าสาวหนีว่ะ”
    
    “เพราะฉะนั้นพี่วรรณต้องตัดไฟแต่ต้นลม ประกาศออกสื่อให้โลกรู้ว่าไอ้เรืองมันเป็นของพี่”
    
    “ประกาศขอแต่งงานกับมันเลยดีมั้ย”
    
    “บ๊ะ ความคิดพวกเอ็งนี่ฉับไวโดนใจวัยมันอย่างข้าจริง ๆ ดี! ชาวบ้านร้านตลาด รวมถึงไอ้ปลัดหน้าจืดนั่นจะได้รู้กันไปเลยว่าไอ้เรืองเป็นของไอ้วรรณ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งดอนล้อมแรด วะฮ่า ๆ ๆ ๆ”
     
    จู่ ๆ รถกระบะของผู้ใหญ่ผันก็ขับมาจอดหน้าร้านดาวเรือง หน้ากระโปรงมีดอกไม้ผ้าสีชมพูคาดแบบรถแต่งงาน เสียงเพลงจากลำโพงดังอึกทึกจนหนวกหู ลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านคิดว่าผู้ใหญ่ผันแต่งเมียคนที่ 10 เข้าบ้าน แต่พอหันไปเห็นวรรณนั่งถือไมค์อยู่ท้ายกระบะที่ตกแต่งฟู่ฟ่าด้วยดอกไม้และลูกโป่ง ก็คิดว่าพวกตนคงเข้าใจผิดไป
    
    “สวัสดีท่านแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย...ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานให้ความรักของกระผม นายสุวรรณ ขยันสอย กับนางสาวดาวเรือง ดอนสำราญ ในวันนี้ ทุกชีวิตในดอนล้อมแรด แม้แต่หมู หมา กา ไก่ คงไม่มีใครที่ไม่ทราบว่ากระผมและดาวเรืองผูกสมัครรักใคร่กันมานานแล้ว ตอนนี้ความรักของเราสองคนสุกงอมเต็มที่ กระผมจึงอยากประกาศให้ทุกคนทราบโดยทั่วกัน เฮ้ย ไอ้กรอด แจกเครื่องดื่ม”
    
    กรอดกระโดดลงจากรถพร้อมขวดเหล้าที่ห่อกระดาษไว้กับแก้วกรวยกระดาษ “เดี๋ยวมาดื่มอวยพรให้พี่วรรณกัน”
    
    ขณะที่กรอดกำลังแจกแก้วกระดาษให้ชาวบ้าน พร้อมกับรินเหล้าให้ วรรณหันไปเรียกดาวเรืองให้ออกมาจากร้าน แต่บานชื่นกลับเป็นฝ่ายเดินออกมายืนเท้าสะเอวจังก้าหน้าร้านแทนที่จะเป็นดาวเรือง
    
    “ไอ้เรืองไม่อยู่ เอ็งจะประกาศอะไรก็ประกาศมา ข้าจะได้ด่าให้ถูกเรื่อง”
    
    “อ้าว! น้องเรืองไม่อยู่ แล้วไปไหนจ๊ะ”
    
    “มันไปซื้อเป็ดที่ตลาด” วรรณหน้าเสีย หันไปมองลูกน้องเลิ่กลั่กอย่างถามความเห็น
    
    “งั้นเราก็ตามไปที่ตลาดสิพี่ ที่นั่นสักขีพยานเยอะดี”
    
    “งั้นไปเว้ย ภารกิจเดิม เปลี่ยนสถานที่”
    
    กรอดรีบเก็บแก้วกรวยคืนจากชาวบ้านที่ยังถือค้างไว้ “อยากกิน ตามไปกินที่ตลาดละกัน”
    
    กรอดกระโดดขึ้นท้ายรถ รถแล่นออกไปโดยมีชาวบ้านและบานชื่นยืนมองตามด้วยความงงงวย
     
    ดาวเรืองกับเพี้ยน และจินตวัฒน์กับกำจร ต่างฝ่ายต่างไปหาซื้อเป็ดที่ตลาด ทั้งสองฝ่ายเดินกันคนละมุมตลาด เลยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหาซื้อเป็ดเหมือนกัน
    
    ดาวเรืองกับเพี้ยนเดินมาถึงสามแยก เห็นพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านกำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่ จึงรีบเดินแหวกผู้คนเข้าไปดูด้วย วรรณเห็นดาวเรืองก็รีบยกไมค์ขึ้นมาพูด  
    “ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย ในที่นี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกระผม นายสุวรรณ ลูกผู้ใหญ่ผัน แห่งดอนล้อมแรด หลานผู้ใหญ่วงศ์ แห่งดอนล้อมควาย ญาติห่าง ๆ ผู้ใหญ่ไฝแห่งดอนล้อมหมี ทุกท่านคงทราบดีอยู่แล้วว่ากระผมคบหาดูใจกับดาวเรืองมาหลายปีแล้ว”
    
    “เฮ้ย! หยุด! ใครคบหาดูใจกับเอ็งวะไอ้วรรณ” ดาวเรืองเดินดิ่งเข้าไปหาวรรณ
    
    “ขอเสียงปรบมือให้กับว่าที่เจ้าสาวของกระผมด้วยครับ...ข้ารู้ว่าเอ็งอาย แต่ยอมรับหัวใจตัวเองเหอะว่าเอ็งรักข้า”
    
    ดาวเรืองโกรธ รีบแย่งไมค์มาจากวรรณ “ทุกคนฟังให้ดี ฉันขอประกาศตรงนี้เลยว่า สิ่งที่ไอ้วรรณพูดมาทั้งหมดมันไม่จริง ฉันไม่เคยคบหาดูใจอะไรกับมัน และไม่เคยคิดจะแต่งงานกับมันด้วย”
    
    “ไอ้เรือง เอ็งนี่มันปากกับใจไม่ตรงกันจริง ๆ แนะ ๆ ๆ แน้...เอ็งกลัวเสียฟอร์มใช่มั้ยที่ต้องยอมรับต่อหน้าทุกคนว่ารักข้า”
    
    “เฮ้อ! สีซอให้ควายฟัง มันก็ฟังไม่รู้เรื่องยังงี้แหละ” ดาวเรืองมองวรรณอย่างสมเพช ยัดไมค์ใส่มือวรรณแล้วกระโดดลงจากรถ
    
    “ไอ้เรือง เอ็งจะแต่งกับข้าหรือไม่แต่ง”
    
    “ฝันไปเหอะ”
    
    “ไม่แต่งข้าฉุด”
    
    “ข้าท้าให้เอ็งมาฉุด ไม่มาเป็นหมา”
    
    พูดจบดาวเรืองกับเพี้ยนก็พากันเดินหนีไป วรรณโกรธจัด กระโดดลงจากรถ แหลมกับกรอดรีบตาม โดยมีชาวบ้านบางส่วนตามไปด้วย อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
    
    “ไอ้เรือง อย่าปากแข็งน่า” วรรณตามไปเซ้าซี้
    
    “ไม่ได้แข็งแค่ปากอย่างเดียวนะเว้ย หน้าแข้งกับบาทาก็แข็งเหมือนกัน อยากลองมั้ยล่ะ”
    
    “เอาซี้... เอ็งจะส่งหน้าแข้งหรือหน้าผากมา ข้าก็จะจูบให้คนทั้งตลาดรู้ว่าข้ารักเอ็งแค่ไหน แต่งงานกับข้านะไอ้เรือง”
    
    “ไม่ว่าง ไม่แต่ง ถอยไป” ดาวเรืองผลักวรรณอย่างแรงแล้วเดินหนี
    
    “เอ็งรักข้าแล้วไม่แต่งกับข้า เอ็งจะไปแต่งกับใครวะ”
    
    “กับใครก็ได้เว้ยที่เอาเป็ดมาให้ข้าตอนนี้” กำจรเดินเข้ามา ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เห็นดาวเรืองก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊กวักมือ พร้อมตะโกนเรียก “อ้าว ไอ้เรือง พอดีเลย”
    
    กำจรชี้ไปด้านหลัง จินตวัฒน์อุ้มกล่องกระดาษใบโตที่เปิดฝาด้านบน เดินเข้ามา  จินตวัฒน์ยื่นกล่องไปตรงหน้าดาวเรือง “นี่ไง เป็ด ที่เธออยากได้”
    
    ดาวเรืองกับเพี้ยน เดินมาชะโงกดูเป็ดอย่างตื่นเต้น ดาวเรืองยิ้มดีใจ หยิบเป็ดขึ้นมาชื่นชม แต่วรรณกับลูกน้องทั้งสองผงะ
    
    “ไอ้เรืองมันบอกจะแต่งกับคนที่เอาเป็ดมาให้มัน ที่แท้ก็ไอ้ปลัดนี่เอง”
    
    “แบบนี้มันหยามกันชัด ๆ พี่วรรณอย่าไปยอม”
    
    “ใช่พี่ ทำแบบนี้มันดูถูกความเป็นชาย เหยียบย่ำศักดิ์ศรียิ่งกว่าขากเสลดใส่หน้ากันนะพี่”
    
    วรรณเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ยิ่งเห็นดาวเรืองชื่นชมเป็ดของจินตวัฒน์ก็ยิ่งร้อนปานน้ำเดือด กระโจนเข้าใส่จินตวัฒน์ แล้วพุ่งหมัดใส่หน้าทันที ท่ามกลางความแตกตื่นของทุกคน กำจรตั้งสติได้รีบเข้าไปคว้าตัววรรณไว้
    
    “เอ็งเป็นบ้าอะไรวะไอ้วรรณ” ดาวเรืองโวยวายลั่น
    
    “ก็ใครใช้ให้มันมายุ่งกับเอ็งล่ะ ไอ้เรืองเป็นผู้หญิงของข้า เอ็งมาทีหลัง จะมาปาดหน้าเค้กกันง่าย ๆ ยังงี้ได้ไง แล้วมันหน้าที่ของปลัดเหรอ ที่มาเดินตามผู้หญิงคนเดียวต้อย ๆ แบบนี้”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)