ผู้เขียน หัวข้อ: ฟ้ากระจ่างดาว วันที่ 9 กรกฎาคม 2556  (อ่าน 860 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
ฟ้ากระจ่างดาว วันที่ 9 กรกฎาคม 2556
« เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2013, 05:20:54 am »

 “เป็นตำรวจอย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็นตำรวจที่ดีด้วย”
    
    “เหมือนลุงใช่มั้ยครับ”
    
    หิรัณย์ยิ้มพอใจมากวางมือบนหัวสันติ   “เรานี่เป็นเด็กฉลาดมากนะ”
    
    มีคณาฟังมานานแล้ว ออกจะหมั่นไส้   “แล้วติไปรู้ได้ไงว่าลุงเค้าเป็นตำรวจที่ดี”
    
    “ถ้าลุงไม่ดีป้าจะรักเหรอ” วางระเบิดเสร็จแล้ว สันติรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าบ้านนำไปก่อนมีคณาอึ้งไปเลย หน้าแดงร้อนผ่าว อายมาก หิรัณย์อมยิ้มชอบใจ มีคณายื่นมือไปหยิกแขนหิรัณย์ โทรศัพท์มือถือมีคณาดังขัดขึ้นพอดี หิรัณย์ยิ้ม ๆ ฉวยโอกาสหนีกลับเข้าบ้านไป มีคณาเหล่มองค้อนใส่พร้อมกดรับสายมัทนา มัทนาบอกว่าเธอกำลังจะไปดูแลสาระวารีที่เกาะยานก และพอรู้ว่าเขตต์ตวันจะไปด้วย มีคณาก็โล่งอกไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อนรุ่นน้อง หิรัณย์เดินกลับมาบอกลืมขนมหวาน มัทนาได้ยินเสียงผู้ชายเข้าไปในโทรศัพท์ก็ถาม มีคณาเขิน ๆ ไม่กล้าบอก รีบตัดบทและตัดสายไปเลย
     
    หิรัณย์และมีคณาเอาขนมหวานใส่ถ้วย มีคณาถามถึงเรื่องผีเสื้อราตรี หิรัณย์บอกว่าเขาถูกย้ายไปทำคดี “ไข่มุกคิเรยนะ” แล้วมีคณาบอกเคยได้ยินข่าวนี้เห็นว่าถูกโจรกรรมมาจากญี่ปุ่น หิรัณย์บอกว่าข่าววงในว่าไข่มุกที่ถูกขโมยมาตอนนี้เข้ามาที่ไทยแล้ว ผู้ต้องสงสัยเป็นคนไทย ยึดอาชีพส่งออกทั้งผู้หญิงและยา มีคณาถึงกับอึ้งไป รู้สึกไม่ดี หิรัณย์ชวนมีคณาไปทำข่าวนี้ เพราะพรุ่งนี้จะมีแถลงข่าว มีคณาบอกขอโทรฯ ถามไชยวัฒน์ก่อน และหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรฯ ทันที หิรัณย์กินขนมหวานไปมองมีคณาไป ยิ้มปลื้ม ๆ กับผู้หญิงแกร่งขยันทำงานคนนี้จริง ๆ
    
    ในห้องแถลงข่าว หิรัณย์ชะเง้อมองเมื่อนักข่าวเริ่มทยอยมา ไม่นานนักมีคณาก็เดินเข้ามาในชุดสวยตามสไตล์ของเธอ หากแต่ไม่ได้ใส่แว่น หิรัณย์ยิ้มปลื้ม ๆ รู้สึกแปลกตาเพราะมีคณาดูสวยขึ้น มีคณาเดินเข้าห้องมาโดยมีเพื่อนนักข่าวอีกคนเดินจับแขนมีคณาตามเข้ามาด้วย หิรัณย์ปรี่เข้าไปหา มีคณาเห็นหิรัณย์แต่เบลอ ๆ ก่อนจะยกมือไหว้ เพื่อนนักข่าวยกมือไหว้ตาม
    
    “นึกครึ้มยังไงครับ วันนี้ถึงได้ไม่ใส่แว่น”
    
    “เปล่าหรอกค่ะ มี่ถอดแว่นมาเช็ด แต๊กวิ่งมาชนแว่นตก” มีคณาเหล่มองเพื่อน แต๊กยิ้มแหย “แล้วแต๊กเหยียบซ้ำอีกค่ะ โทษน่ะมี่” เพื่อนหันมาสีหน้าสำนึกผิด มีคณาฉีกยิ้มหน้าไม่แฮปปี้นัก
    
    “งั้นเดี๋ยวผมเทคแคร์คุณมี่ให้เอง...ทางนี้ครับ” หิรัณย์ยิ้มพอใจ ยื่นมือให้จับ พร้อมโค้งขี้เล่นเล็กน้อย มีคณาหมั่นไส้ ตีมือหิรัณย์ “ยังมองเห็นอยู่ค่ะ” เดินนำไปหาที่นั่ง หิรัณย์ยิ้ม ๆ รีบเดินตามประกบมีคณาไปนั่งข้าง ๆ มีคณาเหล่มอง หิรัณย์ยิ้มกริ่มนั่งประกบข้างนักข่าวสาวไม่ห่าง
     
    มัทนาไปดูแลสาระวารีที่เกาะยานก จังหวัดตราด จนกระทั่งสาระวารีอาการดีขึ้น จึงกลับมาทำงาน และพบว่าที่สำนักพิมพ์มีข่าวสาระวารีที่คลาดเคลื่อนมากมาย มัทนาจึงพิมพ์เอกสารบอกข่าวและนำไปแปะทั่วทั้งออฟฟิศ
    
    “โปรดทราบ...ขณะนี้พี่สาระวารีปลอดภัยแล้ว ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง คงเดินทางกลับมาทำงานได้เร็ว ๆ นี้ เหตุการณ์โรงเก็บเรือที่เกาะยานกระเบิดไม่ใช่ความเลินเล่อ เพราะสูบบุหรี่ไม่เลือกที่ของพี่สาระวารี แต่เป็นเพราะมีผู้จงใจสร้างสถานการณ์เพื่อทำร้ายสาระวารีโดยอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ และที่สำคัญพี่สาระวารีเลิกสูบบุหรี่ได้แล้ว เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่สยามสารก็รู้กันดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวการได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว...รบกวนหยุดกระพือข่าวลือที่ไม่ถูกต้องด้วย...3 ทหารเสือสาว”
     
    ไชยวัฒน์ให้มัทนาไปทำข่าวแฟชั่นห้องเสื้อตะวัน ส่วนมีคณาก็กำลังตามเรื่องโจรกรรมไข่มุกคิเรยนะ พอเลิกประชุมมีคณาก็บอกมัทนาว่ามีคนจะแนะนำให้รู้จัก ก่อนจะพามัทนามาที่ห้องรับรอง หิรัณย์กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้อง ค่อย ๆ ลดหนังสือพิมพ์ลง พร้อมส่งยิ้มหล่อต้อนรับ
    
    “หล่อเลยอ่ะ” มัทนากระซิบ มีคณาหยิกแขนมัทนาเล็กน้อยให้สำรวมอาการ ตัวเองพยายามปั้นหน้าปกติ แนะนำมัทนา “นี่สารวัตรหิรัณย์” มัทนายกมือไหว้ ขณะที่หิรัณย์ยิ้มแย้มรับไหว้
    
    “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ มัทได้ยินชื่อมาตั้งนาน เพิ่งจะได้เจอตัวจริงวันนี้เอง...มัทก็คิดในใจ ผู้ชายลักษณะยังไงนะ ที่เอาชนะใจพี่มี่ได้” มีคณาเขินจัด หยิกแขนมัทนาบิด จนมัทนาร้องโอดโอย หิรัณย์อมยิ้มไปมา
    
    “นี่น้องมัทนาที่เคยเล่าให้ฟังไงคะ” มีคณาบอก หิรัณย์ยิ้ม “แฟนคุณเขตต์ตะวัน”
    
    มัทนายิ้มค้างไปเลย อายมาก มีคณาแอบอมยิ้มสมน้ำหน้า หิรัณย์ขยิบตาให้มีคณา ประมาณช่วยเอาคืนแก้เขินให้ มัทนาจะหยิกเอวมีคณาคืน มีคณารู้ทัน เบี่ยงตัวหลบก่อนจะชวนทุกคนไปกินข้าว และออกเดินนำไปก่อน มัทนาฉีกยิ้มให้หิรัณย์ก่อนรีบตามมีคณาออกไป เขินปนอาย หิรัณย์ยิ้ม ๆ ลุกเดินตามออกไปอีกคน
     
    มีคณาและสันติกลายเป็นสมาชิกร่วมโต๊ะอาหารเย็นที่บ้านหิรัณย์บ่อยขึ้น หลังจากทุกคนทานข้าวอิ่มแล้ว มีคณาช่วยกัลยายกจานอาหารที่ทานแล้วไปไว้ในครัว สันติมองตามกัลยาแล้วช่วยยกจานตามไป แบบไม่ต้องมีใครสั่ง หิรัณย์มองตามสันติไปยิ้ม ๆ ก่อนจะลุกเดินไปนั่งนำที่โซฟารับแขก กัลยาเดินนำกลับออกมา จะยกจานที่เหลือ แต่สันติพูดขึ้น
    
    “ไม่ต้องครับคุณยาย เดี๋ยวติยกเก็บให้เอง”
    
    “ขอบใจมากลูก” กัลยายิ้มเอ็นดู
    
    มีคณาเดินตามออกมาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เห็นสันติเดินยกจานอาหารที่ทานแล้วไปเข้าครัว สาวใช้รีบตามออกมาช่วยยกจานอาหารไปล้าง มีคณาเดินคุยกับกัลยาไปที่โซฟารับแขก
    
    “อยู่บ้านติไม่เคยช่วยยังงี้หรอกนะคะ ดื่มน้ำแก้วนึงยังวางทิ้งไว้เลย ต้องเตือนถึงจะยอมไปล้างเก็บ” มีคณาและกัลยาไปนั่งกับหิรัณย์ที่โซฟารับแขก
    
    “งั้นผมต้องพาคุณมี่กับหลานมาเป็นลูกค้าครัวกัลยาบ่อย ๆ แล้วล่ะ ไม่เท่าไหร่ รับรองสันติทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง” หิรัณย์บอก กัลยายิ้ม
    
    “หนูมี่ต้องอย่าไปใช้เค้า ทำให้เค้าเห็นก่อน ให้เค้ารู้ว่าเราเหนื่อย แล้วเราขอร้องให้เค้าช่วย เค้าจะเต็มใจช่วยเราเองมากกว่าไปชี้นิ้วสั่ง”
    
    “ลูก ๆ บ้านนี้เจอมุกนี้ทุกคน เอะอะ โอ๊ยหมดแรง โอ๊ยแม่เหนื่อย จะเป็นลม ที่แท้จะนั่งดูละคร” หิรัณย์แกล้งโวยใส่แม่ กัลยาขำ ๆ ตีตักลูกชายเบา ๆ
    
    มีคณายิ้ม “ถ้าใช้วิธีคุณป้า มี่คงต้องทำงานเองจนแก่ตายล่ะค่ะ สันติไม่มีทางสงสารมี่หรอกค่ะ จะสมน้ำหน้าเอามากกว่า”
    
    “อย่าไปดูถูกน้ำใจหลานแบบนั้นสิ” กัลยาบอก สันติเดินกลับออกมา กัลยาพูดกับสันติ
    
    “สันติ ช่วยหยิบผลไม้ในตู้เย็นให้ยายหน่อยสิลูก เอาส้อมมาด้วยนะ แล้วมานั่งทานด้วยกัน”
    
    “ครับคุณยาย” สันติเดินกลับไปทางครัว มีคณาอึ้ง ๆ เล็กน้อยที่สันติว่าง่ายมาก หิรัณย์กระเซ้า “บารมีผิดกัน” เลยถูกมีคณาค้อนใส่
    
    “เราก็พูดเกินไปไม่ขนาดนั้นหรอก...” กัลยาต่อว่าลูกชายกลาย ๆ และหันจับมือมีคณา
    
    “สันติโตมากับย่าไม่ใช่เหรอหนู ไม่แปลกหรอกที่เค้าจะรู้สึกผูกพันกับคนสูงอายุมากกว่าสาว ๆ แบบหนู”
    
    ระหว่างที่กัลยาคุยกับมีคณา หิรัณย์ก็ฟังและแอบมองมีคณา อมยิ้มดีใจตลอดที่แม่เอ็นดูมีคณา กัลยาบีบมือมีคณาเบา ๆ ให้กำลังใจ “แต่หนูมี่ไม่ต้องห่วงนะลูก เด็กน่ะยังไงก็เด็กวันยังค่ำ ถึงจะร้ายหรือมีภูมิหลังยังไงมา แต่ถ้าเราให้ความรัก ความจริงใจ ไม่นานหรอกเค้าก็จะรักจะผูกพันกับหนูไปเอง”
    
    “ค่ะคุณป้า” มีคณายิ้ม
    
    สันติถือถาดใส่ผลไม้ออกมาวางที่กลางโซฟา กัลยาบอกให้สันติมานั่งข้าง ๆ สันติทำตามอย่างว่าง่าย และจิ้มผลไม้กิน ดูสดใสมาก ไม่มีวี่แววเป็นเด็กเกเรเลย ยิ้มออกมาอย่างมีกำลังใจขึ้น
    
    บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่มีคณานั่งอยู่กับมัทนา มีสาวคนหนึ่งโทรฯมาเตือนมัทนาไม่ให้ยุ่งกับผู้ชายคนหนึ่ง หากไม่อยากตกนรกทั้งเป็น แต่ไม่ได้บอกชื่อ ทำให้มัทนางง ๆ เหมือนกัน มัทนาฟังเสียงคุ้น ๆ และมั่นใจว่าต้องเป็นเสียงของชลบุษย์ เลขาของเขตต์ตวัน มีคณาบอกว่าคงเป็นพวกหวงเจ้านาย พอเห็นเขตต์ตวันสนใจมัทนาก็เลยอิจฉา โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)