“อยู่นี่ยายเนียง แกจะมารุมฉันใช่มั้ย มาเลย มา นังลี นังอ่อน คอยอะไร...เข้ามา” “พี่ฉัตต์ จิกหัวเรียกเขาอย่างนี้ ริมาจะฟ้องคุณย่า คุณย่าไม่ให้จิกเรียกใคร คุณย่ายังไม่เคยเรียก เรียก เนียง ลี อ้อยเฉย ๆ สารภีก็เรียกเฉย ๆ”
“จะเรียก...นัง...นัง...นัง”
ฉัตต์ ชี้หน้าไปที่ทุกคนแต่ไม่ออกชื่อ จันทร์กับละเมียดเดินลับพุ่มไม้มาพอดี ฉัตต์ชี้ค้าง หันมาดูเห็นจริมายืนขำ
“คุณฉัตต์คะ คุณย่าให้หาคุณฉัตต์ค่ะ”
ฉัตต์หน้าบึ้งจัด มองจันทร์เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จันทร์หลบตาเลี่ยงไปหารุ้ง
“ถึงคุณย่าแล้วเหรอ ใครสาระแนล่ะคราวนี้” ฉัตต์มองจันทร์ไม่วางตา
รุ้งมองหน้าแม่เป็นเชิงถาม จันทร์ส่ายหน้าปฏิเสธ
“คราวนี้ใครฟ้องล่ะ อย่ามาทำหน้าไม่รู้เรื่องหน่อยเลยตั้งแต่เข้ามาอยู่มีแต่เรื่อง”
ยอดโผล่พรวดออกมา แบบฟังอยู่นานแล้ว มาถึงกางกั้นรุ้ง
“ไอ้ใบ้ อ๋อ จะปกป้องเจ้านายแกรึ เอาสิวะ”
ยอดส่ายมือว่าไม่ใช่ ฉัตต์กระโดด แล้วถีบยอดอกยอดเต็มแรง ทุกคนตกใจร้องห้ามเสียงดัง...พจน์ลงโทษด้วยการตีฉัตต์ จันทร์บอกทุกคนที่ยืนดูให้กลับไป จันทร์เหลือบมองเห็นฉัตต์มองอย่างเอาเรื่อง
“ตาฉัตต์ มองเขาอย่างนั้นจะทำอะไรเขาหรือลูก”
“เปล่าครับคุณย่า”
“ฉัตต์ ลูกจะทำยังไงกับยอด จะขอโทษเขามั้ย”
ฉัตต์ปฏิเสธทันควัน
“แต่ลูกผิดนะ นอกจากยอดจะไม่ได้ทำอะไรลูกเลย เขายังเป็นคนพิการ รังแกคนพิการไม่ใช่ลูกผู้ชายเลย”
“มันไม่ได้พิการ มันพูดได้ คุณพ่อน่ะถูกมันหลอก มันหลอกคุณย่า หลอกคุณพ่อหลอกเราทุกคน”
“จนกว่าลูกจะมีหลักฐานที่ชัดเจน พ่อถึงจะเชื่อ ตอนนี้พ่อต้องคิดว่ายอดเป็นใบ้จริง ๆ เพราะฉะนั้นฉัตต์ผิดอย่างไม่น่าให้อภัย”
หน้ายอดไม่สบายใจเลย ทำท่าไม่เป็นไร ไม่เอาเรื่อง แล้วกราบลงกับพื้น
“ยอด...ไม่ได้หรอก ลูกชายฉัน ฉันจะไม่ยอมให้ประพฤติตัวไม่ดี ฉัตต์ต้องยอมรับโทษ ถูกต้องมั้ยลูก”
ฉัตต์สบตาพ่อ สายตาแรง เหลือบไปเห็นยอดทำท่าบอกไม่เอาเรื่อง
“เฮ้ย ไอ้ยอดแกไม่ต้องมายกโทษให้ฉัน เพราะฉันอยากให้แกเจ็บ สาสมกับที่มาตบตาพวกเรา ฉันถูกตีแค่นี้คุ้มโวย...แล้วระวังตัวไว้ ไม่ได้มีแค่นี้หรอก”
พจน์และคุณหณิงเพ็งปรามพร้อมกัน
“ทำกับเขาอย่างนั้นเพราะคิดว่าเขาต่ำกว่าเรางั้นรึ...หรือคิดว่าเขาไม่ใช่คนเหมือนเรา...ไม่ตอบพ่อ แสดงว่าคิดเป็นอย่างอื่น คิดว่าเขาเป็นอะไร...เขาเป็นคนเหมือนเรารึเปล่า”
“ครับ” ฉัตต์ตอบเบา ๆ
“แค่นั้นแหละ คิดแค่นั้นแหละก็ทำกับเขาอย่างที่ทำไม่ได้ จำคำพ่อไว้ เพราะฉะนั้นอย่าให้พ่อเห็นอีก”
พจน์เดินพ้นออกไป ฉัตต์หันมาจ้องยอดที่นั่งก้มหน้าด้วยสายตาเกลียดชัง ยอดก้มหน้าเสียใจ
“ไอ้ยอด ใช่ แกเป็นคน ฉันก็เป็นคน แต่ฉันไม่ใช่คนอย่างแกนะ โกหก หลอกลวง เจ้าเล่ห์ แกเป็นตัวเวรตัวกรรม พวกแกทั้งสามคนนั่นแหละ” พูดจบฉัตต์เดินพรวดไปทันที
ยอดหันมองหน้ารุ้งที่นั่งหน้าจ๋อยอย่างให้กำลังใจ จันทร์สงสารลูกจึงเข้ามากอดปลอบ รุ้งสะอื้นเงียบ ๆ
“รุ้ง...ฟังแม่นะลูก คนเรา...จะทุกข์จะสุขอยู่ที่ไหน...แม่เคยบอกลูกหลายทีแล้ว”
“อยู่ที่ใจเราจ้ะ” รุ้งตอบ พลางสะอื้น
“ตอนนี้ใจของลูกทุกข์หรือสุข”
รุ้งร้องไห้มากขึ้น เสียงสะอื้นถี่ขึ้น...ถี่ขึ้น เป็นคำตอบ
“คุณฉัตต์ว่าลูกอย่างนั้น ลูกร้องไห้เสียใจ แม่ไม่ว่าเลย แม่จะคอยเช็ดน้ำตาให้รุ้งด้วยซ้ำ”
“ลูกคิดว่าแม่จะว่าลูกขี้แย”
“ไม่ว่า เพราะคุณฉัตต์ว่าลูกจริง ๆ รุ้งเสียใจก็ถูกแล้วนี่ลูก...แต่แม่อยากให้ลูกคิดอะไรมากกว่านั้น...คุณฉัตต์ เป็นลูกหลานคุณพจน์ กับคุณหญิง เป็นพี่ชายคุณริมา...ทั้งคุณพจน์ ทั้งคุณหญิง ทั้งคุณริมา รักลูก ดีกับลูกที่สุด ทั้ง ๆ ที่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกับท่านเลย เราแค่เป็นคนพเนจรมาพึ่งใบบุญท่าน... จริงมั้ย” จันทร์สอน
“จริงจ๊ะแม่” รุ้งเริ่มอารมณ์ดีขึ้น
“แค่นี้ลูกคิดออกหรือยังว่า แม่จะพูดอะไรต่อ”
“รู้จ้ะแม่...ลูกรู้แล้ว...ลูกจะไม่โกรธคุณฉัตต์ คุณฉัตต์พูด...ลูกจะไม่ฟัง”
จันทร์จูบแก้มลูกเบา ๆ อย่างแสนรัก
“ถ้ารุ้งทำได้อย่างนั้น ลูกรู้มั้ยว่าใครจะมีความสุข”
รุ้งจ้องแม่ แล้วสองมือประคองหน้าแม่เหมือนจะบอกว่าเธอรักแม่และเข้าใจที่สอน จันทร์น้ำตาคลอ ยิ้มชื่นใจ
“ขอบใจนะลูก...ขอบใจที่ฟังแม่”
“ลูกรักแม่จันทร์...ลูกรักแม่จันทร์ที่สุด”
ละเมียดยืนฟังอยู่ที่หน้าประตู ซาบซึ้ง น้ำตาคลอ ๆ
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง