ผู้เขียน หัวข้อ: Google Glass สั่งการรถยนต์ผ่านแอพ  (อ่าน 558 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
Google Glass สั่งการรถยนต์ผ่านแอพ
« เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 09:14:00 pm »
หลังจากปล่อย Google Glass ล็อตแรกไปให้กับนักพัฒนาสำหรับทดสอบการใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นต่างๆเพื่อหาจุดบกพร่องและปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์ก่อนขายจริงในปี 2014 ระหว่างนี้เราก็มักเห็นแอพใหม่ๆที่ทำขึ้นรองรับการใช้งานร่วมกับ Google Glass มากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด Tesla Motor ได้คิดค้นแอพที่สามารถทำงานร่วมกับ Google Glass ไว้ใช้ในการสั่งการรถยนต์ได้                                  พื้นที่โฆษณา  

                                    สนใจลงโฆษณา ติดต่อ โทร.0-2642-3400 ต่อ 4613                                                                  

 แอพดังกล่าวชื่อว่า GLASSTESLA เป็นการร่วมมือระหว่าง Google Glass กับ Tesla Model S รถยนต์จากโครงการยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของค่าย Tesla Motor ความสามารถของแอพ GLASSTESLA ใน Google Glass ช่วยในการค้นหาตำแหน่งที่คุณจอดรถยนต์ทิ้งไว้ได้, คอยตรวจสอบหรือสั่งให้ประตูรถหรือซันรูฟว่าเปิดหรือปิดได้จากระยะไกล, สามารถล็อค/ปลดล็อครถได้, คอยตรวจสอบอุณหภูมิและสภาพภูมิอากาศทั้งภายในและภายนอกรถ, สามารถสั่งการให้บีบแตรหรือกระพริบไฟหน้ารถได้ รวมถึงการชาร์จไฟรถยนต์ผ่านทาง Google Glass หากสังเกตคุณสมบัติของแอพดังกล่าวจะเห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ Tesla Model S จะถูกพัฒนาต่อยอดให้สามารถขับเองได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งก็นับว่าสอดคล้องกับข่าวก่อนหน้านี้ที่ทาง Tesla Motor กำลังมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับ Google เพื่อพัฒนารถยนต์ขับเองได้ หลังจากเห็นความเป็นไปได้ของระบบ Autonomous Driving System ที่ Google เป็นคนคิดค้นขึ้นมาและสามารถนำไปต่อยอดได้

 เชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Google Glass จะเข้ามาสร้างอีกบทบาทหนึ่งในวงการยานยนต์ที่ช่วยให้สั่งการและควบคุมรถยนต์โดยไม่ต้องขับเองอีกต่อไป อ้างอิงจาก 9to5google                                                                                                                                                                                


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)