ผู้เขียน หัวข้อ: แค้นเสน่หา วันที่ 25 มิถุนายน 2556  (อ่าน 341 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แค้นเสน่หา วันที่ 25 มิถุนายน 2556
« เมื่อ: มิถุนายน 25, 2013, 04:50:52 am »

 เดชที่แอบฟังอยู่ ได้ยินทุกอย่างที่ทั้งสามคุยกัน....แล้วเอาข้อมูลที่ได้ไปรายงานหลวงวิเศษกับท่านชายทราบ ท่านชายจึงเรียกสาลี่และพิกุลมาสอบถามอย่างลับ ๆ แต่ไม่รอดหูรอดตาเฟืองไปได้ ด้วยความสงสัยจึงสั่งผ่องไปสืบดู จนรู้ว่าท่านชายส่งเดชมาสืบเรื่องบุหลัน    “แปลว่าเรารู้ตัวไอ้ผู้ร้ายแล้ว แต่เอาโทษอีคนบงการไม่ได้งั้นเหรอ”
    
    “พระทัยเย็นกระหม่อม ทุกอย่างต้องมีหลักฐาน ต่อให้พบทั้งสองคนและมันสองคนคายออกมาทุกอย่าง กรณีอย่างนี้ เราก็เอาผิดนางเฟืองไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐาน”
    
    “อีเฟือง กฎหมายลงโทษมึงไม่ได้ แต่กูนี่แหละจะเป็นคนลงโทษมึงเอง”
    
    “คุณหลวงวิเศษส่งคนออกตามหาไอ้แคล้วกับไอ้ยอดจนจะพลิกแผ่นดิน”
    
    “ไอ้ยอดไม่รู้ แต่ไอ้แคล้วมีบ่อนที่ไหนก็มีมัน ตามมันที่บ่อน ต้องใช้เงินเท่าไหร่มาเอาไป”
     
    ลูกน้องของหลวงวิเศษที่จับตาดูแคล้วอยู่ที่บ่อนรายงานความคืบหน้า หลวงวิเศษคาดการณ์ว่าหากแคล้วเล่นการพนันจนหมดตัวเมื่อไร ก็จะกลับไปขอเงินเฟืองอีก และสั่งกำชับเดชคอยดูเฟืองอย่าให้คลาดสายตา
     
    เป็นจริงดั่งที่ท่านชายคาดการณ์ไว้ เพราะในเวลาไม่นานนัก แคล้ว ผู้สมรู้ร่วมคิดฆ่าบุหลันก็กลับมาขู่เข็ญเอาเงินจากเฟือง
    
    “นี่ป้า ถ้าฉันไม่จนตรอกฉันไม่มาหรอก เสี่ยงแค่ไหน ถ้าเกิดมีคนเห็น มาถามฉันว่ามาทำไม เกิดฉันพูดผิดพูดถูกวกไปพูดเรื่องหม่อมกับไอ้ยอด ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่จะเข้าปิ้ง ป้าก็จะพลอยไปด้วย”
    
    “มึงขู่กูเหรอไอ้แคล้ว”
    
    “โธ่เอ๊ย ทำยังงั้นฉันก็เนรคุณป้าน่ะสิ แค่ให้ป้าช่วยหน่อย อีกหนเดียว แล้วฉันจะไปเหมือนตายจากกันยังไงยังงั้นเลย”
    
    “กูไม่มีเพราะให้มึงไปหมดแล้ว เอางี้วันหลังมาใหม่ กูจะขอประทานจากท่านหญิงให้”
    
    “อย่าให้ฉันโมโหนะป้า วันหลังน่ะเมื่อไหร่กัน ฉันไม่ได้กินเหล้าเปรี้ยวปากจะลงแดงตายอยู่แล้ว มีเท่าไหร่เอามาก่อน เงินไม่มีเอาของมาก็ได้ สายสร้อยไงป้า...เข็มขัดนากป้าก็มีใช่มั้ย ให้ฉันยืมก่อน”
    
    “ไอ้เวรแคล้ว กูไม่ให้ สายสร้อยเส้นนี้ หม่อมแม่ท่านหญิงประทานให้กู กูไม่เคยถอดจากตัว”
    
    “แต่วันนี้ป้าต้องถอดให้ฉัน”
    
    แคล้วมองเขม็งเข้ามาประชิดตัว เฟืองไม่ยอมผลักแคล้วกระเด็นไป     “ให้มึง กูก็ไม่มีวันได้คืน เอาเถอะจะขอท่านหญิงไว้ให้ มึงกลับมาอีกทีแล้วกัน” เฟืองต่อรอง
    
    “ฉันรอไม่ได้ เจ้าหนี้มันรอฉันอยู่ ไม่ได้เงินมันเอาฉันตาย ถอดมาเถอะป้า”
    
    “อย่าเข้ามานะไอ้แคล้ว” เฟืองถอยกรูด
    
    “ป้า ขอดี ๆ อย่าให้ต้องลงไม้ลงมือ ป้ามีบุญคุณกับฉันอย่าให้ฉันเนรคุณเลย ฉันไม่อยากทำ คิดดู ถ้าท่านชายท่านหญิงทรงรู้ว่า ที่จริงแล้ว ป้าเป็นตัวการใหญ่…”
    
    “กูผิดมึงก็ผิด”
    
    “ฉันก็ยอมรับผิด อย่างมากติดคุกไม่เท่าไหร่ แต่ป้าสิไม่ประหารก็ตลอดชีวิต ป้าคิดเองลงมือเองทั้งนั้น”
    
    เฟืองถอยหนีแคล้วมาที่เรือนกล้วยไม้ เท้าสะดุดกับเสียมจนตัวคะมำจะล้ม แคล้วเข้ามาจับตัว เฟืองสะบัด ทั้งสองต่อสู้กันไปมา ด้วยวัยและแรงเฟืองสู้แคล้วไม่ได้ จึงคิดอุบาย ถอดสายสร้อยให้
    
    “ฉันสัญญาไปแล้วจะไปลับ แล้วฉันจะไม่ปากโป้งพูดความลับของป้าเป็นอันขาด” แคล้วยกมือไหว้ เฟืองหรี่ตามองแคล้ว รู้ดีว่าคนอย่างมันไม่มีวันรักษาสัญญา จังหวะที่หันหลังเดินจากไป
    
    “ไอ้แคล้ว”
    
    แคล้วชะงัก หยุดเดินหันกลับเจอจอบฟาดเต็มหน้า เฟืองฟาดซ้ำ ๆ อย่างบ้าคลั่ง โดยไม่รู้ว่าเดชแอบดูอยู่ เมื่อเห็นว่าแคล้วตายแล้ว เฟืองโยนจอบทิ้งก่อนจะร้องตะโกนให้คนช่วย ท่านชายและท่านหญิงตกใจรีบออกมา
    
    “อะไรกันสน” ท่านชายถาม
    
    “ขโมยเข้าวังกระหม่อม ถูกตีอยู่ที่ทางไปเรือนบ่าว”
    
    “อะไรนะ ทำไมต้องตีมัน จับตัวไม่ได้      เหรอ คนออกเต็มวัง”
    
    “มันกระชากสร้อยแม่เฟืองกระหม่อม แม่เฟืองสู้ เอาจอบฟาดหัว”
    
    เดชที่กำลังตรวจดูสภาพศพอยู่ พอเห็นท่านชายมาก็รีบรายงาน ได้ยินกันสองคน
    
    “แม่เฟืองฟาดเข้าที่หน้า ด้วยจอบอันนั้นกระหม่อม แล้วตีซ้ำอีก 2-3 ที กระหม่อมเข้ามาเห็นพอดี”
    
    “เห็นกำลังตีหรือ ตีแล้วมันทำยังไง ...”
    
    เดชพลิกตัวแคล้วที่นอนคว่ำหน้าให้หงายขึ้นให้ดู ท่านชายสีหน้าเครียดและผิดหวังที่แคล้วตาย เพราะผิดแผนไปหมด สั่งให้สนไปแจ้งตำรวจ และพาศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาล หมอตรวจชีพจรและเปลือกตาแล้วออกมาบอกว่าแคล้วยังไม่ตาย ทุกคนตกใจรีบเข้าไปดู มือแคล้วกระดิก ก็ยิ้มอย่างมีความหวัง
     
    ท่านหญิงแขไขรู้จากพิกุลว่าหลังประสบเหตุการณ์ เฟืองก็หลบอยู่ในห้อง เธอจึงตามมาดูด้วยความเป็นห่วง
    
    “เฟืองไม่เจ็บใช่มั้ย ขโมยมันทำอะไรเฟืองรึเปล่า”
    
    “มันโดนหม่อมฉันเล่นงานก่อนมังคะ เล่นกับใครไม่เล่นมากำแหงกับหม่อมฉัน”
    
    “เฟือง... รู้มั้ยว่ามันตายแล้วนะ เขาเอาศพไปแล้ว”
    
    “มันกระชากสร้อยพระหม่อมฉัน หม่อมฉันเลยใช้พลั่วตีมันมังคะ”
    
    “ไม่น่าห่วงของนอกกายเลย เฟืองเห็นหน้ามันรึเปล่า”
    
    “ไม่เห็นเพคะ มืด นัยน์ตาหม่อมฉันไม่ดี”
    
    “เฟืองไม่เป็นไร หญิงก็สบายใจ คนมันทำชั่วกรรมก็ตามสนอง ...วันนี้เฟืองไม่ต้องขึ้นไปหาหญิงก็ได้ หญิงจะให้พิกุลยกข้าวมาให้”
    
    “โถ ทูนหัว ไม่เป็นไรเพคะ หม่อมฉันหายตกใจแล้ว”
    
    หลังท่านหญิงกับพิกุลออกไป เฟืองลุกขึ้นเดินเหินกระปรี้กระเปร่า
    
    “ไอ้แคล้ว มึงไม่มีวันชนะกู ต่อให้มึงเป็นผีกลับมากูก็จะจับมึงยัดใส่หม้อถ่วงน้ำ คอยดู...ฮ่ะ...ฮ่ะ...ฮ่ะ”
    
    เฟืองอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เดินลอยชายจะไปตำหนัก เดชนั่งขุดดินหันมามอง เฟืองไม่พอใจตรงเข้าไปถามอย่างเอาเรื่อง เดชปฏิเสธ
    
    “มึงอย่ามาปากแข็ง จะว่าอะไรกูก็ว่ามา ไม่ต้องมามองกูแบบนั้น ถือว่าท่านชายให้ท้ายรึมึง ให้ท้ายยังไงมึงก็อยู่ไม่ได้ วันหนึ่งก็ต้องระเห็จไปจากวัง มึงคอยดู มึงอยากอยู่ให้นาน ๆ มั้ยไอ้เดช...ถ้าอยาก...มึงกราบตีนกู กูช่วยมึงได้”
    
    เดชก้มหน้ายืนนิ่ง เฟืองได้ใจ
    
    “กราบ...ถ้าไม่งั้นมึงอยู่ไม่ได้ อย่านึกว่าท่านชายทรงช่วยได้ ถึงท่านชายทรงรับมึง แต่ท่านหญิงทรงควบคุมคนงานทั้งหมด เอ้า..กราบ”
    
    เดชเงยหน้ามองเฟืองแล้วยิ้มเย้ย
    
    “ฉันจะทำงานที่วังนี้เป็นวันสุดท้าย เพราะภารกิจของฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
    
    เดชพูดจบก็เดินออกไป เฟืองอ้าปากค้าง มองตามอย่างงง ๆ ก่อนจะขึ้นไปหาท่านหญิงบนตำหนัก เมื่อรู้จากว่าท่านชายอยู่ที่โรงพยาบาล เฟืองกระวนกระวาย สีหน้าครุ่นคิด กลัวว่าแคล้วยังไม่ตาย   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)