ที่อาร์เอสฯ ลาดพร้าว 15 เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. นักร้องสาวลูกทุ่งชื่อดัง น.ส.สุธีวัน ทวีสิน หรือ ใบเตย อาร์สยาม เจ้าของฉายา “สั้นเสมอหู” พร้อมกับ นายศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้จัดการค่ายเพลงอาร์สยาม ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ปากโป้ง” ทางช่อง 8 เกี่ยวกับกรณีที่ นายดำรงค์ ทองสม รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ออกมาจวกนักร้องสาวว่านำเพลงลุกทุ่งมาสร้างจุดขายให้ตัวเอง และยังใช้ร่างกาย ท่าเต้น ดึงดูดให้คนสนใจมากกว่าการขายเนื้อหา พร้อมกันนี้ยังฝากไปถึงผู้ประกอบธุรกิจวงการการแสดง และวงการเพลงว่าไม่อยากให้มองแต่ผลประโยชน์ทางธุรกิจมากเกินไป ซึ่งหลังจากจบรายการทั้งใบเตยและนายศุภชัย ได้ให้สัมภาษณ์พร้อมกันกับสื่อมวลชน
ใบเตย กล่าวว่า ตกใจกับข่าวที่ออกมา ที่มีข่าวฉาวเรื่องหนุ่มๆ ยังไม่เสียใจเท่านี้ คำที่เสียใจมากๆ คือเราใช้เรือนร่างและท่าเต้นทำให้ตัวเองโด่งดัง ในมุมของตนคิดว่าเป็นคำพูดรุนแรงมาก ณ วันนี้ตนมีหน้าที่สร้างความสุขให้กับแฟนเพลง สิ่งที่ทำไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือเป็นคนไม่ดีสำหรับสังคม ในส่วนของท่าเต้นและการแต่งตัวที่กล่าวหามา ตนมีความเป็นตัวตนตรงนี้ ถ้ามันก้าวก่ายทำให้วัฒนธรรมความเป็นลูกทุ่งดูแย่ลง ต้องกราบขออภัยจริงๆ ไม่ได้มีความตั้งใจแบบนั้น แต่แนวทางความเป็นลูกทุ่งของตนเป็นลูกทุ่งสมัยใหม่ เป็นปีอาเซียน ยุคที่ตนอยู่ ณ วันนี้ตลาดผู้บริโภคต้องการแนวนี้ จึงต้องทำแนวนี้ ทั้งนี้ทุกอย่างที่ทำทางค่ายอาร์สยาม และ อาร์เอส จะสอนเสมอว่าให้ทำทุกอย่างที่เป็นตัวตนของเรา แต่ต้องถูกกาลเทศะ เวลาไปวัดหรือไปทำบุญก็ไม่ได้ใส่สั้นแบบนี้ เวลาเป็นตัวแทนนักร้องลูกทุ่งไปร้องเพลงในต่างแดนก็แต่งชุดไทย สวธ.คงไม่ได้มองและเล็งเห็นภาพกว้างๆ ในวันที่ตนทำงานหลากหลายในชีวิต เขามองแค่ “แน่นอก” ท่าเต้นและชุดสั้นเสมอหู ตนอยากให้สวธ.เปิดใจกว้างๆ
ใบเตย กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณและขอโทษ สวธ.ด้วยถ้าศิลปินลูกทุ่งสาวสั้นเสมอหูคนนี้ได้ไปทำให้หลายๆอย่างมีผลกระทบกระเทือนถึงวัฒนธรรมและประเพณีของไทย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใบเตยและบริษัทไม่มีความตั้งใจและเจตนาที่จะทำทุกอย่างให้ออกมาเป็นสื่อ เพลง ภาพที่ไม่ดีทั้งต่อสังคมและทุกอย่างที่เกี่ยวกับความเป็นไทย เราทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนผู้บริโภค ถ้าคนฟังเพลงคนทั่วประเทศชอบ คนต่างประเทศชื่นชม อันนี้เป็นความภูมิใจของเรามากที่สุด ถ้าอัลบั้มต่อไปใบเตยอายุ 30 คงไม่มาใส่สั้นเสมอหูอย่างนี้แล้ว คงปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย วัยวุฒิและคุณวุฒิ
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
