ผู้เขียน หัวข้อ: สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายรณพีร์ วันที่ 16 มิถุนายน 2556  (อ่าน 355 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 แม้เรื่องราวทั้งหมดจะผ่านมานานแล้ว แต่บุหลันยังคงเจ็บปวดอยู่ และนี่เองที่เป็นสาเหตุที่บุหลันไม่ยอมรับในตัวพวกผู้ชายทั้งหลาย
     
    รณพีร์บุกไปหาเพียงขวัญที่บ้านเพื่อสอบถามเรื่องอดุลย์ เพียงขวัญโกรธมากที่รณพีร์พูดจาเหมือนดูถูก หญิงสาวประกาศบอกให้รณพีร์รู้ว่าอดุลย์เป็นพ่อของเธอ รณพีร์นิ่งอึ้งไป เริ่มรู้สึกผิด เพียงขวัญตัดสินใจเล่าเรื่องแม่ บุหลัน และยายที่ผิดหวังเรื่องความรักให้รณพีร์ฟัง
    
    “ที่คุณมาจอแจกับชั้น คุณบอกชั้นว่าจะมาให้ชั้นจัดการเรื่องคุณยอดยศให้ห่างจากฉัน และตอนนี้ ฉันจัดการเรื่องคุณยอดยศให้คุณแล้ว คุณมาอยู่ตรงนี้ทำไม มาที่นี่ทำไมอีก”
    
    “ผมคิดถึงคุณ ต่อให้คุณมีนายอัทธ์ มีผู้ชายหลายคนให้คุณเลือก ผมจะทำให้คุณเลือกที่จะรักผม”
    
    “ฉันเลือกแล้ว เลือกที่จะไม่รักใคร ไม่รัก ก็ไม่เจ็บปวด ไม่รัก ก็ไม่ถูกทอดทิ้ง ไปทานข้าวกันเถอะ...ฉันจะเลี้ยงตอบแทนคุณเป็นมื้อสุดท้าย  และหลังจากมื้อนี้ ฉันไม่อยากเจอหน้าคุณอีก คุณควรไปจากชีวิตฉันได้แล้ว”
    
    หลังทานข้าวเย็นเสร็จ ประณตพยายามจะชวนรณพีร์คุยเรื่องเครื่องบิน แต่รณพีร์ปฏิเสธอ้างว่าต้องรีบกลับ ประณตผิดหวัง เดินกลับเข้าบ้านไป แต่ไม่ได้ไปไกลนัก แอบไปยืนฟังรณพีร์กับเพียงขวัญคุยกัน
    
    “ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง คุณควรเอาเวลาไปสนใจผู้หญิงคนอื่น บางทีคุณจะได้เจอคนที่เหมาะสมกับคุณมากกว่าฉัน”
    
    “เคยมีใครบอกไหมว่า คุณพูดตรงแค่ไหน ผมเผชิญหน้ากับความกลัว ในความสัมพันธ์ของเรา และผมก็จัดการกับมันไปได้ในที่สุด แต่ตอนนี้คนที่กลัวจริง ๆ กลับไม่ใช่ผมมันคือคุณต่างหาก”
     
    วิไลรัมภาหอบเอาขนมตะโก้มาให้เพราะรู้จากเทวพันธ์ว่าเอียดชอบ อ่อนบอกวิไลรัมภาว่ารณพีร์ไม่ชอบขนมที่เป็นกะทิ ชอบพวกทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุนมากกว่า และที่ชอบมากสุดก็คือขนมช่อม่วง วิไลรัมภารีบจดจำพร้อมให้สัญญาว่าจะรีบฝึกทำขนมช่อม่วงให้เป็น รณพีร์แอบหนักใจ เมื่อเห็นวิไลรัมภาทุ่มเทให้ตนมากถึงเพียงนี้ ถ้าจะบอกปัดจะทำยังไงถึงจะไม่ทำร้ายจิตใจกัน อ่อนอาสาจะสอนวิไลรัมภาทำขนมช่อม่วง วิไลรัมภาไม่อยากนวดแป้ง ไม่อยากทำขนม คิดหาทางเลี่ยงด้วยการบอกอ่อนว่าเคยช่วยเกษราทำขายที่ร้านบ่อย ๆ แต่เนื่องจากเกษรามีสูตรลับบางอยางไม่สามารถเปิดเผยได้ เลยจะขอทำขนมในห้องครัวเพียงลำพัง
    
    อ่อนหลงเชื่อยอมปล่อยให้วิไลรัมภาอยู่ทำขนมในครัวเพียงลำพัง หารู้ไม่ว่าพอคล้อยหลัง วิไลรัมภาแอบโทรศัพท์ไปหาพิมพรรณ ให้เอาขนมช่อม่วงจากร้านเกษรามาส่งให้ที่วังจุฑาเทพ ระหว่างรอวิไลรัมภาเอาดอกอัญชัญที่อ่อนเตรียมไว้มาแช่น้ำ ขยำ ทำให้มือเปื้อนสีม่วงเหมือนกับได้ลงมือทำขนมเองจริง ๆ
    
    พิมพรรณกับไฉไลแอบเอาขนมช่อม่วงมาส่งให้วิไลรัมภาที่รั้วข้างวังจุฑาเทพ พิมพรรณเป็นห่วงไม่อยากให้วิไลรัมภาโกหกว่าทำขนมเอง เพราะถ้าต้องแต่งงานกับรณพีร์แล้วย้ายเข้ามาอยู่ในวังจุฑาเทพ ต้องถูกเอียดกับอ่อนจับได้แน่ วิไลรัมภาบอกถ้าเธอเข้าตาจนจริง ๆ ก็คงต้องวานพิมพรรณกับไฉไลให้ช่วยเหมือนเคย ไฉไลรับปากแข็งขัน เพราะไฉไลไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ จึงเห่อวิไลรัมภาและพิมพรรณที่เป็นลูกนายพลมาก ยอมเป็นลูกไล่ให้วิไลรัมภาทุกอย่าง
    
    กรองแก้วได้ชิมขนมช่อม่วงที่วิไลรัมภาบอกว่าทำเองกับมือ ก็รู้สึกแปลกใจที่รสชาติและหน้าตาเหมือนกับที่เกษราทำทุกอย่าง วิไลรัมภายืนยันว่าเกษราเป็นคนสอนเธอเองกับมือ กรองแก้วยังสงสัยไม่เลิก เพราะเธอก็เคยเรียนกับเกษราแต่จับจีบออกมาไม่สวยเหมือน วิไลรัมภาจิกสายตาดุกรองแก้ว เลิกถามเสียที กรองแก้วเงียบ เห็นสายตาอันร้ายกาจของวิไลรัมภาอยู่คนเดียว
    
    การอยู่บ้านที่มีแต่วิไลรัมภา ช่างทรมานเหลือเกิน รณพีร์คิดถึงเพียงขวัญตัดสินใจเดินหน้าทำตามแผนที่วางไว้ ด้วยการแอบไปหาประณตที่บ้าน นัดว่าจะพาไปเที่ยวกองบิน แต่มีข้อแม้ว่าประณตต้องหาวิธีพูดให้เพียงขวัญไปด้วย
    
    วันรุ่งขึ้น บุหลันกำลังง่วนอยู่กับการเย็บผ้าไปส่งลูกค้า เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นว่าเลยเวลาเลิกเรียนนานแล้ว แต่ประณตยังไม่กลับบ้าน จึงวานให้เพียงขวัญที่เพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน ไปดูที่โรงเรียนแทน เพียงขวัญไปถึงโรงเรียนเห็นแดงนั่งจ๋องอยู่คนเดียว จึงรีบปรี่เข้าไปหา
    
    แดงบอกเพียงขวัญว่าประณตนัดให้มาหาตอนเที่ยง พอตนมาถึงประณตก็บอกว่าจะหนีโรงเรียนไปกองบิน 1 ฝูงบิน 13 พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้กลับไปบอกบุหลันที่บ้าน ให้นั่งรออยู่ที่โรงเรียนจนกว่าเพียงขวัญจะมา
     
    รณพีร์นัดจะไปรับประณตกับเพียงขวัญที่หน้าปากซอย แต่ประณตกลับนั่งรถเมล์สองต่อ เรือกาแฟ หนึ่งต่อไปหารณพีร์ที่กองบินเอง รณพีร์ถามหาเพียงขวัญ ประณตบอกจัดการแล้ว เดี๋ยวเพียงขวัญคงมาถึง รณพีร์แปลกใจมาก อยากรู้ว่าประณตกำลังทำอะไรกันแน่
    
    ระหว่างรอเพียงขวัญ รณพีร์พาประณตไปดูเครื่องบินที่ลานจอด ประณตตื่นเต้นมาก ชี้ชวนคุย รณพีร์อธิบายรายละเอียดเครื่องบินแต่ละลำให้ประณตฟัง สักพักเพียงขวัญก็เดินทางมาถึงที่กองบิน
    
    ประณตวิ่งร่าเริงเข้าไปหา “พี่ขวัญ พี่พีร์เป็นนักบินจริง ๆ เอฟ 86 เอฟจอดอยู่นั่นไง ลำเบ้อเริ่มเลยครับพี่”
    
    เพียงขวัญโกรธมากเงื้อมือจะตบหน้า แต่รณพีร์คว้ามือไว้ได้ก่อน เพียงขวัญดึงมือออกเปลี่ยนเป็นรัวตีด้วยความโมโหแทน
    
    “คุณทำน้องฉันหนีโรงเรียน ทำน้องฉันเสียเด็ก จากที่บ้านมาที่ดอนเมือง ถ้าเขาถูกรถชน ถูกหลอก จะทำยังไงกัน”
    
    “โฮ้ยพี่ขวัญ มาดอนเมืองแค่นี้ไม่เห็นจะยาก”
    
    เพียงขวัญหันไปหยิกตีประณต “พูดออกมาได้ นี่แน่ะ นี่ ๆ กลับไปจะบอกน้าบุหลันตีให้เข็ด”
    
    เพียงขวัญจะลากตัวประณตกลับ รณพีร์รีบวิ่งไปดักหน้า พยายามอธิบาย “ผมนัดกับประณตที่ปากซอย กำลังจะออกไปรับ แต่เขามาซะก่อน ผมไม่ได้สอนให้เขาหนีโรงเรียนนะครับ”
    
    “ฉันจะพาน้องกลับบ้าน”
    
    “ผมยังไม่อยากกลับ เพิ่งดูเครื่องบินไปนิดเดียวเอง”
    
    “ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ผมขอโทษ ประณตชอบเครื่องบินมาก ถ้าเขาได้อยู่ต่ออีกหน่อยอาจจะมีแรงบันดาลใจให้ตั้งใจเรียน ไหน ๆ ก็มาแล้ว เข้าไปดูหน่อยนะครับ”
    
    “นะพี่ขวัญนะ ผมเคยหนีโรงเรียนที่ไหนกัน ทำครั้งนี้เพราะจำเป็น ผมสัญญา จะไม่ทำอีกแล้ว สาบานเลยเอ้า”
    
    เพียงขวัญเห็นแก่ประณต ยอมเดินตามรณพีร์กับประณตไปที่ลานจอด คืนนี้เป็นคืนวันศุกร์ ทหารส่วนใหญ่พากันกลับบ้าน รณพีร์ถึงได้แอบพาเพียงขวัญกับประณตเข้าไปที่ลานจอดได้โดยสะดวก ประณตอ้อนขอให้รณพีร์พาขึ้นไปในห้องนักบิน จ่าละไมแวะมาตรวจเช็กสภาพเครื่องบินที่ลานจอดพอดี รณพีร์สบโอกาส หาทางอยู่กับเพียงขวัญตามลำพัง ด้วยการหลอกล่อให้ประณตไปช่วยจ่าละไมซ่อมเครื่องบิน
    
    รณพีร์พาเพียงขวัญไปที่โกดังเก็บเครื่องบิน ชายหนุ่มจัดการหรี่ไฟ เปิดแผ่นเสียง เพลงรักจังหวะเต้นรำดังก้อง เพียงขวัญทำหน้าแปลกใจ รณพีร์บอกจะสอนเพียงขวัญขับเครื่องบิน ชายหนุ่มดึงเพียงขวัญเข้ามาชิดในอ้อมกอด จับมือซ้าย มือขวาวางให้ถูกท่าเต้นรำ
    
    “คุณขวัญคุณเคยฟังเพลงนี่ไหม ผมอยากให้คุณสัมผัสมัน บางทีคุณอาจจะได้รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ”
    
    รณพีร์กับเพียงขวัญเต้นรำไป เพียงขวัญเต้นอย่างคล่องแคล่วเป็นธรรมชาติ สีหน้าเพียงขวัญไม่เข้าใจ ช่วงเวลานั้นทั้งสองรู้สึกถึงบางอย่าง ต่างมองหน้าที่ใกล้ชิด รับที่มือที่ยังจับกันอยู่
    
    “ไหนบอกจะสอนขับเครื่องบิน”
    
    “เวลาที่เราอยู่บนฟ้า มีแค่เรา ผมกับเครื่องบิน เมื่อผมไปซ้าย เครื่องบินจะไปซ้าย เมื่อผมไปขวา เครื่องบินจะไปขวา”
    
    ดนตรีดังต่อเนื่อง ทั้งสองอยู่ใกล้ชิด สายตามองกันจริงจังลึกซึ้ง เพียงขวัญรู้สึกด้วยสัญชาต ญาณ มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ในตาของรณพีร์ รณพีร์กำลังจะบอกรักเพียงขวัญ!   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)