ผู้เขียน หัวข้อ: ‘อ๋อม-ฉัตร’ลงละครรีเมคเรื่องดัง ‘พอดีคำ’ ทุ่มสร้างฟอร์มยักษ์แห่งปี - โหมโรง  (อ่าน 359 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 ได้ฤกษ์ลงจอเอาใจแฟนละครไปหมาดๆ สำหรับเรื่อง “วันนี้ที่รอคอย” ละครรีเมคฟอร์มยักษ์จากวิก 7 สี ที่มอบหมายให้ ค่ายพอดีคำ ของ บิ๊กธง-ธงชัย ประสงค์สันติ เป็นผู้ผลิต และส่งไม้ต่อให้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง สยาม น่วมเศรษฐี เป็นผู้ดูแลนักแสดงกว่า 40 ชีวิต นำโดย พระเอกหนุ่มจมูกโต อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์ มาประกบคู่กับนางเอกสาว ฉัตร-ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกคับจอ อาทิ แตงโม-ภัทรธิดา, เอ็กซ์-ธิตินันท์, แนต-ณัฐชา, พศิน เรืองวุฒิ, แอนดรูว์-กรเศก โคร์นิน ฯลฯ “วันนี้ที่รอคอย” หยิบมาจากบทประพันธ์ของ วราภา รับหน้าที่เขียนบทโทรทัศน์โดย ปราณศักดิ์สวัสดิ์ ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นละครฟอร์มยักษ์ที่มีเรื่องราวตามบทประพันธ์เกิดขึ้นที่ฮ่องกง เมืองไทย และเมืองสมมุติที่ชื่อว่า คีรีรัฐ และเมื่อบทประพันธ์บังคับกันมาแบบนี้แล้ว ทาง ค่ายพอดีคำ เลยให้ผู้กำกับฯนำขบวนทีมงาน และนักแสดงบินเหินฟ้าไปถ่ายทำกันถึงประเทศฮ่องกง ซึ่งบรรยากาศในการถ่ายทำที่นั่นราบรื่นแบบเกร็ง ๆ เพราะอากาศค่อนข้างจะเย็นกว่าปกติ ด้านทีมงานไม่ค่อยน่าห่วงสักเท่าไหร่ ต่างจากเหล่านักแสดงที่ต้องใส่เสื้อผ้าประหนึ่งอากาศกำลังดี แต่งตัวสวยงามตามเทรนด์แฟชั่นสุดฤทธิ์ นักแสดงชายก็ใส่สูทหนากันเต็มยศ แต่สำหรับนักแสดงสาว ๆ แล้วดูจะหนักหนาสาหัส ทั้ง สาวฉัตร, แตงโม, แนท และ นิว จะต้องผจญกับความหนาวเวลาเข้าฉาก แต่ทุกคนก็ยอมกัดฟันสู้หนาว วิ่งเข้าฉากทำหน้าตาสบาย ๆ สวย ๆ กันเต็มที่ พอถ่ายทำเสร็จแต่ละคนวิ่งเข้าหาผ้าห่มและขวดน้ำร้อนมากอดกันให้วุ่น การถ่ายทำที่ฮ่องกงแต่ละฉากก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งฉากหวานโรแมนติกของพระ-นาง, ฉากบู๊ของเหล่าหนุ่ม ๆ ที่ต้องเช่าทั้งรถยนต์ รถเมล์ เรือ และเฮลิคอปเตอร์มาเข้าฉากกันคึกคัก เรียกว่าทุ่มกันเต็มที่ และไม่พอกลับมาเมืองไทยยังซื้อรถยนต์ทั้งเบนซ์และบีเอ็มดับเบิลยูมาเข้าฉากระเบิดทิ้งกันซะเละ งานนี้ถือว่า บิ๊กธงชัย เทหมดหน้าตักกันเลยทีเดียว คราวนี้มาฟังคำบอกเล่าของคู่พระ-นางในเรื่องกันบ้าง เริ่มจาก หนุ่มอ๋อม ที่มารับบทเป็น “จ้าวซัน” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “เรื่องนี้ผมว่ายากพอสมควร เพราะตัวละครตัวนี้มีหลายอารมณ์ ทั้งเก็บกด มีปมในใจตลอด ขณะเดียวกันก็มีความมุ่งมั่น รักชาติ รักครอบครัว จ้าวซันเค้าจะฉลาดมาก เท่มาก ผมดีใจและภูมิใจมากที่ได้เป็นพระเอกเรื่องนี้ อย่างแรกต้องขอบคุณช่อง 7 ขอบคุณพอดีคำ ที่เห็นว่าตัวอ๋อมสามารถรับผิดชอบบทอันใหญ่หลวงนี้ได้ ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว เพราะเรื่องนี้เคยสร้างประวัติการณ์มาแล้วครั้งนึง ประสบความสำเร็จมาก ๆ ผมได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ พี่เบิร์ด ขอคำปรึกษาเรื่องบท “จ้าวซัน” พี่เบิร์ดให้คำแนะนำให้เล่นแบบนิ่ง ๆ ใช้ความนิ่ง ใช้ตาเยอะ ๆ เวอร์ชั่นนี้พี่เบิร์ดยังได้มาร้องเพลงประกอบละครให้ด้วย ดีใจที่จ้าวซันเวอร์ชั่นเก่ามาร้องเพลงประกอบละครให้ อยากให้ทุกคนฟังครับ” ด้าน สาวฉัตร มาช่วยเล่าต่ออีกว่า “เรื่องนี้ฉัตรต้องมาเล่นแทน พี่แพน (แพนเค้ก-เขมนิจ) แรก ๆ กดดันนิดหน่อย แต่ยังไงพี่แพนก็เป็นไอดอลของฉัตรอยู่แล้ว ช่วงแรกที่รู้ตัวว่า
    ต้องเล่นเรื่องนี้แอบเครียด เพราะทุกอย่างกะทันหันมาก หนักใจที่ทุกอย่างค่อนข้างเร็ว มีการเตรียมตัวน้อยมาก ไหนจะต้องไปฮ่องกงอีกเลยค่อนข้างลำบาก ฉัตรเข้าไปทีหลังพี่ ๆ นักแสดงคนอื่นก็ต้องรีบปรับตัวเพื่อให้เข้ากับทีมงาน แต่ทุกคนน่ารักมากให้กำลังใจไม่ให้ฉัตรกดดันเรื่องที่ต้องมาเสียบแทนพี่แพนเค้ก ให้ฉัตรไปสนใจเรื่องงานดีกว่า ผู้จัดพี่ธงเข้ามาดูแลตลอด การทำงานเป็นยังไงบ้าง คอยพูดให้กำลังใจ พอมาเล่นก็โดนถามเยอะค่ะ เพราะเรื่องนี้เป็นละครที่เคยทำเอาไว้แล้วดีมาก พี่เบิร์ด กับ พี่แอน-สิเรียม เล่นเอาไว้ดีมาก ในฐานะที่ฉัตรเป็นนางเอกก็กดดันค่ะ ไม่อยากให้คนไปคิดถึงเวอร์ชั่นเดิม อยากให้มองในมุมของเรา มองความเป็น “บราลี” ในปัจจุบัน ถึงจะเป็นละครรีเมค แต่ความอลังการก็ยังเหมือนเดิม ฉัตรลุ้นมาก ๆ กับฉากใหญ่ของเรื่อง ฉากระเบิดรถค่ะ เพราะฉัตรจะต้องเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ต้องอยู่ในรถ แอบลุ้นว่าจะออกมายังไง ฉัตรขอฝากละครเรื่องนี้ด้วยนะคะ เป็นผลงานที่ทุกคนตั้งใจทำงานมาก” ติดตามชมละคร “วันนี้ที่รอคอย” ได้ทุกคืนวันพุธ-พฤหัสบดี หลังข่าวภาคค่ำ ช่อง 7 สี.... ไปรมา รายงาน “วันนี้ที่รอคอย” ณ คีรีรัฐนคร น่านปิงนรเทพ เป็นราชบุตรของเจ้าหลวงพีริยเทพ และพระเทวีศุลีมาน แห่งคีรีรัฐนคร เจ้าหลวงพีริยเทพมีพระเชษฐา ชื่อ เจ้าชายมาทยาธร ซึ่งมีพระชายานาม สิริวาระตี (พี่สาวพระเทวีศุลีมาน) และบุตรนาม ศิขรนโรดม เจ้าชายมาทยาธรไม่พอใจที่เจ้าหลวงพีริยเทพไม่เปิดการค้าเสรีจึงทำการปฏิวัติ เจ้าหลวงพีริยเทพไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนจึงยอมโดยดี แต่พระองค์แอบให้ อินปง ราชองครักษ์พาพระเทวีและราชบุตรหนี พร้อมนำตราสุรสีหนาท สัญลักษณ์ของกษัตริย์แห่งคีรีรัฐไปด้วย ส่วนพระองค์ดื่มยาพิษของเจ้าชายมาทยาธรสิ้นพระชนม์ เจ้าชายมาทยาธรให้นายพลจตุรัสออกข่าวเรื่องเจ้าหลวงสิ้นพระชนม์ อินปงพาพระเทวีและราชบุตรหนีไปพร้อม จันทร์แรม ภรรยา และม่านฟ้า ลูกของเขา โดยมี ภูสินทร ราชองครักษ์อีกคนระวังหลัง และ คำฝาย หญิงใบ้คอยดูแลราชบุตร ทั้งสองพระองค์ลงเรือล่องไปทางแม่น้ำเวียงสาย อินปงกับจันทร์แรมฝากม่านฟ้าไปด้วย แล้วพวกเขาก็กลับมาช่วยภูสินทร พลเอกราชิด ปะทะกับภูสินทร พวกภูสินทรสู้ไม่ได้ อินปงกับจันทร์แรมชิงฆ่าตัวตาย ภูสินทรบาดเจ็บสาหัส และถูกจับไปไว้ที่ผาห่มดอก ราชิดกลับมารายงานเจ้าชายมาทยาธร บายศรี ภรรยาของภูสินทรแอบได้ยินก็รีบไปเล่าให้พระชายาสิริวาระตีฟัง พระชายาหาทางช่วยภูสินทร เพื่อให้ภูสินทรไปอารักขาพระเทวีและราชบุตร
    เจ้าชายมาทยาธรมาบอกพระชายาสิริวาระตีกับศิขรนโรดมว่าเจ้าหลวงสิ้นแล้ว ส่วนพระเทวีกับราชบุตรหายตัวไป พระชายาสิริวาระตีทำเป็นเพิ่งรู้ พระนางสงสารลูกเพราะรู้ว่าศิขรนโรดมกับน่านปิงนรเทพรักกันมาก ศิขรนโรดมไปเรียนหนังสือกับครูเฒ่าคนเดียว ด้วยความคิดถึง องค์ชายจึงเล่าให้ครูเฒ่าฟัง ตั้งแต่น่านปิงเป็นคนตั้งชื่อ ม่านฟ้า ทั้งยังเลี้ยงกระต่ายไว้เป็นของขวัญม่านฟ้า และอีก หลายเรื่องซึ่งทำให้ครูเฒ่ารู้ว่าแท้จริงเจ้าหลวงพีริยเทพทรงเห็นด้วยกับการเปิดประเทศ แต่คีรีรัฐยังไม่พร้อมจึงจะรอไปก่อน ศิขรนโรดมไม่ชอบการปกครอง แต่น่านปิงนรเทพขอร้องแกมบังคับให้เรียน เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ศิขรนโรดมจึงสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนเพื่อเป็นผู้ช่วยของน่านปิงนรเทพ และจะรอให้น่านปิงนรเทพกลับมาเป็นเจ้าหลวง นายแพทย์สิงหะไปตรวจอาการภูสินทร และแอบส่งข่าวเรื่องพาหนีในวันงานลอยประทีปให้ภูสินทรรู้ รุ่งเช้าของวันงาน ครูเฒ่าพาศิขรนโรดมนั่งรถม้าเล่น ระหว่างทางพบชายสองคนเดินอยู่ซึ่งหนึ่งในนั้นจะไปแม่น้ำเวียงสาย ครูเฒ่าให้ติดรถม้าไปด้วย ชายคนนั้นคือ ภูสินทร เขาได้รับคำสั่งให้ตามหาพระเทวีกับราชบุตรเพื่อถวายอารักขา และมอบห่อสมบัติให้สองพระองค์ใช้ยังชีพ หลายปีผ่านไป ณ ประเทศฮ่องกง จ้าวซัน หรือ น่านปิงฯ ที่เวลานี้โตเป็นหนุ่ม เขาต้องคอยบริหารฉินเย่ว์กรุ๊ป หลัง จ้าวฉินเย่ว์ ผู้เลี้ยงดูอุปการะเขามาเสียชีวิตลง จ้าวซันยังต้องคอยดูแล จ้าวฉินเจียง ที่มักจะนอกลู่นอกทางอยู่เสมอ ฉินเจียงมีลูกสมุนคือ เกาเฟย และแฟนสาวอย่าง ซูหลิง ฉินเจียงไม่ชอบจ้าวซันเพราะคิดว่าเป็นแค่ลูกเลี้ยงของพ่อตนเองเท่านั้น จ้าวซันมีลูกน้องคู่ใจชื่อ เต๋อเป่า และเลขาฯคู่กายอย่าง เทเรซ่า โดย จ้าวซัน มีภารกิจต้อนรับ บราลี หรือ ม่านฟ้า ที่บินมาเที่ยวฮ่องกงก่อนจะกลับเมืองไทย บราลีต้องหัวเสียเมื่อเพื่อนรัก หลินจื้อเหม่ย ไม่ได้อยู่ฮ่องกงซะแล้ว จ้าวซันส่ง อาหลี่ ให้ไปรับบราลี ภูสินทร บอกหมายกำหนดการขององค์รัชทายาทศิขรนโรดม ที่ต้องเสด็จมาฮ่องกงเพื่อมาดูงาน โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วจ้าวซันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเชื้อเชิญในครั้งนี้ บราลีเจอ ผิงอัน ระหว่างออกไปเดินเล่นเพียงลำพังและยังได้เจอกับฉินเจียงที่แสดงออกว่าชอบบราลีอย่างออกนอกหน้า บราลีได้เจอจ้าวซันที่ออกตัวเป็นเพื่อนของพลตรีสุริยะพ่อของบราลี และบราลีเองก็รู้สึกคุ้นเคยในแววตาของจ้าวซัน เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน และเริ่มสนุกสนานกับฮ่องกงเข้าให้แล้ว จ้าวซันเองก็รู้สึกเหมือนได้วันเวลาในครั้งเก่า ๆ กลับคืนมา การดินเนอร์ของทั้งคู่อยู่ในสายตาของเหม่ยอิงตลอดเวลา เหม่ยอิงต่อว่าจ้าวซันและสารภาพรักกับจ้าวซัน แต่จ้าวซันยืนยันเป็นได้แค่พี่น้องเท่านั้น และที่ ณ คีรีรัฐนคร องค์ชายศิขรนโรดมยังคิดถึงพี่ชายอยู่ องค์ชายมีองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์อยู่หนึ่งคน อสุนี มีน้องสาวชื่อ มิถิลา ที่ชอบห้าวหาญเกินหญิง ทั้งสองเป็นลูกของพลเอกราชิดที่เวลานี้มีแผนก่อกบฏ อสุนี ไม่เห็นด้วยที่พ่อจะกบฏ รวมถึงมิถิลาที่ทราบข่าวก็ตกใจฉินเจียง และพรรคพวกทำการค้าอาวุธกับคนของพลเอกราชิด ผู้กองเหลียง ตามมาจับแต่ไม่สำเร็จ ส่วนจะลงเอยอย่างไรนั้นติดตามต่อในละคร.   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)