ผู้เขียน หัวข้อ: ‘บอม-ธนา’ ผู้ชายหนวดงาม โลกส่วนตัวสูง - หนุ่มฮอตหนุ่มฮิพ  (อ่าน 468 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 “บอม-ธนา เอี่ยมนิยม” นักแสดงที่ส้มหล่นได้เข้ามารับบท “แอ๊ด คาราบาว” ในภาพยนตร์เรื่อง “ยังบาว เดอะมูฟวี่” แทน “ตูน บอดี้สแลม” และพอภาพยนตร์เข้าฉาย แน่นอนว่าหนุ่มคนนี้กลายเป็นที่รู้จักและพูดถึงกันอย่างมากมาย ด้วยเนื้อเรื่องของภาพยนตร์และคาแรกเตอร์ของตัวเขาเองกับหนวด ที่สาว ๆ เห็นแล้วเป็นต้องถามเอาล่ะ เกริ่นมาเยอะขนาดนี้ เราว่าไปทำความรู้จักกับหนุ่มบอม กันเลยดีกว่า ว่าตัวจริงเสียงจริงเขาเป็นคนยังไง
    
    “หนวด”
    
    ไว้หนวด คงคาแรกเตอร์ น้าแอ๊ด ในหนังอยู่อีกเหรอ?

    
    “ที่ไว้หนวดเพราะเห็นผู้ใหญ่บอกว่าอาจจะมีภาค 2 เลยเตรียมตัวไว้เผื่อว่ามันจะเป็นเร็ว ๆ นี้ เราจะได้พร้อม ส่วนเรื่องข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องเงิน ก็อยู่ในข้อตกลงครับ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แล้วสำหรับหนังเรื่องนี้ผมก็ภูมิใจนะครับ ที่ได้ร่วมงานกับพี่ ๆ นักแสดงและผู้กำกับทุกคน ถามว่ากดดันมั้ย ไม่นะครับ แต่ว่ามันจะเกร็งเพราะว่าพี่แต่ละคนเขาเก่งกันหมดเลย กลัวทำให้เขาช้า เสียเวลาเพราะเรา เพราะเรามือใหม่ เลยกดดันตัวเอง เราเด็กใหม่ มือใหม่ ก็กลัวไปถ่วงเวลาเขา แต่พี่ ๆ เขาใจดี พี่เขาโอเค ทำให้เราผ่อนคลาย เขาไม่กดดันเราเลย ทำออกมาก็ง่าย งานไหลลื่น สำหรับหนังเรื่องนี้ ผมให้คะแนนตัวเอง 7 ครับ ถ้าเต็ม 10 ที่เหลืออีก 3 ก็มาจากที่ผมตัวเล็กไปหน่อย และบางฉากที่ทำไม่เต็มที่ อย่างฉากที่เข้ากับสาว ๆ ผมเขินไม่ถนัดครับ”
    
    ขอถามเรื่องหนวดอีกหน่อย จะไว้ยาวแค่ไหน?
    
    “ก็ประมาณที่ไว้นี่แหละครับ ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนถามเรื่องหนวด ถามว่าหนวดจริงไม่จริง สาว ๆ ก็เข้ามาทักเรื่องหนวดเยอะครับ (หัวเราะ) ก็คิดว่าจะไว้ไปเรื่อย ๆ ครับ ไม่เคยไว้หนวดได้นาน ๆ เลยครับ นี่คือครั้งแรกที่ไว้ได้ยาวที่สุดและนานที่สุดเท่าที่เคยไว้มา”
    
    หนังออกมาแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไปมั้ย?
    
    “เปลี่ยนไปครับ ไปไหนมาไหนคนก็เข้ามาทักทายเยอะมากขึ้น คนรู้จักมากขึ้น แล้วก็มีงานเข้ามามากขึ้นครับ ทั้งแฟชั่น และเดินสายสัมภาษณ์สื่อต่าง ๆ”
    
    ในหนังถ้าให้เลือกได้ อยากเล่นเป็นใครมากที่สุด?
    
    “อยากเล่นเป็นพี่เล็กครับ เพราะว่าพี่เล็กเท่ (หัวเราะ)”
    
    “วัยซน”
    
    ย้อนวัยเด็กหน่อย ตอนเด็ก ๆ เลยซนแค่ไหน?

    
    “ก็ซนครับ ที่บ้านเป็นสวน ส่วนพ่อก็เป็นสถาปนิก ส่วนมากผมก็จะอยู่กับแม่ แล้วก็อยู่กับพี่ ๆ ข้างบ้าน ผมไม่เกเร แต่ซน ดื้อ โดนตีบ่อยเหมือนกันครับ แล้วตอนเด็กผมอยากจะเป็นเชฟมาก อยากทำอาหารกิน ทำครัวดูแล้วน่าจะสนุก ได้ใช้มีด ใช้โน้นใช้นี่ แต่พอโตขึ้นมาลองทำแล้ว รู้ว่าไม่ใช่ทางเราครับ (หัวเราะ) มันไม่ถนัด เพราะเป็นพ่อครัวต้องเร็ว ต้องตั้งใจจริง ๆ แต่ผมสมาธิสั้น เลยคิดว่าไม่ใช่เลยเปลี่ยนเลยครับ”
    
    เปลี่ยนความฝันมาอยากเป็นอะไรแทน?
    
    “อยากเป็นตากล้องครับ ถ่ายภาพตามที่เที่ยวต่าง ๆ ให้ตามนิตยสารต่าง ๆ อันนี้ฝันนะ ผมก็เรียนใช้กล้องพื้นฐาน แล้วไปออกค่ายของมหาวิทยาลัยเวลาไปออกค่าย แต่ตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว ไม่ได้ใช้เลยครับ อีกอย่างตอนเรียนผมเองก็รีบ ๆ หาที่เรียน เพราะว่าที่อยากเรียนจริง ๆ ไม่ได้เรียน คือตอนสมัย ม.6 ผมติดเพื่อน เกเร ไอ้สิ่งที่อยากเรียนไม่ได้เรียน คือวันที่สอบเข้าเรียนมัณฑนศิลป์ คือตอนนั้นอยากเป็นสถาปนิกเหมือนพ่อ แต่วันนั้นตื่นไม่ไหว เพราะมัวแต่เที่ยวเลยไม่ได้สอบโอเน็ต ผมเที่ยวตั้งแต่อายุ 15 แล้ว แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเที่ยวอยู่ แต่พอขึ้นปี 3 ปี 4 ผมก็เลิกแล้ว เพราะว่าตอนนั้นเริ่มคิดได้เพราะว่ากินเหล้าไปแล้ว ตื่นมาก็ปวดหัว เหนื่อย แล้วเราทำงานอย่างนี้ด้วย ไม่มีโอกาสได้ไปกินบ่อย จนห่างออกมาเรื่อย ๆ จนวันนี้ก็เลิกได้แล้วครับ แต่ถ้าไปงานวันเกิดเพื่อน ก็จะกินแบบเข้าสังคมแก้วเดียวก็หยุดเลย คือตอนนี้ถ้าไม่มีโอกาสพิเศษอะไรกลางคืนผมก็ไม่เที่ยวเลย”
    
    เรียกว่ากลับตัวกลับใจได้เร็วนะ
    
    “ครับ ก็อย่างที่บอกว่ามันเหนื่อย ไม่รู้จะกินไปทำไม มันเสียสุขภาพ”
    
    งานชิ้นแรกในวงการบันเทิงของเราคืออะไร
    
    “ถ่ายแฟชั่นครับ พอดีพี่ที่รู้จักกันคนหนึ่งเขาชวนไปถ่าย ผมก็ไปตอนนั้นได้เงินมา 5 พัน ดีใจมาก แล้วพอหนังสือออกมา พี่เอ-ศุภชัย ก็โทรฯ มาทาบทามให้เซ็นสัญญา ก็เซ็นกับพี่เอ มาจนถึงวันนี้ครับ พอเราทำงานได้แล้ว ที่บ้านแม่เขาก็ดีใจที่เห็นเราทำงานหาเงินได้แล้ว เขาก็สบายใจกับเราขึ้นเยอะ เพราะว่าผมรับผิดชอบเองหมดแล้ว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ รับผิดชอบเองหมด” แฟน
    ข่าวว่ามีแฟนแล้ว 
“ครับ คบกันมา 5 ปีแล้ว เขาก็เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีหนึ่งครับ ชอบเขาตรงที่ว่าเขาดูแลเอาใจใส่ดีครับ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ผมเป็นคนโลกส่วนตัวสูง เป็นคนเก็บตัว ไม่ชอบเที่ยว กลางคืนก็ไม่เที่ยว เหล้าก็ไม่กิน แต่เขาก็เข้าใจและอดทนกับเราได้ (หัวเราะ) คือผมเป็นคนโลกส่วนตัวสูงไม่ค่อยจะสนใจคนอื่น แต่เขาก็บอกเราว่าอย่างนี้ไม่ได้ ผมก็รับทราบแล้วก็ดีขึ้นแล้วตอนนี้ (หัวเราะ) ก็ชวนเขาไปโน่นนี่ ซื้อของให้แล้วแต่โอกาส จากที่เมื่อก่อนมีแต่เขาชวนเรา เราก็เอาใจใส่เขามากขึ้น”
    
    หรือว่าออกไปข้างนอกแล้ว อึดอัดที่คนมอง
    
    “เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกว่าไม่รู้จะออกไปทำอะไร อย่างเดินห้าง ถ้าไม่มีอะไรจะซื้อก็ไม่เดินเลย นาน ๆ จะมีทีหนึ่ง ไปดูหนัง กินข้าว”
    
    เอ๊า...อย่างนี้แฟนไม่บ่นเหรอ
    
    “ไม่ครับ เขาเข้าใจ แล้วเราก็โทรฯ หากันคุยกันบ่อย ๆ”
    
    ไม่กลัวเหรอว่าเรตติ้งจะตก ถ้าเปิดตัวแฟน
    
    “ไม่กลัวครับ ผมว่าคนเราจะมีแฟนก็มีได้ แต่เราต้องรู้จักการวางตัว และทำอะไรให้อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ และอีกอย่างผมว่าถ้าเรตติ้งมันไม่ดี มันก็คงไม่ดีตั้งแต่ก่อนที่จะผมจะเข้าวงการแล้วแหละผมว่า”
    
    แล้วเราเจ้าชู้เปล่า
    
    “เมื่อก่อนครับ สมัยเรียนก็เรื่อย ๆ ผมว่าผู้ชายไม่เจ้าชู้ทุกคนแหละ ผมเป็นคนเจ้าชู้เงียบ”
    
    แล้วเวลาจีบหญิง จีบยังไง
    
    “ผมไม่ค่อยจีบผู้หญิงครับ จีบผู้หญิงไม่เป็น ถ้าสมัยก่อนที่ผมยังเที่ยวอยู่ เวลาไปเที่ยวเจอใครต่อใคร ส่วนมากก็จะมีแต่คนเข้ามาคุยกับผมก่อน ผมไม่ค่อยจะเข้าไปคุยกับผู้หญิงก่อน ผมเป็นคนคุยไม่เก่ง แต่ถ้าเขามาจีบก่อนก็ไม่ถือนะ เท่ากัน แต่ถ้าผมคบใครผมก็คบเป็นคน ๆ ไป แต่ถ้ามองก็มองได้หมด แต่ไม่เข้าไปคุยก่อนอยู่แล้วถ้ายังมีแฟนอยู่ ส่วนมากที่เห็นแล้วจะแพ้เลยคือ ผู้หญิงขาสวย ๆ เรียว ๆ ผมสั้น”
    
    เชื่อพรหมลิขิตเปล่า
    
    “เชื่อครับ แต่บางครั้งพรหมลิขิตก็แค่ทำให้คนมาเจอกันมารักกัน แต่ไม่ได้ทำให้คนอยู่ด้วยกันไปตลอดรอดฝั่ง บางคนเกิดมาคู่กันแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็มี ผมว่าครึ่งหนึ่งมันก็อยู่ที่เราด้วยนะครับผมว่า”
    
    “อนาคต”
    
    แพลนในอนาคตยังไง “มีครับ อย่างในเรื่องดูแลตัวเอง ก็คิดว่าเดี๋ยวจะเข้าฟิตเนส เพิ่มน้ำหนัก เพราะว่าตอนนี้ผอมมาก มีแต่คนทัก”
    
    จริง ๆ เป็นคนชอบร้องเพลงไหม
    
    “ไม่ครับ ผมชอบเล่นดนตรีแต่ร้องเพลงไม่เป็น แต่ตอนถ่ายหนังเขาให้ผมไปเรียนร้องเพลง ตอนนี้รู้แล้วครับว่าร้องเพลงยังไงให้ถูกต้อง แต่ยังไม่เก่ง ให้เป็นนักร้องไม่รอด แต่เล่นดนตรีได้อย่างเดียว แต่ก็ฟังเพลงคาราบาวมาตั้งแต่เด็ก”
    
    ในวงการอยากทำอะไรมากที่สุด
    
    “เบื้องหน้าก็อยากจะเป็นนักแสดงมากที่สุด แล้วก็เน้นไปทางหนัง หนังมันใช้เวลาเยอะ อยู่กับมันนาน ๆ มันทำให้เราซึมซับได้”
    
    รู้จักหนุ่มบอมกันมากขึ้นแล้ว เราคิดว่าคงจะรักหนุ่มคนนี้กันมากขึ้นนะจ๊ะ เพราะเขามีความเป็นตัวของตัวเองชัดเจนเลยทีเดียว เอ๊า...เสาร์หน้าจะเป็นหนุ่มขวัญใจสาว ๆ คนไหน ต้องรอติดตามกันนะจ๊ะ. กาญจนา สิทธิเม่ง : รายงาน   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)