ผู้เขียน หัวข้อ: สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายรณพีร์ วันที่ 14 มิถุนายน 2556  (อ่าน 367 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 ยอดยศโผเข้าต่อย อัทธ์เอียงหน้าหลบ เพียงขวัญรีบเข้าไปดูอัทธ์ รณพีร์ใจหายวูบหน้าเสีย คนในโรงถ่ายกรูกันออกมาดูศึกหน้านาง ยอดยศฮึดฮัดไม่ยอม อัทธ์นิ่ง ไม่โกรธ ไม่แสดงอารมณ์ ไม่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ รณพีร์เข้าไปจับตัวยอดยศ ลากกลับออกไปจากกองถ่าย
     
    หลังถ่ายทำเสร็จ เพียงขวัญพาอัทธ์ไปนั่งคุยกันที่โรงอาหาร สองคนน้ำเสียงกระตือรือร้น ถามไถ่เรื่องของกันและกัน โดยเฉพาะอัทธ์กระตือรือร้นกว่า ซักเพียงขวัญละเอียดยิบ เพียงขวัญตอบทุกคำถาม แต่พออัทธ์ถามถึงที่อยู่ เพียงขวัญก็นิ่งเงียบไป
    
    “ดิฉันยอมเจอคุณ เพราะจดหมายนี้คุณเขียนมาว่า คุณแค่อยากรู้จักกับดิฉัน”
    
    “น้องขวัญเขียนจดหมายตอบพี่ ทุกประโยค พี่จำมันได้ขึ้นใจ น้องขวัญยอมรับพี่ แต่ไม่ยอมรับ…เอ้อ”
    
    “หลายเดือนที่เราเขียนจดหมายติดต่อกัน ดิฉันมองว่าคุณเป็น...มิตรจากแดนไกล ระหว่างเรา จะมีแต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนกับเพื่อน คนที่หวังดีต่อกันค่ะ ดิฉันยอมให้คุณเรียกว่าน้องขวัญ ก็นับว่า ดิฉันให้ความสนิทสนมคุณมากกว่าคนอื่นแล้วนะคะ คุณควรพอใจเพียงเท่านี้”
    
    “ก็ได้จ้ะ พี่จะไม่ล้ำเส้นที่น้องขวัญขีดไว้ พี่จะเขียนจดหมายไปหาน้องขวัญที่บริษัทหนังเหมือนเดิม ไม่ถามถึงครอบครัว ไม่ถามถึงที่บ้านแล้วพี่ก็จะไม่พูดถึง...เขา...”
    
    จันทร์กระพ้อหิ้วถุงข้าวของมาถึงกองถ่ายพอดี เพียงขวัญแนะนำให้อัทธ์รู้จักจันทร์กระพ้อในฐานะเพื่อนที่มาช่วยดูแลเสื้อผ้าเครื่องสำอางให้เธอ จันทร์กระพ้อเปิดถุงออกดู ข้างในเป็นนวมชกมวยสองสามคู่ อัทธ์แปลกใจเป็นอย่างมากจันท์กระพ้อหอบนวมไปวางกลางกองถ่ายก่อนประกาศกร้าว
     
    “จันทร์กระพ้อไม่อยู่วันเดียว รุมเพียงขวัญ หมาหมู่ชัด ๆ ต่อไปนี้ ใครกล้าแตะเพียงขวัญ ก็มาหยิบนวมพวกนี้ไป แล้วชกกันหลังกองถ่ายตัวต่อตัว”
     
    “พวกเราก็ไม่อยากนินทาใครหรอก แต่เพื่อนคนดีของเธอน่ะสิคะ ชอบหาเรื่องใหม่ ๆ เด็ดดวง มาให้เราพูดถึง วันนี้ก็เอาผู้ชายคนใหม่มาอวด”
    
    “รู้ได้ไงว่าเขามาจีบเพียงขวัญ”
    
    “ถ้าไม่ได้จีบเพียงขวัญ จีบกะโปโลอย่างหล่อนงั้นสิ”
    
    “ใช่ อีตาคนนี้ เขาจีบฉันย่ะ”
    
    อัทธ์สะดุ้ง เสียงจันทร์กระพ้อดังมาก จีบเมื่อไหร่ ไม่รู้จักด้วยซ้ำ
    
    “บอกแล้วไง ฉันไม่สนใจคุณ ยังมาให้ยายขวัญช่วยเป็นแม่สื่อแม่ชักอีก ผู้หญิงเขาไม่รัก ตื๊ออยู่ได้ น่ารำคาญ...เสี่ยเพ้งเองก็เถอะ รู้ได้ยังไงว่าเขาคบเพียงขวัญ มีใครเห็นงั้นหรือ พวกป้าน่ะตกเป็นเครื่องมือยายบงกชแล้ว แม่บงกช อกใหญ่ รู้ไว้นะ ถึงยังไงหล่อนก็ไม่มีวันได้บทนางเอก”
    
    “นังจันทร์ ใครบอกว่าฉันอยากได้บทนางเอก หา”
    
    “ฟังไว้เลยนะทุกคน เพียงขวัญกับฉันจะไม่ออกไปจากกองถ่ายนี้ เราถือว่าเราบริสุทธิ์ใจ เรามาทำงาน เรื่องเมื่อวานนี้เพียงขวัญเขาไม่เอาเรื่อง เพราะอยากให้งานเสร็จ แต่ถ้ามีคราวหน้า เราสองคนจะสู้ ตายเป็นตาย แต่ไม่ยอมแพ้โว้ย”
    
    อัทธ์มองจันทร์กระพ้อ ยิ้มขำ เอ็นดู ประกายตาวิบวับ ชื่นชอบ เสี่ยเพ้งเดินเข้ามาในโรงถ่ายกับผู้กำกับ เพียงขวัญรีบเข้าไปดึงจันทร์กระพ้อ ปรามไว้ จันทร์กระพ้อยอมเก็บนวม ช่วยกันกับขวัญ ออกจากกลางกองถ่าย ช่างไฟ แม่ครัว บงกช กลับไปทำหน้าที่ของตน
     
    ตอนที่ 5
    
    อัทธ์เดินตามไปคุยกับจันทร์กระพ้อเพราะเห็นว่าน่ารักดี  “ผมเพิ่งรู้ตัวว่า...ผมจีบคุณ”
    
    “ฉันปกป้องเพื่อนฉันต่างหาก ยายขวัญเป็นนางเอก คนอิจฉาเยอะ เวลามีผู้ชายมาติดพัน โดนนินทาเสียหายทุกที ฉันเลยแบ่ง ๆ คำครหามาบ้าง”
    
    “น้องขวัญโชคดีมาก มีเพื่อนเสียสละอย่างคุณ  คราวหน้ามา  ผมก็ต้องเล่นตามน้ำ ทำทีเป็นจีบคุณสิน่ะครับ   คุณชอบดอกไม้อะไร  ผมจะซื้อมาให้”
    
    “โฮ้ยไม่ต้องสมบทบาทนักหรอกคุณ  ทางที่ดี คุณอย่ามาอีกเลยดีกว่า เดือดร้อนฉัน เดือดร้อนยายขวัญ”
    
    “ผมเองก็เดือดร้อน คุณทึกทักเอาว่าผมมาจีบคุณ  ผมไม่ได้ชอบผู้หญิงประเภท...หญิงรักหญิงซักหน่อย”
    
    “เอ้ย ฉันเป็นผู้หญิงแท้”  
    
    “เอาเป็น..ดอกกุหลาบแล้วกันนะครับ” อัทธ์สรุปเองก่อนเดินหนีกลับไปที่รถแล้วขับออกไป จันทร์กระพ้ออารมณ์เสียเดินกลับไปหาเพียงขวัญ เพียงขวัญคิดว่าอัทธ์คงแค่พูดล้อจันทร์กระพ้อเล่นเท่านั้น จันทร์กระพ้อเห็นเพียงขวัญหน้าแดงก็คิดว่าเพียงขวัญคงกำลังคิดถึงอัทธ์ หารู้ไม่ว่าเพียงขวัญกำลังคิดถึงคำพูดของรณพีร์อยู่
     
    กำพลเอารถมาแลกคืนกับรณพีร์ เพราะกลัวจะขับรถไปเฉี่ยวชนแล้วไม่มีปัญญาจะซ่อมคืนให้รณพีร์ รณพีร์ไม่อยากให้เพียงขวัญรู้ว่าไม่ได้จนจริง เลยเอารถตัวเองแลกกับมอเตอร์ไซค์ของขันติแทน กำพลกับขันติพากันแปลกใจ รณพีร์จะอยากยากจนไปทำไมนักหนา
    
    ยอดยศผิดหวัง กลับมากินเหล้าเมามายอยู่ที่กองบิน เพราะคิดว่าเพียงขวัญหันไปคบกับอัทธ์แล้ว รณพีร์พลอยกลุ้มไปกับยอดยศด้วย เมื่อคิดว่าเพียงขวัญจะคบกับอัทธ์จริง ๆ
    
    ในที่สุดกองถ่ายหนังเรื่องนางเสือสาวก็สามารถปิดกล้องได้ตามกำหนด เพียงขวัญดีใจมาก ถ้าหนังเข้าฉาย เธอจะได้มีเงินไปรักษายาย อดุลย์แอบตามเพียงขวัญไปที่กองถ่าย ได้ยินเพียงขวัญคุยกับจันทร์กระพ้อเรื่องการผ่าตัดยาย และได้ยินว่าหมอพุฒิภัทรรับปากจะช่วยผ่าตัดให้
     
    รณพีร์ไม่กล้าบอกความจริงกับเพียงขวัญ จึงไปขอให้พุฒิภัทรช่วยโกหกเพียงขวัญว่ามีโครงการการกุศลช่วยให้ยายเพียงขวัญได้ผ่าตัดฟรี พุฒิภัทรไม่ยอมช่วย เพราะไม่อยากโกหก รณพีร์โทรศัพท์ไปขอให้รัชชานนท์ช่วย รัชชานนท์กำลังยุ่งอยู่กับการช่วยสร้อยกับชัชวีร์พัฒนาประเทศ รณพีร์เลยโทรศัพท์ไปขอให้ปวรรุจช่วยแทน  ปวรรุจนิ่งฟังเรื่องทั้งหมดอย่างตั้งใจ สุดท้ายสรุปได้ว่ารณพีร์กำลังแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ธราธรที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากพุฒิภัทรเข้ามาแย่งโทรศัพท์จากรณพีร์ไปคุย
    
    “ชายรุจสะสางเรื่องงานให้เสร็จเร็ว ๆ นะ อาจต้องให้นายมาช่วย เป็นกามเทพแผลงศรใส่ชายพีร์แล้ว คราวนี้มาแปลกด้วยปฏิเสธยิก ๆว่าไม่ใช่ไม่เหมือนทุกครั้ง”
    
    “ได้ครับผมจะรีบทำงาน ท่านหญิงก็อยากเห็นหน้าผู้หญิงของรณพีร์เหมือนกัน”
    
    หลังวางสายจากปวรรุจแล้ว ธราธรกับพุฒิภัทรช่วยกันจับตัวรณพีร์ไปนั่งคุยกันให้รู้เรื่อง ธราธรสรุปว่าที่รณพีร์เป็นอยู่มีผลมาจากความกลัว รณพีร์นิ่งคิด ภาพอัทธ์ตามมาหลอน รณพีร์ตัดสินใจพยายามทำตัวเองให้กล้าหาญ เพื่อแก้ปัญหาอาการกลัวอัทธ์ของตน โดยเริ่มต้นจากการลากยอดยศไปหัดขี่มอเตอร์ไซค์บนรันเวย์ด้วยกัน เสร็จแล้วก็ชวนยอดยศ ขันติ กำพล ไปแข่งรักบี้ด้วยกัน
     
    เพียงขวัญไปรำกินรีร่อนออกอากาศที่ช่องสี่บางขุนพรหมอีกครั้ง ตามคำเรียกร้องของแฟนรายการ หลังเสร็จงาน เพียงขวัญกำลังจะเดินกลับออกจากห้องส่ง แต่กลับต้องชะงักเมื่อเห็นอดุลย์ยืนรออยู่ เพียงขวัญใจเต้น  นี่เป็นครั้งที่สองที่ได้เจอพ่อ
    
    คราวก่อนเพียงขวัญมารำฉุยฉายออกอากาศสด อดุลย์เห็นเพียงขวัญในทีวีก็จำได้ รีบขับรถมาหาที่สถานี เพียงขวัญตกตะลึง ตาค้าง ช็อก เมื่อได้ยินอดุลย์ประกาศตัวว่าเป็นพ่อ ที่จริงเพียงขวัญรู้จากยายอยู่แล้วว่าอดุลย์คือพ่อของเธอ แต่ไม่เคยได้เจอหน้ากันมาก่อน อดุลย์เป็นพ่อเลี้ยง มีปางไม้ทางเหนือ อดุลย์ได้เจอกับนภาตอนที่นภาไปรำฉุยฉายในงานที่จวนผู้ว่าฯพิจิตร ยายเล่าให้เพียงขวัญฟังว่า ตอนนั้น นภาสวยมาก ผู้ชายตาค้างกันไปหมดทั้งงาน รวมทั้งอดุลย์ด้วย อดุลย์เป็นคนเชียงใหม่ ขึ้นล่องค้าไม้ ไม่มีใครรู้ว่าอดุลย์มีเมียแล้ว ตอนอดุลย์พาผู้ใหญ่มาขอ  ก็เอาสินสอดมาถูกต้องทุกอย่าง
    
    หลังแต่งงานอยู่กินกันได้ไม่นาน นภาก็จับได้ อดุลย์ทิ้งเมียหลวงไม่ลง ตัดขาดนภาก็ไม่ได้   นภาไม่ยอมเป็นเมียน้อย  ไม่อยากทำลายครอบครัวใครจึงตัดสินใจหนีมาปักหลักที่กรุงเทพฯ 
    
    เพียงขวัญโกรธพ่อ ไม่อยากเจอ จะเดินหนีออกไปทางประตูหลัง แต่อดุลย์เหมือนรู้แกว ตามไปดักหน้าไว้ได้ทัน เพียงขวัญคิดว่าอัทธ์เล่าเรื่องเธอให้อดุลย์ฟัง อดุลย์แปลกใจมากไม่รู้ว่าอัทธ์แอบติดต่อเพียงขวัญ
    
    “พ่อมาธุระที่กรุงเทพฯ เห็นข่าวหนูเยอะแยะไปหมด ไปหาที่นั่งคุยกันดีไหมลูก รถของพ่อจอดอยู่ข้าง ๆ นี่เอง”
    
    “ดิฉันเคยบอกไปตั้งแต่คราวที่แล้ว   ดิฉันกับแม่สุขสบาย  เราไม่ต้องการพบคุณอีก”
    
    “หลังจากแม่ของหนูหนีไป พ่อรู้จากเพื่อนที่เป็นหมอ ว่านภาตั้งท้อง พ่อเที่ยวตามหาแม่กับหนู  แต่ไม่พบ  ผ่านไป 18 ปี วันที่พ่อรอคอยก็มาถึง พ่อได้เจอหนูแล้ว  ให้โอกาสพ่อหน่อยได้ไหมลูก”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)