รจนาไฉนแกะมือปวุฒิออก แต่เขากลับดึงตัวให้หันกลับมา แล้วจะจูบ รจนาไฉนพยายามปัดป้องและร้องห้าม แต่ปวุฒิไม่ฟัง รจนาไฉนดิ้นหลุดมาได้ ตบหน้าปวุฒิเต็มแรง ปวุฒินิ่งแล้วก็ถลาเข้ากอด โน้มตัวหญิงสาวล้มลงบนแคร่ซุกหน้ามาจะกอดจูบ รจนาไฉนคว้าเอามงกุฎดอกไม้บนหัวมาฟาดใส่ ปวุฒิกระชากมงกุฎดอกไม้ ดอกไม้ร่วงกระจาย ปวุฒิยังคงถาโถมเข้าขืนใจแต่แล้วก็กลับหยุดนิ่ง เพราะเห็นรจนาไฉนนอนร้องไห้สะอึกสะอื้น.....
“คุณเพื่อน....ผมขอโทษ...” ปวุฒิรู้สึกผิดมาก
“ช่างมันเถอะค่ะ..ฉันถือว่าเป็นการชดใช้ความผิดที่ฉันทำร้ายจิตใจคุณ ต่อจากนี้..ฉันไม่ต้องรู้สึกผิดและมีตราบาปค้างในใจอีก” รจนาไฉนพูดจบก็เดินออกไปทันที
ปวุฒิวิ่งออกจากกระท่อมตามมาด้านนอก...ตะโกนไล่หลังรจนาไฉน ร้องไห้โฮ ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น
“ผมผิดอะไร ผมรักคุณ คุณก็เคยรักผม เขาต่างหากที่แย่งชิงคุณไปจากผม”
ปวุฒิร้องไห้โฮ ทรุดตัวลงกับพื้น รจนาไฉนหยุดยืนหันหลังกลับมามอง ด้วยความสงสารเดินเข้าคุกเข่าเช็ดน้ำตาให้อดีตชายคนรัก...ปวุฒิมองหน้ารจนาไฉน
“ไม่มีใครผิด แต่มันไม่สามารถแก้อะไรได้อีกแล้ว ยังไงคุณก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เราจะเป็นเพื่อนรักกันจนวันตาย”
“ผมขอถามเป็นครั้งสุดท้าย....คุณรักใคร”
“ทั้งตัวและหัวใจของฉัน อยู่กับคุณปัทม์” รจนาไฉนยิ้มตอบให้ปวุฒิทั้งน้ำตา
“รีบกลับเถอะ คนรักของคุณคงเป็นห่วงคุณมากแล้ว” ปวุฒิประคองรจนาไฉนลุกขึ้น..
เกิดฟ้าผ่าที่ด้านหน้า ต้นไม้ล้มลงขวางทางรถ ปัทม์เบรกรถกะทันหัน เขาเดินออกมาลากต้นไม้ออกจากเส้นทาง พลันกิ่งไม้ตกร่วงมาฟาดหัวปัทม์สลบล้มลงกลางถนน ท่ามกลางสายฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง
เปรมเข้ามาคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ลูกชายที่นอนไม่ได้สติ พ่อเลี้ยงพูนทวีเดินเข้ามา
“ยังไม่ตื่นอีกเหรอครับ”
“ขอบใจมากนะที่ช่วยพาตาปัทม์กลับมา แม่รบกวนช่วยออกไปตามรจนาไฉนให้ด้วยได้ไหม”
“ผมสั่งให้ชิกับคนงานออกไปเคลียร์ถนน ถ้าเสร็จแล้วผมจะรีบไปรับคุณเพื่อนกลับมาทันทีครับ”
เปรมพยักหน้ารับรู้ แล้วหันมาเช็ดตัวปัทม์ด้วยความเป็นห่วง พ่อเลี้ยงพูนทวีมองปัทม์ อยากรู้ความจริงทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น...พอออกมานอกห้องเจอโลมฤทัยยืนอยู่จึงสอบถามข้อเท็จจริง
“อย่ามัวเสียเวลากับที่มาที่ไปเลยค่ะ ผลลัพธ์น่าสนใจกว่า พ่อเลี้ยงควรดีใจที่ศัตรูหมาย เลขหนึ่งถูกกำจัด”
“ผมไม่เคยคิดทรยศเพื่อน” พ่อเลี้ยงพูนทวีพูดเสียงดุใส่
“ตายจริง พบลืมไปว่างานนี้พ่อเลี้ยงมีแต่เสียประโยชน์ สุดท้ายพี่เพื่อนก็เลือกคนรักเก่า พบไม่อยากนึกภาพเลย....ถ่านไฟเก่าชุโคนยามฝนตกพรำ คงช่วยสร้างความอบอุ่นได้ดีทีเดียว” โลมฤทัยเยาะเย้ย
“หยุดนะ เลิกคิดและพูดพล่อย ๆ คนอย่างคุณเพื่อนไม่มีวันสวมเขาให้ปัทม์”พูนทวีเชื่อมั่นในตัวรจนาไฉน
“เหรอคะ...ฝนตกหนักอย่างนี้คงต้องรอถึงเช้า...ถึงจะรู้ว่าสันนิษฐานของใครเป็นจริง”
โลมฤทัยยิ้มเย้ยมั่นใจในความคิดของเธอ พ่อเลี้ยงพูนทวีเริ่มกังวลใจ
เพราะฝนตกหนัก ทำให้เส้นทางขาดรจนาไฉนกับปวุฒิจึงไปไม่ได้ “เส้นทางขาดไปไม่ได้แล้ว.. เราคงต้องรอถึงเช้า”
“แต่ฉัน...” รจนาไฉนกังวลใจ
“เชื่อผมเถอะครับ เข้าไปหลบที่รถก่อน”
รจนาไฉนมองเส้นทางถนนที่ขาดกังวลใจกลัวปัทม์จะเป็นห่วง...พอปัทม์รู้สึกตัวมองหารจนาไฉนไม่เห็น
ถามแม่ว่าเธอกลับมาหรือยัง เปรมอึ้งไป พ่อเลี้ยงพูนทวีเข้ามาทำหน้าทะเล้น
“ตื่นมาก็ถามหาเค้า เค้าเขินนะตัวเอง”
“รจนาไฉนกลับมารึยัง” ปัทม์น้ำเสียงจริงจัง พ่อเลี้ยงพูนทวีอึ้งไม่กล้าตอบ ทันใดนั้นจันทร์เจ้าวิ่งเข้ามาบอกว่ารจนาไฉนกลับมาแล้ว ปัทม์และทุกคนได้ยินก็ดีใจ “คุณปวุฒิก็มาด้วยเจ้า” จันทร์เจ้าเสริมต่อ..
ปัทม์ได้ยินชื่อปวุฒิก็ไม่พอใจ เปรมและพูนทวีเห็นอาการก็ยิ่งเป็นห่วงกลัวจะมีเรื่อง...ปวุฒิเดินมาส่งรจนาไฉน
“ขอบใจมากนะ คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ”
“ผมต้องส่งคุณให้ถึงมือเจ้าของ”
ปวุฒิจับแขนรจนาไฉนจะเดินเข้าไปส่ง ปัทม์เดินออกมาจากบ้าน เห็นก็ไม่พอใจ
“ไปไหนมา”
“ไปน้ำตกมาไงคะ พอดีฝนตกหนัก ฉันติดฝนต้องหลบอยู่ที่นั่น ฉันเจอคุณปวุฒิโดยบังเอิญ คุณปวุฒิจะพาฉันมาส่ง แต่ถนนขาด...ต้องรอเจ้าหน้าที่มาซ่อมถนน” รจนาไฉนอธิบาย
“ฉันต้องการฟังจากปากของเขา” ปัทม์มองหน้าปวุฒิอย่างเอาเรื่อง
“คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ ขอบใจมากนะ” รจนาไฉนไม่อยากให้มีเรื่อง
ปวุฒิจะเดินออกไป ปัทม์ตะโกนบอก
“ฉันต้องการฟังจากปากชายชู้”
“คุณปัทม์”
ปวุฒิหันกลับมาหาปัทม์ทันที ปัทม์เดินตรงเข้าหาปวุฒิ
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง