ผู้เขียน หัวข้อ: มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 5 มิถุนายน 2556  (อ่าน 361 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 5 มิถุนายน 2556
« เมื่อ: มิถุนายน 05, 2013, 04:50:27 am »

 ปัทม์มาโอบอยู่ด้านหลังแล้วก็จับมือรจนาไฉน สอนการชงชา ภายใต้บรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก 
     
    “ชาจะมีรสชาติดี..ก็ต่อเมื่อเราได้ดื่มกับคนรู้ใจ”
     
    ทั้งสองมองเคลิ้มตกอยู่ในภวังค์ ปัทม์เชยหน้ารจนาไฉนขึ้น เหมือนกำลังจะจูบรจนาไฉน...แต่แล้ว...มือของปัทม์ไปปัดแก้วชาล้มลง  ทำให้ทั้งสองตื่นจากภวังค์  รจนาไฉนรีบเลี่ยงหนีไปอย่างเขินอาย ปัทม์ยิ้มเจ้าเล่ห์
    
    รจนาไฉนเข้ามาในห้องนอน หันมองแล้วนึกแปลกใจที่ปัทม์ไม่เดินตามมาตอแยอย่างที่คาดไว้ 
    
    “มองหาใครเหรอครับ”
    
    รจนาไฉนตกใจ เห็นปัทม์นอนอมยิ้มอยู่บนเตียง เธอไล่แต่เขาไม่ไป
    
    “ที่นอนคุณอยู่ที่โซฟา ไปนอนตรงโน้นสิ...ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ..จะแกล้งฉันอีกแล้วเหรอ”
    
    “ไม่สงสารฉันเหรอ ฉันต้องทรมานนอนในห้องขังตั้งหลายคืนแล้วนะ ฉันอยากนอนสบาย ๆ บ้าง แต่เอาเถอะ..เตียงนอนนี่เป็นของเธอไปแล้ว ฉันไปนอนที่พื้นก็ได้”
     
    ปัทม์จะลุกไป  แต่รจนาไฉนจับมือไว้
    
    “คุณนอนบนเตียงก็ได้”
     
    ปัทม์ยิ้มดีใจแต่เก็บอาการล้มตัวลงนอน   รจนาไฉนกลับหอบผ้าห่มลุกขึ้น ปัทม์ถามเธอว่าจะไปไหน
    
    “คุณนอนบนเตียง ฉันจะไปนอนโซฟา”
    
    “ถ้าทำให้เธอลำบาก ฉันไปนอนโซฟาเอง”
    
    “ไม่ได้  คุณควรจะนอนเตียง  ฉันไปนอนโซฟาเอง”
    
    “แล้วทำไมเธอไม่นอนเตียงเดียวกับฉัน   รังเกียจคนขี้คุกอย่างฉันเหรอ” ปัทม์แกล้งเศร้า
    
    “ไม่ใช่นะ เพียงแต่...”
     
    “ถ้าไม่รังเกียจก็ต้องพิสูจน์ให้ฉันเห็น  ถ้าไม่ยอมนอนที่เตียงนี้ด้วยกัน ฉันจะถือว่าเธอปากอย่างใจอย่าง”
     
    รจนาไฉนจำต้องนอน ปัทม์ยิ้มดีใจ ทั้งสองมองหน้ากัน...
    
    “ไม่ไหว ให้นอนนิ่ง ๆ อย่างนี้  ฉันนอนไม่หลับหรอก” รจนาไฉนอึดอัด
    
    “คุณจะนอนไงก็ได้  แต่ห้ามลุกหนีไปจากเตียง”
     
    รจนาไฉนจึงล้มลงนอนอีกครั้ง พลิกไปอีกทาง ปัทม์นอนหลับตา แล้วยิ้มอย่างมีความสุข
     
    อุรารัตน์เสียใจมากที่พ่อเลี้ยงเจงกับปัทม์มีปัญหากัน กระทั่งตัวเธอเองก็ไม่สามารถสานสัมพันธ์กับเขาได้อีก เธอกลุ้มใจไปนั่งดื่มเหล้าที่ผับจนเมา ปลัดวราห์เข้ามาเห็นพอดีจึงนั่งดื่มเป็นเพื่อนด้วย เขารอโอกาสจนกระทั่งเธอเมาแทบไม่ได้สติจึงพาเข้าโรงแรม
    
    ปลัดวราห์อุ้มร่างของอุรารัตน์วางลงบนเตียง อุรารัตน์รู้สึกตัวผลักวราห์ออก
    
    “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน...ไอ้สุนัขรับใช้!”
    
    “ผมเช็ดเนื้อตัวให้นะครับ คุณแอรี่จะได้สบายขึ้น”
    
    “ไม่ต้อง...แกไปรับใช้เฝ้าบ้านให้พ่อฉัน ไปเห่าหอนที่โน่น ไม่ต้องยุ่งกับฉัน”
     
    อุรารัตน์ไล่ตะเพิด แล้วก็นอนด้วยอาการเมาไร้สติ ปลัดวราห์มองอุรารัตน์ ถอดรองเท้าแล้วผ้าห่มคลุมให้
    
    “สุนัขรับใช้ตัวนี้ จะทำตามที่เจ้านายต้อง การครับ...”
     
    ปลัดวราห์เดินไปล็อกห้อง หันกลับมามองร่างของอุรารัตน์ยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะโถมเข้าไปหา
    
    ค่ำคืนนั้น ปัทม์พารจนาไฉนไปลอยโคม เพราะเป็นสิ่งที่เธอยังไม่เคยทำ แล้วพามายืนในจุดที่เห็นโคมลอยได้ชัดขึ้น ปัทม์เห็นรจนาไฉนมีความสุข เขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย
     
    “มันลอยไปด้านโน้นแล้ว ฉันจะพาไป”
    
    “ขอแค่ได้เห็นแสง...ช่วยสร้างความหวังให้กับชีวิต แค่นี้ก็สุขใจแล้ว....ฉันไม่อยากเห็นตอนมันตก”
    
    “เธอนี่เรื่องเยอะนะ...เมื่อกี้อธิษฐานอะไร”
    
    “ฉันขอให้พ่อฉันหายป่วย”
    
    “ทำไมเธอถึงได้รักพ่อเธอนักหนา ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ใช่...” ปัทม์ยั้งไว้
    
    “ถึงพ่อนพรัตน์เป็นเพียงพ่อเลี้ยง แต่พ่อรักฉันไม่ต่างจากลูกแท้ ๆ ฉันไม่เคยได้รับความรักความอบอุ่นจากผู้ชายคนไหนเท่ากับพ่อนพรัตน์ บางครั้ง..สายเลือดก็ไม่ใช่ข้อจำกัดในความรัก”
     
    ปัทม์รู้สึกสงสารรจนาไฉนขึ้นมาจับใจ...เข้าสวมกอดเธอด้านหลัง รจนาไฉนถึงกับอึ้ง...
    
    “ถึงสายตาคนทั่วไปจะมองว่าเธอเป็นเด็กกำพร้าขาดความรัก แต่ในความเป็นจริง เธอกลับมีวิธีคิดที่ทำให้ความรักที่มีเต็มเปี่ยม...มากพอที่จะแบ่งปันให้คนรอบข้าง ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ ถึงรักเธอ”
     
    ปัทม์จับตัวรจนาไฉนหันหน้ามา ทั้งสองคนมองสบตากัน
    
    “รจนาไฉน...เธอรักฉันไหม”
     
    รจนาไฉนไม่กล้าตอบ ปัทม์ตัดสินใจจะจูบรจนาไฉน ทั้งสองเคลื่อนใบหน้าจนเกือบจะจุมพิตกัน แต่แล้วรจนาไฉนถอยห่าง เลี่ยงจะกลับบ้าน
    
    “กลับกันเถอะค่ะ”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)