ผู้เขียน หัวข้อ: มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 19 พฤษภาคม 2556  (อ่าน 446 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 19 พฤษภาคม 2556
« เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2013, 11:51:05 am »

 “พูดดี ๆ นะ... คุณปวุฒิไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คุณพูด”
    
    “เลิกเข้าข้างชู้ซะทีได้มั้ย! อย่าคิดว่าฉันจะโง่และตาบอดเหมือนผู้ชายคนอื่น เธอไม่รู้บ้างเลยรึไงว่าการเป็นภรรยาที่ดีควรทำตัวยังไง คบชู้สู่ชายในไร่ของผัวตัวเอง ทุเรศสิ้นดี”
    
    “หยุดก้าวร้าวคุณเพื่อนเดี๋ยวนี้”
    
    ปัทม์กระโดดลงจากหลังม้า มองหน้าปวุฒิ
    
    “คุณไม่มีสิทธิสั่ง!! เพราะแผ่นดินที่คุณเหยียบ มันคืออาณาเขตของไร่ปัทมกุล ออกไปจากไร่ผมเดี๋ยวนี้!!”
    
    “คุณปวุฒิกลับไปเถอะค่ะ”
    
    ปัทม์โมโหชักปืนออกมาขู่ ปวุฒิดื้อไม่ยอม
    
    “ยิงสิ...ผมเจอคนจริงมาก็เยอะ แค่ดูแววตา ผมก็รู้ว่ามันก็แค่ไอ้ขี้ขลาด!”
    
    รจนาไฉนรู้นิสัยปัทม์ดีว่าไม่ชอบให้ใครมาท้าทายเธอ รีบเข้าไปห้าม ปวุฒิมองเย้ยและท้าทายปัทม์มากขึ้น
    
    “ผู้ชายคนนี้ทำได้แค่ใช้อำนาจข่มขู่คนอื่นไปวัน ๆ พอทุกคนกลัวก็เลยได้ใจ คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ความเป็นจริงแล้ว ในใจของเขากลับกลวง ไม่มีความกล้า”
    
    ปวุฒิพูดไม่ทันจบ ปัทม์ก็ยิงปืนใส่ทันที ปวุฒิหลบได้ ปืนเฉี่ยวไปโดนรถ...ปัทม์จะยิงซ้ำ รจนาไฉนตกใจ ปวุฒิตัดสินใจพุ่งเข้าไปชาร์จ ปืนหล่นแล้ว ทั้งสองชกต่อยกันกลิ้งลงมาด้านล่าง รจนาไฉนเข้ามาขวางถูกปัทม์ผลักไปกระแทกกับต้นไม้
    
    ปัทม์ตกใจหันไปมอง จังหวะนั้นปวุฒิเข้ามาเล่นงานจนปัทม์พลาดท่าเสียที ปวุฒิพุ่งเข้ามาจับปัทม์ไพล่หลังคว้ากุญแจมือมาคล้องข้อมือปัทม์ทั้งสองข้าง
    
    ปวุฒิจึงตั้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน รจนาไฉนตกใจไม่คิดว่าปวุฒิจะเอาเรื่อง ปัทม์ถูกจับขังคุก “ในเกมที่มีรจนาไฉนเป็นเดิมพัน ถ้าแข่งด้วยฐานะทางสังคม ผมอาจจะแพ้คุณขาดลอย แต่ถ้าแข่งกันด้วยวุฒิภาวะทางอารมณ์ ผมชนะขาด”
    
    “จะแจ้งข้อหาอะไรก็ว่ามา ฉันจะสู้คดีให้ถึงที่สุด”
    
    “ถ้ายังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้...คุณไม่มีวันชนะ”
    
    ปวุฒิมองเย้ยเดินออกไปอย่างผู้ชนะ ยิ่งทำให้ปัทม์เจ็บใจมากยิ่งขึ้น...เวลาผ่านไปเล็กน้อย ปัทม์เครียดและหงุดหงิดอยู่ในห้องขัง เขาเงยหน้ามอง รจนาไฉนเดินเข้ามาเยี่ยม
    
    “สะใจเธอรึยัง พาชู้เข้ามาเล่นงานฉันถึงบ้าน ตั้งใจจะให้ฉันโดนจับ แล้วเธอจะได้ทำเรื่องหย่าไปเสวยสุขกับมันใช่มั้ย”
    
    “ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะ”
    
    “เธอจงใจช่วยมัน ทำให้ฉันพลาดท่าโดนจับ ยังกล้ามาตีหน้าเศร้า เธอมันแพศยาไร้ยางอาย”
    
    รจนาไฉนเสียใจที่ปัทม์มองเธอในแง่ร้าย แต่ก็อดทนอดกลั้น
    
    “ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าฉันไม่ได้ร่วมมือกับ     ปวุฒิทำร้ายคุณ”
    
    “ออกไปได้แล้ว...ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของกากี! ออกไป”
    
    รจนาไฉนน้ำตาตกในที่ถูกปัทม์ด่าอย่างหยาบคาย ปัทม์มองอย่างเชื่อมั่นว่าทั้งสองวางแผนร่วมกัน...รจนาไฉนเดินเข้ามาหา ปวุฒิรู้ดีว่าเธอจะพูดอะไร
    
    “ถอนแจ้งความได้มั้ย เขาไม่ได้ตั้งใจ”
    
    “คุณก็เห็นว่าเขาคิดฆ่าผม”
    
    “เขาวู่วามจนขาดสติ ถ้ามีสติเขาคงไม่ทำอย่างนั้น ปวุฒิคะ ฉันขอร้องล่ะ” รจนาไฉนพูดพลางจับมือ  ปวุฒิ
    
    “ทำไมคุณถึงต้องดีกับเขานัก ทั้ง ๆ ที่เขาใจร้ายกับคุณ...รึว่าคุณรักเขา”
    
    ปวุฒิมองอย่างค้นหา รจนาไฉนสะอึกเก็บความรู้สึกสับสนไว้ภายใน
    
    “ฉันจำเป็นต้องช่วย...เพราะเขาได้ชื่อว่าเป็นสามีของฉัน”
    
    “ผมจะพยายามยอมรับและเข้าใจว่านี่คือหน้าที่ของภรรยา แต่ตัวผมกำลังทำหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย! พ่อเลี้ยงปัทม์จะถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน คุณกลับบ้านไปเตรียมของใช้ให้เขาเถอะ เพราะเขาคงต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวัน ถ้าไม่ได้ประกันตัว” ปวุฒิเดินออกไป
    
    รจนาไฉนกลับไปที่บ้านจัดเตรียมของใช้จำเป็นให้ปัทม์ในห้องนอนของเขา ขณะที่หยิบของออกจากตู้เสื้อผ้า เธอเจอภาพถ่ายแสงจันทร์ใส่กรอบรูปซุกอยู่ จึงหยิบมาดูด้วยความแปลกใจว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร...จังหวะนั้นคุณเปรมเดินเข้ามา
    
    “ทำอะไรอยู่จ๊ะหนูเพื่อน”
    
    รจนาไฉนหันไปเจอเปรมก็แปลกใจ...รีบวางรูปภาพไว้ที่มุมหนึ่งของห้อง แล้วไหว้คุณเปรม
    
    “สวัสดีค่ะคุณเปรม”
    
    “ทำไมเรียกอย่างนั้นล่ะ หนูเพื่อนต้องเรียกฉันว่าแม่ถึงจะถูก”
    
    “ค่ะ คุณแม่”
    
    “ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแลหนูเลย ช่วงนี้ต้อง  ไปวิปัสสนา ประสานงานกับอาจารย์บ่อยครั้ง นี่ก็แค่แวะมาเอาเอกสารที่ดินท้ายไร่ เพราะจะสร้างสถานปฏิบัติธรรมอีกแห่ง หนูอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง ตาปัทม์ดูแลหนูดีมั้ย”
    
    “ดีค่ะ คุณปัทม์ดูแลเพื่อนอย่างดีทุกอย่าง”
    
    เปรมเห็นกระเป๋าที่รจนาไฉนจัดเตรียมไว้ก็แปลกใจ
    
    “เก็บกระเป๋าให้ตาปัทม์ จะไปไหนเหรอ”
    
    “คุณปัทม์จะพาเพื่อนไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนค่ะ” รจนาไฉนตัดสินใจโกหก
    
    “เห็นรักกันแบบนี้ฉันก็สบายใจ เออ...ว่าแต่ว่าตาปัทม์อยู่ไหนล่ะ ถามพวกชิก็ชิงไปทำงานซะก่อน ไม่ทันได้ตอบ”
    
    รจนาไฉนอึกอักไม่กล้าบอกความจริงเกี่ยวกับปัทม์
    
    “ว่าไงจ๊ะ ตาปัทม์อยู่ไหน”
    
    “คุณปัทม์ออกไปตรวจงานที่ท้ายไร่ค่ะ ต้องไปเที่ยวหลายวัน เลยออกไปสั่งงาน”
    
    “เหรอจ๊ะ...คิดไม่ถึงเลยว่าตาปัทม์จะโรแมนติกถึงกับพาแฟนไปเที่ยว”
    
    “คุณปัทม์น่ารักออกค่ะ เป็นคนเอาใจเก่ง”
    
    “คงเป็นเพราะหนูที่ทำให้ลูกชายฉันเปลี่ยนไป”
    
    เปรมเดินเข้ามาจับมือรจนาไฉน...ฝากฝังเรื่องปัทม์
    
    “ฝากดูแลปัทม์ด้วยนะ อาจจะดื้อหัวรั้นไปบ้างเพราะชีวิตเขาแห้งแล้งมานาน ดินเมื่อขาดปุ๋ยขาดน้ำ...เราจะเรียกหาความชุ่มฉ่ำได้ยังไง คงต้องขอให้หนูทำตัวเป็นสายฝน พรมหัวใจตาปัทม์ให้กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้งนะจ๊ะ” เปรมพูดพลางยิ้มเอ็นดู
    
    “ค่ะ...คุณแม่” รจนาไฉนรับปากเปรม รับรู้ได้ถึงความสนิทสนมและผูกพันระหว่างแม่ลูกคู่นี้   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)