“โคลิน ฟาร์เรล” กับผลงานเรื่องล่าสุดในภาพยนตร์แอ๊คชั่น-ทริลเลอร์สุดระห่ำเรื่อง “เดธ แมน ดาวน์” หรือที่มีชื่อภาษาไทยว่า “แค้นได้ตายไม่เป็น” ประกบคู่นักแสดงสาวมากฝีมืออย่าง “นูมี ราเพซ” งานนี้นักแสดงชื่อดังอย่าง “โคลิน ฟาร์เรล” ที่รับบทเป็น วิคเตอร์ เล่าถึงคาแรกเตอร์ที่เขาได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า
“ในเรื่องนี้ผมรับบทเป็น วิคเตอร์ เป็นผู้อพยพชาวฮังกาเรียน เขาเรียนจบมาทางด้านงานวิศวกร และถีบตัวเองเข้ามาแสวงหาโอกาสที่นิวยอร์ก เขามีภรรยาและลูกที่น่ารักเป็นครอบครัวที่อบอุ่น แต่แล้วอยู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับภรรยาและลูกของเขา จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันสร้างฝันร้ายให้กับ วิคเตอร์ อย่างไม่มีวันลืม เขาเริ่มต้นการไล่ล่าคนที่พรากครอบครัวไปจากเขาและแน่นอนว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้คนเหล่านั้นลอยนวลครับ
“เดธ แมน ดาวน์” เป็นการเล่าเรื่องราวของคนสองคน ที่มีบาดแผลในใจเกินจะเยียวยา แต่บังเอิญคนทั้งสองมีโอกาสได้รู้จักและสานความสัมพันธ์กัน ต่างฝ่ายต่างหยิบยื่นโอกาสในการเยียวยาแผลในใจซึ่งกันและกัน ในภาพยนตร์เรื่องนี้ผู้ชมจะได้เห็นแง่มุมการใช้ชีวิตของตัวละครสองตัวหลักคือ วิคเตอร์ และ เบียทริซ รับบทโดย นูมี ราเพซ พวกเขาต่างฝ่ายต่างผ่านอดีตที่เจ็บปวดฝังใจมามาก เมื่อคนทั้งคู่ได้มาเจอกันพวกเขาได้เริ่มต้นเรียนรู้วิธีการรักษาสภาพจิตใจที่เจ็บปวด ต่างฝ่ายต่างเติมเต็มในส่วนที่ขาดซึ่งกันและกัน ทั้งคู่ช่วยกันไถ่บาปหัวใจและไถ่บาปโชคชะตาของตัวเอง มันเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนและหักมุม มีฉากแอ๊คชั่นที่น่าตื่นเต้นชวนให้ติดตามอยู่ตลอดเวลา
สำหรับการร่วมงานกับ นูมี ราเพซ เธอเป็นนักแสดงที่น่าทึ่งมากครับ เธอถ่ายทอดอารมณ์และตัวตนของ เบียทริซ ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนเริ่มต้นการถ่ายทำ ผมและ นูมี เราได้มีโอกาสร่วมทำเวิร์กช็อป ด้วยการนั่งต่อบททีละหน้าด้วยกันอย่างจริงจัง มันช่วยสร้างความสัมพันธ์ให้เราทั้งคู่รู้สึกอินกับบทที่เราได้รับมากยิ่งขึ้น ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับเธอครับ ส่วน นีลส์ อาร์เดน ออพเลฟ เขาเป็นผู้กำกับที่ตื่นตัวอยู่เสมอ เขาตั้งใจทำงานทุก ๆ รายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแอ๊คติ้งนักแสดง มุมกล้อง แสง เฟรม การลำดับภาพ เสียง รับรองว่าไม่มีฉากไหนที่จะผ่านตาเขาไปได้ง่าย ๆ ถ้ามันยังไม่เพอร์เฟกต์พอครับ เขาทำให้ผมรู้สึกมั่นใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกมาสมบูรณ์แบบและลงตัวมาก ๆ เรื่องหนึ่งที่ผมเคยทำงานมาครับ ฝากให้แฟน ๆ ติดตามดูกันว่าบทสรุปสุดท้ายของตัวละครแต่ละตัวจะเป็นอย่างไร และพวกเขาจะแก้ปมฝังใจในอดีตได้หรือไม่”.
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง
