ผู้เขียน หัวข้อ: สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายพุฒิภัทร วันที่ 6 พฤษภาคม 2556  (อ่าน 443 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 “ทุกวันนี้ หนูแก้วทำตัวลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน กับใคร แล้วเธอจะทำยังไงให้หนูแก้วมาร่วมงานนี้”
    
    “ท่านไม่ต้องห่วงค่ะ นางสาวศรีสยาม ย่อมไม่ปฏิเสธงานมอบรางวัลประจำตำแหน่ง ที่จะจัดร่วมในงานเต้นรำทำประโยชน์ให้กับทหารชายแดนของชาติ...ไม่ใช่เหรอคะ”
    
    ใบบัวยิ้ม มั่นใจ พินิจเริ่มมีความหวัง
     
    วันรุ่งขึ้น ขณะที่แก้วกำลังสอนเกษรากับแย้มทำขนมจีบอยู่ในครัว ชินกรเดินเข้ามาพร้อมหนังสือพิมพ์
    
    “แก้ว คุณเกษ...ดูข่าวนี้สิครับ” ชินกรเปิดหนังสือพิมพ์ให้ดู หน้าข่าวประชาสัมพันธ์
    
    “ราตรีลีลาศการกุศล ณ วังแสงอรุณ  งานนี้เกษเคยไปค่ะ ท่านชายเกริกท่านเคยทรงเชิญคุณพ่ออยู่บ่อย ๆ คุณชินอยากไปหรือคะ”
    
    “อ่านต่อให้จบก่อนสิครับ”
    
    “ขอเชิญแขกผู้มีเกียรติซื้อบัตรเข้างาน เพื่อร่วมประมูลเต้นรำครั้งหนึ่งในชีวิตกับนางสาวศรีสยาม พุทธศักราช ๒๕๐๒ นางสาวกรองแก้ว บุญมี โดยในงานนี้จะมีพิธีมอบเงินรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดนางสาวศรีสยามด้วย”
    
    “อะไรกันนี่...แก้วต้องไปงานนี้หรือคะ            ทั้ง ๆ ที่แก้วไม่ได้ทราบอะไรล่วงหน้าเลย”
    
    “กองประกวดคงติดต่อแก้วไม่ได้ ก็เลยใช้วิธีลงประกาศหนังสือพิมพ์แทน แล้วเดี๋ยวแก้วคงจะติดต่อกลับไปเหมือนครั้งก่อน”
    
    “เหมือนครั้งก่อน...ก็แสดงว่าพวกเขาวางแผนคิดจะเอาตัวแก้วไปให้ได้อีกแล้ว ใช่มั้ยคะ”
    
    “งั้นคุณแก้วอย่าไปเลยค่ะงานนี้” แย้มเป็นห่วงแก้วมาก
    
    “ไม่ไปได้ยังไง เงินรางวัลเป็นสิทธิของแก้ว ถึงคุณชายพุฒิภัทรจะช่วยดูแลพ่อของแก้วให้ แต่แก้วก็ยังจำเป็นต้องมีเงินสำรองเอาไว้ดูแลพ่อต่อไปในอนาคต แล้วที่สำคัญ งานนี้ไม่ใช่งานธรรมดา แต่เป็นงานเลี้ยงสโมสรของท่านชายเกริกเชียวนะ ลงประกาศหนังสือพิมพ์ขนาดนี้ ถ้าแก้วไม่ไป คนที่เสียชื่อก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากท่านชายเกริกท่านเจ้าภาพน่ะสิจ๊ะ”
    
    “มันจะกลายเป็นว่าแก้วไม่ให้เกียรติ ไม่มีสัมมาคารวะกับท่าน ซึ่งไม่ดีแน่ ๆ”
    
    “ถ้าอย่างนั้น แก้วก็ต้องไปงานนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช่มั้ยคะ”
    
    “แก้วไม่ต้องกลัวนะ เพราะงานระดับนี้ มีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ชนชั้นสูงเท่านั้น พวกคุณอิงอรกับลูก ๆ มาร่วมงานไม่ได้แน่ ๆ”
    
    “แล้วท่านพินิจล่ะคะ”
    
    เกษรา ชินกรไม่รู้จะตอบยังไง
    
    “ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ แก้วก็จะไปค่ะ แต่คุณเกษช่วย...”
    
    “ไม่ต้องห่วงเลยแก้ว พวกเราจะไม่ทิ้งเธอ เราจะช่วยกันวางแผนหาทางหนีทีไล่เอาไว้ เอาให้รัดกุมกว่าครั้งก่อน ดีมั้ย”
    
    “แก้วจะบอกว่า...คุณเกษช่วยสอนแก้วเต้นรำได้มั้ยคะ...แก้วเต้นรำไม่เป็นค่ะ” แก้วหน้าเครียด
     
    เอียดกับอ่อนบังคับให้พุฒิภัทรสอนมารตีเต้นรำ รัชชานนท์คิดหาทางช่วยพุฒิภัทร ด้วยการเสนอตัวสอนเต้นรำให้มารตีแทน รณพีร์เข้าไปช่วยกันไม่ให้เอียดกับอ่อนดึงตัวมารตีไปจากรัชชานนท์
    
    จังหวะชุลมุน รัชชานนท์ส่งซิกให้พุฒิภัทร หาทางหลบออกไป พุฒิภัทรทำทีขอตัวไปโทรศัพท์ถึงที่โรงพยาบาล มารตีจะตามไป รัชชานนท์รีบดึงมารตีม้วนเข้ามาในอ้อมอก แล้วจับมารตีหมุนแล้วหมุนอีก เน้นสอนแต่ท่าหมุน รณพีร์คอยเชียร์อยู่ข้าง ๆ เอียดกับอ่อนดูการสอน ลุ้นไปมา
    
    พุฒิภัทรฉวยโอกาสขับรถหนีออกไปหาแก้วที่บ้านเกษรา เห็นแก้วกำลังเรียนเต้นรำกับ
    เกษราอยู่พอดี พุฒิภัทรรีบเข้าไปเสนอตัวสอนเต้น รำให้แก้วแทนเกษรา
    
    “ผู้หญิงสอนผู้หญิงด้วยกันจะสอนได้แค่ท่า แต่ถ้าจะเต้นให้เข้าใจและคล่อง ต้องหัดกับคู่เต้นผู้ชายที่เก่ง ๆ...ขอมือให้ชั้นสิแก้ว”
    
    แก้วนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจวางมือลงไป พุฒิภัทรกุมมือนั้นเบา ๆ อ่อนโยน แก้วเขินสีหน้าแดงระเรื่อ พุฒิภัทรก็ตื่นเต้นเช่นกัน มองใบหน้าแก้วที่ก้มหลบตาเขาอยู่ ค่อยเอื้อมมือไปแตะที่เอวของแก้ว ต่างคนต่างเขิน
    
    “วางมือสบาย ๆ ไม่ต้องเกร็ง...เชิดหน้าสิแก้ว อย่ามองเท้า ต้องหลังตรงถึงจะสวย”
    
    แก้วค่อย ๆ ยืดหลังตรง เงยคอ เงยหน้าขึ้นมา แต่ไม่ยอมสบตา
    
    “สบตาชั้นสิแก้ว”
    
    แก้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาสบตา พุฒิภัทร อึ้งนิ่งงันไปไม่น้อยกว่าแก้ว ทั้งสองนิ่งไป เหมือนโดนสะกด แย้มเปิดแผ่นเสียง แล้วแอบสังเกต การณ์แถว ๆ นั้น
    
    พุฒิภัทรได้ยินเสียงแก้วเรียกค่อยได้สติ “เอ่อ...ก้าวตามชั้นนะแก้ว”
    
    พุฒิภัทรก้าวนำ แก้วตาม ท่าทางแก้วเกร็ง แก้วสะดุดเล็กน้อย แล้วก็เผลอก้มหน้ามองเท้า พุฒิภัทรบอกแก้วให้ยืดหลังตรง เชิดหน้า มองมาที่ตน ไม่ต้องกังวลเท้าหรืออะไรทั้งนั้น ขอให้ฟังเพลงให้ดีและจับจังหวะให้ได้ แก้วบอกเธอไม่ชินกับรองเท้า กลัวเหยียบเท้าพุฒิภัทร ไม่ทันขาดคำ แก้วก็เหยียบเท้าพุฒิภัทรจริง ๆ แก้วผงะซีด พุฒิภัทร นิ่ง ๆ ยิ้ม ๆ ไม่ได้เจ็บอะไร ออกจะขำ ๆ ด้วยซ้ำ
     
    มารตีถูกรัชชานนท์จับเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจนมึน เอียดเห็นท่าไม่ดี ร้องบอกให้รัชชานนท์หยุดสอนท่าหมุนให้มารตี รัชชานนท์อ้างว่าท่าหมุนเป็นท่าเบสิกของการฝึกหัดลีลาศ ถ้าทำท่านี้ได้ก็จะสามารถทำท่าอื่น ๆ ได้ มารตีโวยลั่นจะไม่ยอมฝึกกับรัชชานนท์อีก จะให้พุฒิภัทรเป็นคนสอนเธอเท่านั้น อ่อนหันมองหาพุฒิภัทร รณพีร์รีบเสนอตัวสอนให้มารตีแทน เอียดไม่พอใจมากเมื่อรู้ว่าพุฒิภัทรแอบหนีออกไปจากวังแล้ว
     
    แก้วทำตามที่พุฒิภัทรสอน สักพักก็เริ่มคล่องสเต็ปเท้ามากขึ้น แก้วยิ้มดีใจแบบสดใส ที่ตัวเองจำสเต็ปได้ ไม่ต้องมองพื้น พุฒิภัทรตะลึงกับรอยยิ้มความสดใสของแก้ว เผลอกุมมือแก้วแน่นขึ้น มือที่ประคองเอวก็กระชับแน่นขึ้นอีก จนแก้วรู้สึกได้
    
    “เอ่อ คุณชายคะ คือ...แก้วหายใจไม่ค่อยออกค่ะ”
    
    พุฒิภัทรเพิ่งรู้ตัว รีบผ่อนมือ แต่ยังเต้นอยู่ “ชั้นขอโทษนะแก้ว ๆ ชั้นไม่ได้ทำให้เธอเจ็บใช่มั้ย”
    
    “ไม่ค่ะ คุณชายมัวแต่คิดอะไรอยู่คะ”
    
    “คิด...คิดเรื่อง...”
    
    พุฒิภัทรมองหน้าสดใสของแก้ว อยากจะพูดแต่พูดไม่ออก แล้วทันใด แก้วก็ร้องโอ๊ยลั่นแทรกขึ้นมา เพราะถูกพุฒิภัทรเหยียบเท้า พุฒิภัทรรีบก้มตัวลง ประคองเท้าแก้วอย่างห่วงใยมาก ๆ แก้วมองพุฒิภัทรแบบสงสัย ไม่เข้าใจ
     
    พุฒิภัทร ที่บีบยาจากหลอดยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบลงบนฝ่ามือ แก้วนั่งที่พื้น พยายามบ่ายเบี่ยง “อย่าค่ะ คุณชาย แก้วทำเองได้”
    
    “เอ๊ะ ชั้นเป็นหมอนะ ชั้นทำเธอเจ็บ ชั้นต้องรักษาสิ”
    
    พุฒิภัทรมานั่งเคียง แล้วดึงเท้าแก้วมาจัด การทายา แล้วทาถูนวดอย่างรวดเร็ว
    
    “คุณชาย...พอเถอะค่ะ แก้วไม่ได้เจ็บมาก...มาค่ะ เดี๋ยวแก้วทาต่อเองดีกว่า”
    
    “ไม่...นี่เหรอ ไม่ได้เจ็บมาก ดูสิ แดงเลย”
    
    “คุณชายคะ เท้ามันเป็นของต่ำนะคะ แล้วแก้วเป็น...เป็นเด็ก...บ้านนอก ไม่มีสกุลรุณชาติ”
    
    “แล้วไง ชั้นเป็นคุณชาย...ผู้สูงส่งล่ะสิชั้นล่ะ...เบื่อเต็มทีกับเหตุผลนี้ ถ้าอยากแบ่งชนชั้นนัก ก็ไปเกิดสมัยอยุธยานั่นไป นี่สมัยประชาธิปไตย เท้าที่เจ็บ ต้องได้รับการเยียวยา ไม่ใช่เท้าสามัญชน ถ้าเจ็บขึ้นมา ก็ช่างหัวมัน”
    
    พุฒิภัทรโมโหนวดเท้าแก้วแรงขึ้น แก้วร้องโอย พุฒิภัทรตกใจรีบขอโทษแก้ว
    
    “ขอโทษ ๆ ชั้นทำเธอเจ็บหรือ”
    
    “คุณชายแกล้งแก้ว”
    
    “เปล่านะ ชั้นไม่ตั้งใจ ขอโทษ”
    
    “งั้น...เราหายกัน...นะคะ...ให้แก้วทายาเองนะคะ...ขอร้องล่ะค่ะ แก้วไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอก...นี่ไง...หายแล้ว คุณชายเก๊งเก่ง ยานี่ก็ดี๊ดี ทานิดเดียว...หายเลย...เราไปหัดเต้นต่อกันนะคะ” แก้วรีบลุก วิ่งนำออกไป
    
    พุฒิภัทรมองตาม อดยิ้มไม่ได้ แย้มแอบ
    ดู ชอบใจที่เห็นแก้วรักนวล สงวนตัว มีวิธีที่เอาตัวรอดอย่างฉลาด บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น
     
    ชินกรกลับมาถึงบ้าน เห็นแก้วกับพุฒิภัทรกำลังเต้นรำคู่กันไปรอบ ๆ สนามอย่างสวยงาม ก็ถึงกับอึ้งไป
    
    “สวยงามเหลือเกิน ยังกับภาพในฝัน”
    
    “ชินกรคะ...คุณเห็นเหมือนชั้นใช่ไหม ไม่น่าเชื่อเลย เหมือนกับเจ้าหญิงเจ้าชายในนิทาน”
    
    “นี่ไง...กิ่งทองใบหยก ของจริงเลยค่ะคุณ” แย้มหันไปบอกเกษรากับชินกร
    
    เพลงจบ ทั้งสองยังยืนในอ้อมกอดและมือในมือกัน
    
    “แก้ว...แก้ว...ไม่นึกมาก่อน ว่า...การเต้นรำ...มันจะสนุกดีแบบนี้”
    
    “จริงด้วย...สนุกมาก ๆ...ชั้นไม่เคยเต้น รำกับใครสนุกอย่างนี้มาก่อน”
    
    “มิน่าล่ะคะ คนเขาถึงชอบเต้นกันนัก”
    
    “ถ้าเธอชอบ...ชั้นจะ...จะพาเธอไปเต้นรำ ...ทุกงานที่เธออยากไป”
    
    ทั้งสองยังยืนอย่างเดิม ไม่ยอมปล่อยจากกัน ชินกรแอบสังเกตเห็นอาการของหนุ่มสาวสะกิดเกษรา ชวนให้เดินกลับเข้าไปในบ้าน ไม่อยากไปขัดจังหวะ เกษรายืนลังเล ตอนนี้เธอได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ปกครองของแก้วแล้ว แย้มตัดสินใจกระแอมเสียงดัง แก้วได้สติ รีบดึงตัวออกมา แล้วหัวเราะขึ้น
    
    “พี่แย้ม...นี่มันกี่ทุ่มกี่ยามแล้วคะ”
    
    “สองทุ่มค่ะ ไม่หิวกันเลยหรือคะ ยังไม่ได้รับทานข้าวเย็นกันเลย รับของว่างไปตอน 5 โมง...เวลานี้ก็คงย่อยไปหมดแล้ว”
    
    “นั่นสิ พอคุณแย้มทัก ผมก็หิวขึ้นมาติดหมัดเลย”
    
    ชินกรเดินตบมือเข้ามา “สวยมาก เต้นกันสวยจริง ๆ ถ้ามีประกวด นักลีลาศคู่นี้น่าจะไปสมัครเข้าแข่งชิงถ้วยนะ”
    
    “คุณชายเก่งเหลือเกิน ทำให้ลูกเป็ดน้อย ๆ น่ารักของเรา กลายเป็นนางหงส์ไปแล้วจริง ๆ งานเต้นรำคราวนี้ กรองแก้ว บุญมี คงทำให้วงสังคมตกตะลึงเป็นแน่”
    
    พุฒิภัทร แก้ว สบตากัน แก้วยิ้มกว้าง ดีใจแบบซื่อใส พุฒิภัทรทำหน้าชื่นชม ดวงตามีความหมาย แก้วหลบตา เกิดความเขินแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
     
    มารตีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้วิไลรัมภาฟัง วิไลรัมภาพยายามคิดหาทางช่วย แต่มารตีไม่เชื่อคำพูดของวิไลรัมภา
    
    “ถ้าพี่มารตีกับคุณพ่อไม่เข้าใจข้อนี้...ก็อย่าหวังเลย ว่าจะประสบความสำเร็จ”
    
    “ชั้นต้องได้พี่ชายภัทรสิ เราคู่กัน มันคือคำมั่นสัญญาที่มิอาจละเมิดได้นะ”
    
    “ไม่มีใครอยากถูกจับ ไม่มีใครอยากมีเจ้าของ ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากเป็นคนโดนล่า แต่เขาต้องเป็นผู้ล่า ยิ่งเขารู้สึกว่า เรื่องนี้เป็นภาระหน้าที่รับผิดชอบ เป็นสัญญาที่ละเมิดมิได้...อย่างที่พี่ว่า เขาก็จะยิ่งเกลียด ยิ่งต่อต้าน”
    
    “พอเถอะ แกเองก็ไม่ได้วิเศษอะไรมาจากไหน อย่ามาทำมารู้ดี”
    
    “พี่มารตีคะ ถ้าอยากชนะ พี่ต้องใช้สมอง”
    
    “บ้า...แล้วอีนังกรองแก้วมันใช้อะไร...ใช้ขาอ่อน ทรวดทรงองเอว กับรอยยิ้มดัดจริตทั้งนั้น และทุกอย่างที่ว่ามา...ชั้นก็มีเหมือนกัน”
    
    “ถ้าพี่มารตีเป็นแบบนี้ ถึงไม่มียายกรองแก้วโผล่มาข้องเกี่ยว พี่ชายภัทรก็ไม่เอาพี่อยู่ดี”
    
    มารตีผงะ แล้วตบเพี้ยะ “แก...แกขัดขวางชั้น ดูถูกชั้น ที่จริงก็บอกมาเถอะ ว่าแกอิจฉาชั้น...คอยดูนะ...แล้วชั้นจะทำให้แกเห็น ว่าพี่ชายภัทรจะเป็นของใครไม่ได้ นอกจากชั้นเท่านั้น”
    
    มารตีเดินเชิดจากไป วิไลรัมภามองตาม เจ็บใจ กุมแก้ม น้ำตาไหล
     
    เช้าวันใหม่ วังจุฑาเทพ พุฒิภัทรในชุดทำงาน เดินลงบันไดมาอย่างร่าเริง ผิวปากเป็นเพลงเต้นรำ แต่แล้วก็ต้องชะงักกึก เมื่อเห็นเอียดกับอ่อนนั่งขรึมรออยู่
    
    “หม่อมย่าครับ ย่าอ่อน”
    
    เอียดสั่งอย่างเด็ดขาด “ตั้งแต่นี้ไป เลิกงานแล้ว ห้าโมงเย็น หลานจะต้องกลับมาถึงวัง เพื่อสอนมารตีเต้นรำ พามารตีกลับมาในรถของหลานเองทุกวัน ห้ามขาดสักวันเดียว”
    
    “อ้าว...แล้วถ้าผมมีผ่าตัด หรือมีคนไข้ฉุกเฉิน”
    
    “หากวันไหนจำเป็น มีธุระสำคัญ จำเป็นต้องขาดการซ้อม ให้หลานโทรฯ มาขออนุญาต”
    
    “ใช่ ขออนุญาต และแจกแจงเหตุผลที่แท้จริง เพื่อให้ย่าพิจารณาเป็นวัน ๆ ไป เข้าใจไหม”
    
    “คุณย่าคิดว่า วิธีนี้จะทำให้ผมรักมารตีได้หรือครับ”
    
    “แล้วมารตีมีอะไรไม่ดีที่ไม่สมควรรัก แกนี่มันเล่นบทเด็กดื้อตอนโตนะ ชายภัทร เป็นเด็กดื้อแบบที่ถ้าย่าบอกว่าอย่า...อย่าทำ แกจะทำ แล้วถ้าบอกว่า ให้ทำ ต้องทำ แกจะไม่”
    
    “หลานควรนึกถึงความดีของคุณชายเทวพันธุ์ นึกถึงบุญคุณ แล้วก็รู้จักความกตัญญู ลูกผู้ชายที่แท้น่ะ เขาต้องรักษาคำพูดของพ่อแม่”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)