ผู้เขียน หัวข้อ: มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 5 พฤษภาคม 2556  (อ่าน 481 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
มัจจุราชสีน้ำผึ้ง วันที่ 5 พฤษภาคม 2556
« เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2013, 04:13:27 am »

 โลมฤทัยเดินเข้ามา มองหน้ารจนาไฉนอย่างไม่พอใจ
    
    “ต้องได้! ไหนเคยบอกพบว่าไม่ได้คิดอะไรกับคุณปวุฒิไง แล้วจู่ ๆ จะไปแต่งงานกันได้ยังไง”
    
    รจนาไฉนอึกอัก
    
    “ที่ผ่านมาพี่เพื่อนโกหกพบมาตลอดใช่มั้ย ...พบถามว่าใช่มั้ย”
     
    รจนาไฉนเปลี่ยนเรื่องพูด หันไปทางลำเพา  “คุณแม่ตั้งใจจะให้น้องพบแต่งงานกับคุณปัทม์ไม่ใช่เหรอคะ”
    
    “ฉันไม่มีวันแต่งงานกับผู้ชายต่ำ ๆ พรรค์นั้นหรอก” โลมฤทัยเน้นย้ำ
    
    “แล้วทำไมพี่ถึงต้องแต่ง”
    
    “อ้อ.. เดี๋ยวนี้ กล้าย้อนฉันเหรอพี่เพื่อน”
    
    “เรื่องอื่นพี่ยอมเธอได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องแต่งงาน...”
    
    “เรื่องนี้แหละ ที่เธอต้องยอม” โลมฤทัยสวนทันที
    
    “ทำไม” รจนาไฉนชะงัก
     
    “เพราะเธอคือรจนาไฉนยังไงล่ะ ถึงเวลาแล้ว...ที่นังเด็กกำพร้าไม่มีหัวนอนปลายตีน ต้องตอบแทนบุญคุณตระกูลวิชนีที่เลี้ยงมา” โลมฤทัยพูดย้ำชัดเจน
    
    “ยายพบ! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ” นพรัตน์ตวาดห้ามเสียงดังลั่น 
    
    โลมฤทัยชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นนพรัตน์โกรธ แต่ลำเพากลับเข้าข้างลูกสาว
    
    “ไม่จำเป็นต้องหยุด! เพราะลูกพบพูดความจริง”
    
    “อะไรนะคะ” รจนาไฉนตกใจ
    
    “ลำเพา… เราเคยตกลงกันแล้วนะว่า จะไม่พูดเรื่องนี้”
    
    “มันถึงเวลาแล้วค่ะ ถึงเวลาที่เพื่อนต้องตอบแทนบุญคุณที่เราเลี้ยงมันมา ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่ลูกแท้ ๆ”
     
    รจนาไฉนอึ้ง ๆ ปนตกใจ ก่อนจะหันมาถามนพรัตน์       “จริงเหรอคะคุณพ่อ... เพื่อนไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณพ่อคุณแม่เหรอคะ”
     
    นพรัตน์พูดไม่ออกเบือนหน้าหนี สงสารรจนาไฉนจับใจ รจนาไฉนยิ่งสะเทือนใจ
     
    “พอเถอะลำเพา อย่าพูดอีกเลย”
     
    “ฉันจะพูด! เพื่อน...แกควรจะสำนึกเอาไว้นะ ถ้าไม่ได้พวกฉันชีวิตแกจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้ ถ้าแกไม่ยอมแต่งงานแทนลูกพบ แกมันก็คนอกตัญญู เลี้ยงเสียข้าวสุก”
     
    รจนาไฉนเสียใจมากทนฟังไม่ได้อีกต่อไป วิ่งร้องไห้ออกไปทันที นพรัตน์หันมามองลำเพาด้วยสายตาตำหนิ แต่เธอไม่สนใจเดินสะบัดออกไป ในขณะที่โลมฤทัยนึกสะใจกับชะตากรรมของรจนาไฉน
     
    รจนาไฉนทุ่มตัวลงบนเตียง ร้องไห้อย่างหนักด้วยความเสียใจและน้อยใจที่ได้รับรู้ความจริง นพรัตน์เดินเข้ามาหยุดมองอย่างเข้าใจจิตใจลูกสาว รจนาไฉนผวาเข้ากอดผู้เป็นพ่อน้ำตานองหน้า
     
    “คุณพ่อ...เพื่อนเข้าใจแล้วว่าทำไมตั้งแต่เล็กจนโต คุณแม่ถึงไม่เคยรักไม่เคยชื่นชมยินดีกับเพื่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
    
    “อย่าคิดมากสิเพื่อน ทำไมแม่เขาจะไม่รักหนู..คนเรามีวิธีการแสดงออกกับคนรักไม่เหมือนกันนะเพื่อน ถ้าแม่ไม่รัก... เขาจะเลี้ยงเรามาจนโตถึงป่านนี้เหรอ” นพรัตน์พูดปลอบ
     
    รจนาไฉนร้องไห้สะอึกสะอื้น ปลอบยังไงก็ไม่รู้สึกดีขึ้น นพรัตน์นิ่วหน้า เหมือนกำลังมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย เริ่มหวิว ๆ
    
    “หนูยังมีพ่ออยู่ทั้งคนนะลูก พ่อรักและหวังดีต่อหนู...ไม่ต่างอะไรจากพ่อแท้ ๆ เลยนะจ๊ะ” 
    
    “ค่ะ... เพื่อนยังมีพ่อ”
    
    นพรัตน์รู้สึกวิงเวียนทรุดลง รจนาไฉนเหลือบไปเห็นตกใจ
     
    “คุณพ่อ!!”
     
    นพรัตน์หมดสติอยู่แทบพื้น รจนาไฉนตกใจตรงเข้าประคอง ร้องเรียกแต่นพรัตน์ไม่ได้สติ
     
    ที่โรงพยาบาล นพรัตน์นอนฟอกไตอยู่ในห้องด้วยอาการไม่สู้ดีนัก หมอกับพยาบาลกำลังดูแลอย่างใกล้ชิด รจนาไฉนยืนมองอยู่ห่าง ๆ ด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก ลำเพากับโลมฤทัยเดินเข้ามาสีหน้าบ่งบอกถึงความไม่สบายใจ    
    “คุณนพไตวาย... ต่อไปนี้ต้องมาฟอกไตที่โรงพยาบาลทุกเดือน”
     
    “คุณพ่อ...” รจนาไฉนสงสารนพรัตน์
     
    “ยังคิดว่าคนที่นอนพะงาบ ๆ จะเป็นจะตายอยู่ในนั้นเป็นพ่อแกอยู่อีกเหรอ” ลำเพาไม่พอใจ
    
    “เพื่อนยังรักและเคารพคุณพ่อคุณแม่เสมอนะคะ”
    
    “พี่เพื่อนไม่ต้องมาพูด ไม่ต้องมาสนใจพวกเราหรอก อยากจะไปไหนก็ไป” โลมฤทัยตวาดใส่
     
    ลำเพาแสร้งบีบน้ำตา พลางพูดอย่างน้อยใจ   “ฉันมันมีเวรมีกรรม ทำบุญกับคนไม่ขึ้น ดูซิ...คุณนพยังจะมาป่วยอีก โรคไตใช้เงินไม่ใช่น้อย ๆ แล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนมารักษา หรือจะต้องตายแบบอนาถา ฮือ ๆ ๆ ๆ”
     
    รจนาไฉนจะเข้าไปปลอบใจลำเพา แต่โลมฤทัยเข้ามากันเอาไว้ แล้วผลักรจนาไฉนออกไป
    
    “ไม่ต้องมายุ่ง ทำใจดี ๆ ไว้ค่ะเราต้องมีทางออกสิคะ”
     
    “ทางไหนล่ะ... หนี้ล้นพ้นตัวแบบนี้ จะให้แม่หันหน้าไปพึ่งใครได้ ไอ้คนที่หวังว่าจะได้พึ่ง มันก็ใจดำ! ฮือ ๆ”
     
    รจนาไฉนยืนฟังอย่างสะเทือนใจ...รจนาไฉนเข้ามายืนมองนพรัตน์นอนหน้าตาซูบซีดอยู่บนเตียงอย่างสงสาร หญิงสาวน้ำตาคลอเบ้าลงนั่งจับมือนพรัตน์มาแนบแก้ม
     
    “คุณพ่อขา.. เจ็บมากมั้ยคะ”
     
    นพรัตน์เอื้อมมือออกไปลูบผมของรจนาไฉนอย่างแผ่วเบา
     
    “พ่อขอโทษนะลูก พ่อทำตามสัญญาที่เคยให้กับลูกไว้ไม่ได้....พ่อดูแลปกป้องลูกไม่ได้ตามสัญญา พ่อมันอ่อนแอจริง ๆ”
     
    “คุณพ่อดูแลและปกป้องหนูมาตลอด คุณพ่อไม่ได้ผิดสัญญาอะไรเลยค่ะ”
     
    “แต่พ่อทำให้ลูกเสียใจ...” นพรัตน์สะเทือนใจและสงสารรจนาไฉนมากประตูห้องเปิดออก ลำเพากับโลมฤทัยเดินเข้ามาเบา ๆ แต่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันอยู่
     
    “ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง จำไว้นะลูก...พ่อยังรักหนูเหมือนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อเอง”
     
    “คุณพ่อเมตตาเพื่อนมาตลอด...เพื่อนสัญญาว่าต่อไปนี้เพื่อนจะดูแลคุณพ่อให้ดีที่สุด...เพื่อนยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้คุณพ่อมีความสุขค่ะ”
     
    รจนาไฉนเด็ดเดี่ยวจนนพรัตน์ละอายแก่ใจ ขณะที่ลำเพากับโลมฤทัยที่เข้ามาได้ยินพอดี ทั้งสองยิ้มกันด้วยความลิงโลด นึกรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการน่าจะเป็นความจริงแล้ว
    
    ด้านปวุฒิกำลังเปิดแคตตาล็อกเวตดิ้งสตูดิโอเตรียมจะจัดงานแต่งงานกับรจนาไฉน สีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีมีความสุข
    
    แม่ปวุฒิที่กำลังทำความสะอาดบ้านให้มองลูกแล้วยิ้ม ๆ
    
    “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างนี้.. แม่ว่าลูกแต่งงานกับหนูเพื่อนพรุ่งนี้เลยดีไหม”    “เป็นอย่างนั้นก็ดีสิครับ....ผมรักเธอมาก อยากให้เธอมาอยู่กับผม”
    
    “ไม่ได้นะ..ที่แม่สนับสนุนให้ลูกแต่งงานกับหนูเพื่อนก็เพราะแม่อยากให้หนูเพื่อนไปอยู่บ้านแม่ต่างหาก”
    
    ปวุฒิเข้ามากอดอ้อนแม่    “ถ้าผมแต่งงานแล้ว คุณแม่ก็ย้ายมาอยู่กับผมที่นี่สิครับ ผมจะได้ดูแลแม่ได้เต็มที่ แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้วที่แม่ต้องมาช่วยผมดูแลที่นี่ทุกอาทิตย์”
    
    “อีกหน่อยลูกมีภรรยาแสนดีอย่างหนูเพื่อนดูแล แม่ก็ไม่ต้องมาหรอก แม่เชื่อว่าคนเก่งคนดีอย่างหนูเพื่อนจะดูแลลูกแม่ได้ดี”
    
    “ครับคุณแม่”
    
    “หมดเวลาอ้อนแล้ว เดี๋ยวแม่ขึ้นไปเก็บผ้าที่ด้านบนก่อน ฝนทำท่าจะตกแล้วสิ”
     
    แม่ปวุฒิเดินไปที่ห้องนอน...ปวุฒิคิดถึงรจนาไฉนกดเบอร์โทรศัพท์โทรฯหาสาวคนรักหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย ปวุฒิร้อนใจจึงตัดสินใจโทรฯเข้าเบอร์บ้าน โลมฤทัยเป็นคนรับสาย
     
    “คุณปวุฒิ... ตั้งแต่กลับมาจากเชียงรายไม่ได้เจอกันเลยนะคะ เป็นยังไงบ้าง หายดีแล้วใช่มั้ยคะ”
    
    “คุณพบ... คุณเพื่อนเป็นอะไรรึเปล่า ผมพยายามโทรฯไปตั้งหลายครั้ง แต่ทำไมคุณเพื่อนไม่รับสายก็ไม่รู้ครับ”   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)