ผู้เขียน หัวข้อ: แผนร้ายพ่ายรัก วันที่ 30 เมษายน 2556  (อ่าน 380 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แผนร้ายพ่ายรัก วันที่ 30 เมษายน 2556
« เมื่อ: เมษายน 30, 2013, 05:50:54 am »

 “จากพัทลุงไปเขาใหญ่เนี่ยเหรอคะ” พิศาถามพ่อ
     
    “แค่นี้สิว ๆ พ่อเคยตามไปง้อคุณแสงสุดามาแล้ว จากหาดใหญ่ไปเชียงราย ตีรถรวดเดียว”
     
    “มีคนขับให้หรอกย่ะ คุณนั่งอย่างเดียว มัวแต่โม้ ไปเร็วเข้า”
     
    ทุกคนรีบวิ่งออกไป
    
    เขมมิกยืนถือสายอึ้งอยู่ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขำ ๆ กับความเข้าใจผิดของพิแสง แล้ว เธอก็นึกสนุกคิดแผนร้ายบางอย่าง ไม่ยอมโทรฯไปบอกความจริงกับพิแสงรู้ว่าที่ชวนเนตรนิภามางานแต่ง  งานนั้น ไม่ใช่งานแต่งของเธอ แต่เป็นของลุทซ์กับดาด้าแฟนสาว
     
    งานแต่งงานจัดขึ้นแบบกลางแจ้ง บาท หลวงกำลังจะทำพิธี จู่ ๆ ก็ถูกพิแสง หลอด เสริมเข้ามาขวางกลางงาน
     
    “ยังทำพิธีไม่ได้”
     
    แขกที่มาร่วมงานพากันตกใจ หันไปมองเห็นพิแสงเดินเข้ามาและตรงไปหาลุทซ์
     
    “นายเองเหรอ ที่เป็นเจ้าบ่าว” พิแสงถาม
     
    “ครับ ผมเอง”
     
    พูดจบพิแสงต่อยหน้าลุทซ์ทันที ทุกคนตกใจ ฮือฮา
     
    “ฉันจะไม่ยอมให้คนที่ฉันรัก แต่งงานกับนาย”
     
    ลุทซ์ที่ยืนทำหน้างง ๆ เริ่มเก็ตว่าพิแสงเข้าใจผิด ลุทซ์ด่าไปคำหนึ่งแล้วลุกขึ้นต่อยสวนกลับไปจนเกิดเหตุชุลมุน ขนิษฐาเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งเข้าไปตามเขมมิกที่กำลังช่วยดาด้าแต่งตัวอยู่ด้านในให้ออกมาห้าม
     
    “หยุดนะ..คุณทำบ้าอะไรของคุณ คุณพิแสง”
    
    พิแสงที่คร่อมลุทซ์อยู่ชะงัก หันไปมองเขมมิก
    
    “เขมมิก”
    
    คณะของพิสุทธิ์ แสงสุดา กนธี เนตรนิภา หมอปริญญ์ ชมพู่ ธรรมศักดิ์ ตามมาสมทบ ต่างตกใจ พิแสงเห็นเขมมิกแต่งตัวธรรมดา ๆ เขาถึงกับอึ้ง ก่อนรีบเข้าไปกอดเขมมิกเอาไว้ทันที
     
    “เขมมิก ฉันคิดถึงเธอ ฉันรักเธอ เธอต้องเป็นเจ้าสาวของฉันคนเดียวเท่านั้น”
     
    “แล้วเจ้าสาวที่ไหนแต่งตัวอย่างที่ฉันแต่ง มีตาหรือเปล่า”
     
    พิแสงหน้าแตก เขมมิกจับตัวดาด้าเข้ามาแนะนำ
     
    “นี่ต่างหาก เจ้าสาวของลุทซ์”
     
    “ไม่ใช่เธอ...แล้วทำไมไม่บอก”
     
    “ถามป่ะล่ะ!”
     
    พิแสงหน้าแตก หันไปมองรอบ ๆ ตัวเห็นสายตาประณามของชาวบ้าน พิแสงรีบขอโทษ ขอโพยเจ้าบ่าวเจ้าสาวและแขกคนอื่น ๆ ก่อนจะวิ่งตามเขมมิกออกไป แต่เท้าเกิดสะดุดล้ม เซไปทางเค้กแต่งงาน เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ต่างไปจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเขมมิก เขมมิกตกใจรีบฉวยมืออีกข้างหนึ่งของพิแสงไว้ทัน
     
    “ขอบใจนะ”
     
    “ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำลายเค้กแต่งงานของพี่ชายฉัน”
     
    “งั้นคุณก็อย่าปล่อยมือผมนะ จับไว้ตลอดชีวิตเลยได้มั้ย”
     
    “ชิ ขอกันง่าย ๆ แบบนี้ คิดว่าจะให้กันง่าย ๆ หรือไง ไม่มีทาง”
     
    เขมมิกเขินอาย เลยลืมตัวปล่อยมือพิแสง เขาเสียหลัก หงายหลัง....ทุกคนกรี๊ด ไม่อยากดูความพังพินาศ แต่โชคดีเพราะก่อนที่พิแสงจะ     ล้มทับโต๊ะเค้ก พิทยา หลอด เสริม กนธี และหมอปริญญ์แบกโต๊ะเค้กหลบได้ทันอย่างหวุดหวิดพิแสงล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น
     
    ทุกคนเห็นเค้กรอดพ้นอันตราย โล่งใจ ตบมือเกรียว...กนธี หมอปริญญ์ พิทยา หลอด เสริม โค้งรับเสียงปรบมือ เนตรนิภาวิ่งเข้าไปหอมแก้มกนธีให้รางวัล...กนธีถึงกับเหวอ พิศินีวิ่งแยกไปหอมแก้มพิทยา พิทยาหอมแก้มตอบ หมอปริญญ์ยิ้มแห้งเพราะไม่มีคนให้ซึ้งด้วย หันไปจับมือกับธรรมศักดิ์
     
    เขมมิกฉุดมือพิแสงขึ้นมา พิแสงจับมือเขมมิกแน่น ไม่ยอมปล่อยมือ เขมมิกดึงออกก็ไม่ปล่อย
     
    “ฉันจะไม่ปล่อยมือเธออีก...”
     
    “แน่ใจนะ”
     
    “ที่สุด”
     
    เขมมิกยิ้ม ๆ กับพิแสง ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
    
    แล้วทั้งหมดก็อยู่เป็นเกียรติร่วมงานแต่ง งานของลุทซ์กับดาด้าจนเสร็จพิธี กนธีเหล่มองเนตรนิภาที่ตบมือมองเจ้าบ่าวเจ้าสาวอย่างชื่นชม เนตรนิภาเหล่ตอบกนธี กนธียกนิ้วก้อยให้เนตรนิภาค่อย ๆ คลายฟอร์ม ยกนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับกนธี สองหนุ่มสาวทำซึ้งใส่กันแล้วยิ้มเขินอาย
    
    พอถึงเวลาที่เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ ทุกคนพากันลุ้น ๆ แต่คนที่รับได้คือชมพู่ ที่พวกหนุ่ม ๆ พากันหลบหน้าไม่ยอมให้เธอเสี่ยงทาย พิแสงจับมือเขมมิกไว้ตลอดเวลา
    
    “รู้ได้ไง ว่าฉันอยู่ที่นี่”
     
    “ก็โทรฯกลับมาที่เบอร์ที่คุณใช้โทรฯเข้ามือถือคุณเนตร”
     
    “แล้วคิดไงถึงตามฉันมา”
     
    “คิดอยู่อย่างเดียว จะต่อยหน้าผู้ชายที่แย่งแฟนฉันให้ฟันร่วงสักสองซี่”
     
    “ใครแฟนคุณ”
     
    “ไม่ใช่สิ...ว่าที่ภรรยาต่างหาก”
     
    “ไม่โกรธฉันแล้วเหรอ ให้อภัยที่ฉันทำกับคุณได้แล้วเหรอ”
     
    “ฉันขอโทษ ที่ฉันทิฐิ จนเกือบจะเสียเธอไปจริง ๆ ตอนที่ฉันได้ข่าวเธอเครื่องบินตกและเสียชีวิต ฉันภาวนาทุกคืนขอให้เป็นเพียงแค่ความฝัน เพื่อที่จะตื่นมาแล้วไปหาเธอ บอกว่าฉันรักเธอ จะไม่โกรธ จะให้อภัย....พระท่านคงเห็นใจ....วันนี้ฉันถึงได้พบเธออีกครั้ง”
     
    “ฉันยอมรับว่าฉันเคยทำผิด และได้รับผลของการกระทำนั้น ฉันต้องร้องไห้ เสียใจ เกือบเอาตัวไม่รอด”
     
    “เธอและฉันต่างเคยทำผิดพลาด เราสองคนต่างต้องการโอกาสที่จะแก้ตัวทำสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อคนที่เรารัก และเมื่อได้โอกาสนั้นแล้วเราจะทำให้ดีที่สุด”
     
    “ฉันสัญญาค่ะ ฉันจะทำให้ดีที่สุด” เขมมิกยืนยัน
     
    พิแสงจับมือเขมมิกมาจูบ
    
    “ฉันก็สัญญา”
     
    “เยสค่ะ”
     
    “ยังไม่ได้ขอ”
     
    “คุณขออะไร ฉันก็เยสทั้งนั้นแหละ”
     
    “ขอเธอไปเป็นนายแม่ที่ฟาร์มเพื่อนเกษตรได้มั้ย หมูทุกตัวที่นั่นรอเธออยู่”
    
    “นี่เป็นการขอแต่งงานที่เถื่อนที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา..แทนที่จะขอไปเป็นภรรยาสวย ๆ ดั๊น!! ขอให้ไปเลี้ยงหมู”
     
    “เขมมิก...จะเยสหรือไม่เยส”
     
    “ไม่เยสได้หรือไง ก็ต้องเยสสิ เยส ๆ ๆ”
    
    พิแสงหมั่นไส้เขมมิก อุ้มเธอขึ้นมา
     
    “ว้าย ทำอะไร”
     
    “โชว์พลัง...ว่าฉันแข็งแรง ปั๊มลูกแข่งกับไอ้ทีเด็ดสบาย”
     
    “วางลงเลย! วางลงเลย”
     
    “ไม่วาง!”
    
    พิสุทธิ์ แสงสุดายืนยิ้มดีใจที่เห็นพิแสงกับเขมมิกหยอกล้อกันอย่างมีความสุข ขณะที่พิศาหน้าง้ำเข้ามา พิทยาจูงมือพิศินีตามมาด้วย
     
    “พี่พีทโกหก ก็ช่วยให้คนดีกันแล้ว แต่ทำไมน้องเล็กถึงไม่ได้ช่อดอกไม้”
     
    “ไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าจะไม่เจอความรัก นี่อาจจะเป็นปริศนาธรรม บอกว่า ถ้าอยากเจอความรักที่ดี เราต้องอดทน อย่าใจร้อน” พิศินีให้กำลังใจน้องสาว
     
    “เมื่อเจอแล้ว เราอาจจะต้องฝ่าฟันกับบททดสอบอีกไม่รู้เท่าไหร่ ที่เราจะต้องเอาชนะให้ได้ เพื่อพิสูจน์ว่า...เราคู่ควรกับมัน” พิทยาช่วยพูด
    
    “อย่างตาใหญ่กับเขมมิก...ถ้าตาใหญ่ไม่ลดทิฐิลง ก็จะไม่มีวันเข้าใจว่าคนเราทำผิดพลาดกันได้ และยอมให้อภัยเขมมิกในที่สุด”
     
    “ความสุขก็กลับคืนมาสู่ครอบครัวเราอีกครั้ง หลังจากที่ปล่อยให้เมฆหมอกแห่งอคติและทิฐิเข้ามาบดบังสายตา เราจะเรียนรู้จากความผิดพลาดและจะต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่จะทำให้ความรักของเราแข็งแรงก็คือ ความเข้าใจและการให้อภัย”
     
    พิสุทธิ์จับมือแสงสุดาและพิศาเอาไว้ ทั้งหมดมองไปที่พิแสงและเขมมิกด้วยความสุขใจ...พิแสงยอมวางเขมมิก
     
    “ไม่ไหวแล้วล่ะ นี่มันหมูตัวแม่ชัด ๆ!”
     
    “เอ๊า ไม่รู้เหรอ ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ฉันต้องเป็นตัวแม่! ก็ถูกแล้วไง จะไปเป็นแม่ของหมูคุณนี่”
     
    “ยอม!”
    
    พิแสงยิ้มอย่างเอ็นดูเขมมิก จับมือเขมมิกจูงเดินออกไป
    
    “ตอนนั้น ที่เธอบอกว่าฉันเป็นรักแท้ของเธอ...จริงหรือเปล่า”
     
    “จริงเสมอ...จากใจ...สุด ๆ อ่ะ”
     
    “งั้นพูดให้ฟังอีกครั้งได้มั้ย...”
     
    “พูดอะไรล่ะ”
     
    “ฉันเป็นรักแท้ของเธอหรือเปล่า”
     
    “คุณคือรักแท้ของฉัน ที่ฉันเคยคิดว่าจะมีอยู่แค่ในนิยาย” พิแสงและเขมมิกหยุดเดิน หันมามองจ้องกัน
     
    “แต่คุณมีอยู่จริง...คุณคือคนที่ฉันคิดถึงทุกลมหายใจ คือคนที่ฉันเสียสละให้ได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิต แม้จะแลกมาซึ่งความเจ็บปวด คือคนที่ฉันอยากจะใช้ชีวิตและแก่เฒ่าไปด้วยกัน และจะยังกุมมือคุณไว้จนลมหายใจสุดท้าย”
     
    “เขมมิก....ฉันรักเธอ”
     
    “คุณพิแสง...ฉันรักคุณ”
     
    พิแสงและเขมมิกสวมกอดกันอย่างมีความสุข ที่ได้เจอรักแท้...ที่เฝ้ารอมานาน
     
    “ผู้หญิงค่อนโลกจะต้องอิจฉาเธอที่ได้เป็นนายแม่ฟาร์มหมูของฉัน หึหึหึ”
     
    “หรรรรรรรรา!!!!”
    
    เขมมิกทำหน้าล้อ ๆ แล้วสวมกอดกันอย่างมีความสุข ที่ได้เจอรักแท้..ที่เฝ้ารอมานาน จบบริบูรณ์   

                             


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)