“จากพัทลุงไปเขาใหญ่เนี่ยเหรอคะ” พิศาถามพ่อ
“แค่นี้สิว ๆ พ่อเคยตามไปง้อคุณแสงสุดามาแล้ว จากหาดใหญ่ไปเชียงราย ตีรถรวดเดียว”
“มีคนขับให้หรอกย่ะ คุณนั่งอย่างเดียว มัวแต่โม้ ไปเร็วเข้า”
ทุกคนรีบวิ่งออกไป
เขมมิกยืนถือสายอึ้งอยู่ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขำ ๆ กับความเข้าใจผิดของพิแสง แล้ว เธอก็นึกสนุกคิดแผนร้ายบางอย่าง ไม่ยอมโทรฯไปบอกความจริงกับพิแสงรู้ว่าที่ชวนเนตรนิภามางานแต่ง งานนั้น ไม่ใช่งานแต่งของเธอ แต่เป็นของลุทซ์กับดาด้าแฟนสาว
งานแต่งงานจัดขึ้นแบบกลางแจ้ง บาท หลวงกำลังจะทำพิธี จู่ ๆ ก็ถูกพิแสง หลอด เสริมเข้ามาขวางกลางงาน
“ยังทำพิธีไม่ได้”
แขกที่มาร่วมงานพากันตกใจ หันไปมองเห็นพิแสงเดินเข้ามาและตรงไปหาลุทซ์
“นายเองเหรอ ที่เป็นเจ้าบ่าว” พิแสงถาม
“ครับ ผมเอง”
พูดจบพิแสงต่อยหน้าลุทซ์ทันที ทุกคนตกใจ ฮือฮา
“ฉันจะไม่ยอมให้คนที่ฉันรัก แต่งงานกับนาย”
ลุทซ์ที่ยืนทำหน้างง ๆ เริ่มเก็ตว่าพิแสงเข้าใจผิด ลุทซ์ด่าไปคำหนึ่งแล้วลุกขึ้นต่อยสวนกลับไปจนเกิดเหตุชุลมุน ขนิษฐาเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งเข้าไปตามเขมมิกที่กำลังช่วยดาด้าแต่งตัวอยู่ด้านในให้ออกมาห้าม
“หยุดนะ..คุณทำบ้าอะไรของคุณ คุณพิแสง”
พิแสงที่คร่อมลุทซ์อยู่ชะงัก หันไปมองเขมมิก
“เขมมิก”
คณะของพิสุทธิ์ แสงสุดา กนธี เนตรนิภา หมอปริญญ์ ชมพู่ ธรรมศักดิ์ ตามมาสมทบ ต่างตกใจ พิแสงเห็นเขมมิกแต่งตัวธรรมดา ๆ เขาถึงกับอึ้ง ก่อนรีบเข้าไปกอดเขมมิกเอาไว้ทันที
“เขมมิก ฉันคิดถึงเธอ ฉันรักเธอ เธอต้องเป็นเจ้าสาวของฉันคนเดียวเท่านั้น”
“แล้วเจ้าสาวที่ไหนแต่งตัวอย่างที่ฉันแต่ง มีตาหรือเปล่า”
พิแสงหน้าแตก เขมมิกจับตัวดาด้าเข้ามาแนะนำ
“นี่ต่างหาก เจ้าสาวของลุทซ์”
“ไม่ใช่เธอ...แล้วทำไมไม่บอก”
“ถามป่ะล่ะ!”
พิแสงหน้าแตก หันไปมองรอบ ๆ ตัวเห็นสายตาประณามของชาวบ้าน พิแสงรีบขอโทษ ขอโพยเจ้าบ่าวเจ้าสาวและแขกคนอื่น ๆ ก่อนจะวิ่งตามเขมมิกออกไป แต่เท้าเกิดสะดุดล้ม เซไปทางเค้กแต่งงาน เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ต่างไปจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเขมมิก เขมมิกตกใจรีบฉวยมืออีกข้างหนึ่งของพิแสงไว้ทัน
“ขอบใจนะ”
“ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำลายเค้กแต่งงานของพี่ชายฉัน”
“งั้นคุณก็อย่าปล่อยมือผมนะ จับไว้ตลอดชีวิตเลยได้มั้ย”
“ชิ ขอกันง่าย ๆ แบบนี้ คิดว่าจะให้กันง่าย ๆ หรือไง ไม่มีทาง”
เขมมิกเขินอาย เลยลืมตัวปล่อยมือพิแสง เขาเสียหลัก หงายหลัง....ทุกคนกรี๊ด ไม่อยากดูความพังพินาศ แต่โชคดีเพราะก่อนที่พิแสงจะ ล้มทับโต๊ะเค้ก พิทยา หลอด เสริม กนธี และหมอปริญญ์แบกโต๊ะเค้กหลบได้ทันอย่างหวุดหวิดพิแสงล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น
ทุกคนเห็นเค้กรอดพ้นอันตราย โล่งใจ ตบมือเกรียว...กนธี หมอปริญญ์ พิทยา หลอด เสริม โค้งรับเสียงปรบมือ เนตรนิภาวิ่งเข้าไปหอมแก้มกนธีให้รางวัล...กนธีถึงกับเหวอ พิศินีวิ่งแยกไปหอมแก้มพิทยา พิทยาหอมแก้มตอบ หมอปริญญ์ยิ้มแห้งเพราะไม่มีคนให้ซึ้งด้วย หันไปจับมือกับธรรมศักดิ์
เขมมิกฉุดมือพิแสงขึ้นมา พิแสงจับมือเขมมิกแน่น ไม่ยอมปล่อยมือ เขมมิกดึงออกก็ไม่ปล่อย
“ฉันจะไม่ปล่อยมือเธออีก...”
“แน่ใจนะ”
“ที่สุด”
เขมมิกยิ้ม ๆ กับพิแสง ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
แล้วทั้งหมดก็อยู่เป็นเกียรติร่วมงานแต่ง งานของลุทซ์กับดาด้าจนเสร็จพิธี กนธีเหล่มองเนตรนิภาที่ตบมือมองเจ้าบ่าวเจ้าสาวอย่างชื่นชม เนตรนิภาเหล่ตอบกนธี กนธียกนิ้วก้อยให้เนตรนิภาค่อย ๆ คลายฟอร์ม ยกนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับกนธี สองหนุ่มสาวทำซึ้งใส่กันแล้วยิ้มเขินอาย
พอถึงเวลาที่เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ ทุกคนพากันลุ้น ๆ แต่คนที่รับได้คือชมพู่ ที่พวกหนุ่ม ๆ พากันหลบหน้าไม่ยอมให้เธอเสี่ยงทาย พิแสงจับมือเขมมิกไว้ตลอดเวลา
“รู้ได้ไง ว่าฉันอยู่ที่นี่”
“ก็โทรฯกลับมาที่เบอร์ที่คุณใช้โทรฯเข้ามือถือคุณเนตร”
“แล้วคิดไงถึงตามฉันมา”
“คิดอยู่อย่างเดียว จะต่อยหน้าผู้ชายที่แย่งแฟนฉันให้ฟันร่วงสักสองซี่”
“ใครแฟนคุณ”
“ไม่ใช่สิ...ว่าที่ภรรยาต่างหาก”
“ไม่โกรธฉันแล้วเหรอ ให้อภัยที่ฉันทำกับคุณได้แล้วเหรอ”
“ฉันขอโทษ ที่ฉันทิฐิ จนเกือบจะเสียเธอไปจริง ๆ ตอนที่ฉันได้ข่าวเธอเครื่องบินตกและเสียชีวิต ฉันภาวนาทุกคืนขอให้เป็นเพียงแค่ความฝัน เพื่อที่จะตื่นมาแล้วไปหาเธอ บอกว่าฉันรักเธอ จะไม่โกรธ จะให้อภัย....พระท่านคงเห็นใจ....วันนี้ฉันถึงได้พบเธออีกครั้ง”
“ฉันยอมรับว่าฉันเคยทำผิด และได้รับผลของการกระทำนั้น ฉันต้องร้องไห้ เสียใจ เกือบเอาตัวไม่รอด”
“เธอและฉันต่างเคยทำผิดพลาด เราสองคนต่างต้องการโอกาสที่จะแก้ตัวทำสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อคนที่เรารัก และเมื่อได้โอกาสนั้นแล้วเราจะทำให้ดีที่สุด”
“ฉันสัญญาค่ะ ฉันจะทำให้ดีที่สุด” เขมมิกยืนยัน
พิแสงจับมือเขมมิกมาจูบ
“ฉันก็สัญญา”
“เยสค่ะ”
“ยังไม่ได้ขอ”
“คุณขออะไร ฉันก็เยสทั้งนั้นแหละ”
“ขอเธอไปเป็นนายแม่ที่ฟาร์มเพื่อนเกษตรได้มั้ย หมูทุกตัวที่นั่นรอเธออยู่”
“นี่เป็นการขอแต่งงานที่เถื่อนที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา..แทนที่จะขอไปเป็นภรรยาสวย ๆ ดั๊น!! ขอให้ไปเลี้ยงหมู”
“เขมมิก...จะเยสหรือไม่เยส”
“ไม่เยสได้หรือไง ก็ต้องเยสสิ เยส ๆ ๆ”
พิแสงหมั่นไส้เขมมิก อุ้มเธอขึ้นมา
“ว้าย ทำอะไร”
“โชว์พลัง...ว่าฉันแข็งแรง ปั๊มลูกแข่งกับไอ้ทีเด็ดสบาย”
“วางลงเลย! วางลงเลย”
“ไม่วาง!”
พิสุทธิ์ แสงสุดายืนยิ้มดีใจที่เห็นพิแสงกับเขมมิกหยอกล้อกันอย่างมีความสุข ขณะที่พิศาหน้าง้ำเข้ามา พิทยาจูงมือพิศินีตามมาด้วย
“พี่พีทโกหก ก็ช่วยให้คนดีกันแล้ว แต่ทำไมน้องเล็กถึงไม่ได้ช่อดอกไม้”
“ไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าจะไม่เจอความรัก นี่อาจจะเป็นปริศนาธรรม บอกว่า ถ้าอยากเจอความรักที่ดี เราต้องอดทน อย่าใจร้อน” พิศินีให้กำลังใจน้องสาว
“เมื่อเจอแล้ว เราอาจจะต้องฝ่าฟันกับบททดสอบอีกไม่รู้เท่าไหร่ ที่เราจะต้องเอาชนะให้ได้ เพื่อพิสูจน์ว่า...เราคู่ควรกับมัน” พิทยาช่วยพูด
“อย่างตาใหญ่กับเขมมิก...ถ้าตาใหญ่ไม่ลดทิฐิลง ก็จะไม่มีวันเข้าใจว่าคนเราทำผิดพลาดกันได้ และยอมให้อภัยเขมมิกในที่สุด”
“ความสุขก็กลับคืนมาสู่ครอบครัวเราอีกครั้ง หลังจากที่ปล่อยให้เมฆหมอกแห่งอคติและทิฐิเข้ามาบดบังสายตา เราจะเรียนรู้จากความผิดพลาดและจะต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่จะทำให้ความรักของเราแข็งแรงก็คือ ความเข้าใจและการให้อภัย”
พิสุทธิ์จับมือแสงสุดาและพิศาเอาไว้ ทั้งหมดมองไปที่พิแสงและเขมมิกด้วยความสุขใจ...พิแสงยอมวางเขมมิก
“ไม่ไหวแล้วล่ะ นี่มันหมูตัวแม่ชัด ๆ!”
“เอ๊า ไม่รู้เหรอ ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ฉันต้องเป็นตัวแม่! ก็ถูกแล้วไง จะไปเป็นแม่ของหมูคุณนี่”
“ยอม!”
พิแสงยิ้มอย่างเอ็นดูเขมมิก จับมือเขมมิกจูงเดินออกไป
“ตอนนั้น ที่เธอบอกว่าฉันเป็นรักแท้ของเธอ...จริงหรือเปล่า”
“จริงเสมอ...จากใจ...สุด ๆ อ่ะ”
“งั้นพูดให้ฟังอีกครั้งได้มั้ย...”
“พูดอะไรล่ะ”
“ฉันเป็นรักแท้ของเธอหรือเปล่า”
“คุณคือรักแท้ของฉัน ที่ฉันเคยคิดว่าจะมีอยู่แค่ในนิยาย” พิแสงและเขมมิกหยุดเดิน หันมามองจ้องกัน
“แต่คุณมีอยู่จริง...คุณคือคนที่ฉันคิดถึงทุกลมหายใจ คือคนที่ฉันเสียสละให้ได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิต แม้จะแลกมาซึ่งความเจ็บปวด คือคนที่ฉันอยากจะใช้ชีวิตและแก่เฒ่าไปด้วยกัน และจะยังกุมมือคุณไว้จนลมหายใจสุดท้าย”
“เขมมิก....ฉันรักเธอ”
“คุณพิแสง...ฉันรักคุณ”
พิแสงและเขมมิกสวมกอดกันอย่างมีความสุข ที่ได้เจอรักแท้...ที่เฝ้ารอมานาน
“ผู้หญิงค่อนโลกจะต้องอิจฉาเธอที่ได้เป็นนายแม่ฟาร์มหมูของฉัน หึหึหึ”
“หรรรรรรรรา!!!!”
เขมมิกทำหน้าล้อ ๆ แล้วสวมกอดกันอย่างมีความสุข ที่ได้เจอรักแท้..ที่เฝ้ารอมานาน จบบริบูรณ์
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง