ผู้เขียน หัวข้อ: แผนร้ายพ่ายรัก วันที่ 22 เมษายน 2556  (อ่าน 449 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์
แผนร้ายพ่ายรัก วันที่ 22 เมษายน 2556
« เมื่อ: เมษายน 22, 2013, 04:19:47 am »

 “ฉันต้องการเจอลูกสาวฉัน เอาไปขังล้างสมองอยู่ที่ไหน”สร้อยเพชรโวยวาย “คุณแม่ครับ วิกาโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วนะครับ...ขอโทษครับ วิกาโตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเองประมาณหนึ่งแล้ว ไม่มีใครจับไปขังหรือล้างสมองได้หรอกครับ น้องเค้าไม่ยอมหรอก” “แต่เธอรู้เห็นเป็นใจให้ลูกสาวฉันหนีออกจากบ้านมาที่นี่!”
    
    “ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละครับ จู่ ๆ ก็น้องก็มาเอง เหนื่อยอ่ะ...ไปคุยกันเองดีกว่าครับ”
    
    กนธีรำคาญเสียงบ่นจึงพาของสร้อยเพชรไปพบกับสาวิกา หมอปริญญ์ห่วงสาวิกาซุ่มดูเหตุการณ์ลุ้น ๆ เห็นสาวิกายืนกรานไม่ยอมกลับ จนสร้อยเพชรยอมแพ้
    
    พิแสงคิดถึงเขมมิกมาก จึงแอบมาหาที่บ้านแต่ไม่ได้เข้าไป เนตรนิภามาหาเขมมิกเห็นเข้า จึงเรียกให้เพื่อนออกมาดู แต่พิแสงวิ่งหนีไปหลบไม่ให้เห็น เขมมิกวิ่งตามไปแต่ก็หาพิแสงไม่เจอ
    
    “เจอคุณพิแสงมั้ยเขม เขาคงทนคิดถึงแกไม่ไหว แล้วก็มาง้อแกแน่ ๆ เลย”
    
    “ถ้าเขามาง้อจริง ๆ....เขมจะว่าไงลูก”
    
    เขมมิกอดยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้นไม่ได้ แต่ก็หมองลงอีก ไม่กล้าคิด
    
    “เขมคงไม่หวังสูงขนาดนั้นหรอกแม่ เขาอาจจะอยากมาด่าเขมอีกรอบก็ได้”
    
    “แต่ถ้าไม่ล่ะ ถ้าเขาจะมาคืนดีกับแก แกจะว่าไง”
    
    “ไม่รู้สิ....ฉัน...ไม่กล้าคิด...”
    
    “เอาความจริง” เนตรนิภารู้ทัน
    
    “ฉันอยากให้เป็นอย่างนั้นแทบขาดใจ อยากคุยกับเขา อยากปรับความเข้าใจ อยากพูดขอโทษสักพันครั้ง อยากมองหน้าเขา มองมือของเขา รู้มั้ยว่าดาวกับพระจันทร์จะยิ่งสวยถ้าได้นั่งดูโดยที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ อยากให้เขาจับมือฉันไว้แบบนี้ ฉันจะไม่ยอมปล่อยมือเขาเลย...แต่ฉันก็อาจจะได้แค่หวังลม ๆ แล้ง ๆ ก็ได้”
    
    เขมมิกซึม เนตรนิภาและขนิษฐารู้สึกสงสารเขมมิกไม่คิดว่าเธอจะรักเขามากขนาดนี้....กนธีและเนตรนิภาต่างก็คิดถึงกัน แต่ฟอร์มจัดทั้งคู่ เนตรนิภาตัดสินใจโทรฯมาก่อน ทั้งสองนิ่งไม่มีใครยอมพูด ฟังเสียงลมหายใจของกันและกัน
    
    “อย่าเพิ่งวางสายนะ!” กนธีร้อนใจ กลัวเนตรนิภาวางสาย
    
    “พูดออกมาได้แล้วหรือไง”
    
    “แล้วเธอล่ะ ไม่มีอะไรจะพูดหรือไง ถึงเงียบเป็นเป่าสาก”
    
    “แล้วทำไมไม่วางสายไปซะ”
    
    “เพราะฉันอยากรู้ว่าที่เธอโทรฯมา จะพูดอะไรเป็นคำแรก หลังจากที่เธอทำให้ฉันอก...อกสั่นขวัญแขวน”
    
    “ตกใจอะไร”
    
    “ตกใจที่เธอโทรฯมา”
    
    “ประสาท! จะตกใจทำไม”
    
    “แล้วเธอโทรฯมาทำไม...หรือว่าโทรฯมาง้อ”
    
    “ไม่ได้ง้อ แค่อยากโทรฯ แต่ไม่รู้ว่าจะโทรฯมาทำไม”
    
    “งั้นทีหลังก็อย่าโทรฯ”
    
    “เออ ไม่โทรฯก็ได้” แล้วเนตรนิภาก็วางสายทันที
    
    กนธียิ้มออกมาอย่างมีความสุข เช่นเดียวกับเนตรนิภา
     
    เขมมิกเริ่มดำเนินแผนการของธรรมศักดิ์ทันที เธอโทรฯไปหาพิทยา และเขานัดมาพบที่ร้านอาหารหรู...เขมมิกแต่งตัวสวยเดินเข้าไปในร้าน ไม่ทันสังเกตเห็นว่าพิแสงแอบตามมา และเห็นเธอนั่งคุยกับพิทยา พิแสงไม่พอใจที่พิทยาทรยศนอกใจน้องสาว จะลุกเดินมาเอาเรื่อง แล้วต้องชะงัก เมื่อเห็นพิทยาลุกออกไปนอกร้าน
    
    เขมมิกลุกตามพิทยาออกไป พิแสงแปลกใจแอบตามติดไปดูเหตุการณ์ เห็นเขมมิกขอโอกาสจากพิทยาด้วยการกลับมาคบกันใหม่อีกครั้ง
    
    “คุณต้องการอะไรจากผม...ขอโอกาสจากผมเหรอ...โอกาสอะไร...เพื่ออะไร?”
    
    “ตอนนี้ฉันเหนื่อยมากกับเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ยอมกลายเป็นผู้หญิงลวงโลก โกหก ปลิ้นปล้อน...เพื่อเงิน ฉันไม่ใช่หญิงเหล็ก กินอุดมคติ รักศักดิ์ศรี มีศีลธรรมหรอกนะพีท ฉันสร้างภาพให้คนเห็นว่าฉันเป็นอย่างนั้น เพื่อให้ตัวเองดูดี แต่จริง ๆ แล้ว ฉันอ่อนแอ ฉันกลัว ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว แต่อยากมีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ ฉัน แล้วฉันก็คิดได้ว่า...ฉันไม่ควรปล่อยให้คุณหลุดมือไป พีทคะ...ฉันไม่เคยลืมคุณ ฉันยังรักคุณ คุณคือรักครั้งแรกและจะเป็นรักครั้งสุดท้ายของฉัน”
    
    “ผมเสียใจด้วยนะเขม ตอนนี้...ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้ ผมขอโทษ” พิทยาปฏิเสธเขมมิกอย่างไม่มีเยื่อใย
    
    เขมมิกอึ้ง คิดว่าเสน่ห์ของตัวเองทำอะไรพิทยาไม่ได้แล้ว พิแสงมองด้วยความสะใจ ก่อนจะกลับไปเลียบเคียงถามพิศินีถึงความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ พิศินีบอกว่าเธอมีความสุขดีเมื่อได้อยู่กินกับพิทยา ทำให้พิแสงค่อยเบาใจและคลายความกังวลลง... ตรงข้ามกับเขมมิกที่รู้สึกหนักใจ ที่อ่อยเหยื่อพิทยาไม่สำเร็จ ขนิษฐาและเนตรนิภาคอยให้กำลังใจ และในคืนนั้น พิทยาก็แวะไปหาเขมมิกที่บ้าน พลางบอกเหตุผลที่เขาจำต้องปฏิเสธในสิ่งที่เธอเสนอ เพราะเห็นว่าพิแสงแอบตามเธอไป เขมมิกถึงกับอึ้ง
    
    “เค้าคงยังไม่ลืมคุณ”
    
    “จบแล้วล่ะ!”เขมมิกเผลอหลุดปาก
    
    “อะไรจบ..เขม”พิทยาสงสัย
    
    “ฉันหมายความว่า...ถ้าเค้าตามฉันมาขนาดนี้ ได้ยินฉันพูดกับคุณขนาดนั้น....เค้าคงจบกับฉันเรียบร้อย โดยไม่ต้องยืนยันเป็นคำพูด”เขมมิกแก้ตัว      “แล้วคุณล่ะ”
    
    “ฉันอาจจะรู้สึกชอบเค้าอยู่บ้าง...แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่าหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อเงิน”
    
    “แต่สำหรับผม...ผมไม่เคยจบ” พิทยาพูดเสียงหนักแน่น
    
    “พีท...” เขมมิกอึ้ง
    
    “แต่ผมพูดอย่างที่ใจคิดในตอนนั้นไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ผมอยากจะกอดคุณ และบอกคุณว่า...ผมพร้อมที่จะเป็นคน ๆ นั้นของคุณเสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพราะผมรักคุณมาก เกินกว่าจะปล่อยคุณไปได้ มันอาจจะดูเห็นแก่ตัว แต่ผม...ไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้เลย”
    
    “พีท....ในเมื่อคุณรักฉันมากขนาดนี้ แล้วคุณทิ้งฉันไปแต่งงานกับคุณพิศินีทำไม”
    
    “ตอนนี้ผมต้องรีบไป.... เราพบกันใหม่อีกครั้งได้มั้ย แล้วผมจะอธิบายเหตุผลทั้งหมดให้คุณฟัง”
    
    “เหตุผลที่เป็นความจริง เพราะฉันอยากให้เราสองคนเลิกโกหก ถ้าหากจะกลับมาคืนดีกัน”
    
    “แต่คุณอาจจะเกลียดผม”
    
    “ไม่ค่ะ ฉันจะเข้าใจคุณ เราจะอยู่เคียงข้างกัน เราจะเป็นกำลังใจให้กันและกัน เพราะฉันรักคุณ และฉันจะมีแต่คำว่าให้อภัยสำหรับคนที่ฉันรัก”
    
    พิทยาซาบซึ้งกับคำพูดของเขมมิกดึงตัวเธอมากอด เขมมิกกอดตอบด้วยความรู้สึกสงสารพิทยาเหลือเกิน
     
    พิทยากลับมาบ้านอย่างอารมณ์ดี เอาอกเอาใจพิศินีที่ท่าทางเหมือนไม่สบาย พอตกดึกก็เดินออกมารับลมเล่น พิแสงเห็นพิทยายืนอยู่คนเดียวจึงเข้ามาคุยด้วย แล้วถามเรื่องที่เขาแอบไปพบกับเขมมิก พิทยารู้อยู่แล้วว่าต้องถูกถามเรื่องนี้ จึงเตรียมคำตอบเอาไว้    “ดูนายไม่สะดุ้งสะเทือนที่ฉันรู้เรื่องนี้”   

                         


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)