นอกจากจะมีข่าวไม่ค่อยสู้ดีนักสำหรับ iPhone และ iPad ของ Apple ทางด้านตลาดพีซีโน้ตบุ๊คในส่วนของยอดขายไตรมาสแรกของปีนี้ก็น่าตกใจไม่แพ้กัน เมื่อบริษัทวิจัยตลาด IDC ได้ออกมาระบุว่า ยอดพีซีโน้ตบุ๊คไตรมาสแรกของปี 2013 ตกต่ำมากทีสุดในประวัติศาสตร์ สาเหตุหลักยังคงอยู่ทีกระแสแท็บเล็ตทีทำให้ผู้คนไม่อัพเกรด หรือคิดจะซื้อโน้ตบุ๊คพีซีในข่วงที่ผ่านมา ประกอบกับ Windows 8 ที่ไม่ได้รับความนิยม
IDC ประกาศว่า การหดตัวของตลาดพีซีในช่วงไตรมาสแรกของปี 2013 ประมาณ 14% ถือเป็นความเสียหายครั้งร้ายแรงทีสุดในประวัติศาสตร์ แม้จะมีการเปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อย่าง Windows 8 ในปีที่ผ่านมา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายพีซีกระเตื้องขึ้นเลย "ณ.จุดนี้ โชคไม่เข้าข้างเอาซะเลย เพราะมันดูจะชัดเจนมากๆ ว่า การเปิดตัวของ Windows 8 ไม่เพียงแต่จะล้มเหลวในการสร้างแรงบวกให้กับตลาดพีซี แต่มันยังทำให้ตลาดขยับตัวช้าอีกด้วย" ผู้บริหาร IDC กล่าว นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า การเปลี่ยนอินเตอร์เฟซในการใช้งานของ Windows ด้วยการตัดปุ่ม Start (เลยไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดีสำหรับ Windows 8 - -") ตลอดจนการที่ราคาพีซีที่รัน Windows 8 จะแพงกว่า เนื่องจากต้องเพิ่มความสามารถในการสัมผัสเข้าไปอีก ผลลัพธ์ทำให้พีซีเป็นทางเลือกที่น่าสนใจน้อยกว่าแท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ทำงานได้เหมือนกัน
แม้ตลาดพีซีจะหดตัว แต่สำหรับ HP ยังคงครองแชมป์ผู้ค้าพีซีที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในโลก แต่ยอดก็ลดลงไป 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว ตามติดด้วย Dell ที่มียอดขายลดลง 14.4% ส่วนอันดับสามเป็น Apple ตามด้วย Toshiba และ Lenovo (ดังตารางข้อมูลข้างบนนี้) อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ IDC พุ่งเป้าตำหนิ Windows 8 ว่าเป็นตัวการสำคัญ แต่ตัวการสำคัญกว่า น่าจะมาจากยอดขายที่พุ่งพรวดของแท็บเล็ต ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายรวมมันเข้าไปเป็นพีซี โดยหากมองในแง่ของการเติบโตของตลาดแท็บเล็ตที่แซงหน้าพีซีไปเรียบร้อยแล้วด้วยยอดขายไตรมาสละประมาณ 50 - 60 ล้านเครื่อง ตัวเลขยอดขายน่าจะยังเป็นอย่างนี้ต่อไปในไตรมาสที่สองของปีนี้ด้วย ทางออกของผู้ผลิตพีซี และไมโครซอฟท์จะเป็นอย่างไร? คงต้องติดตามดูกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์
