ผู้เขียน หัวข้อ: VGA Card หรือ Display Adapter  (อ่าน 2778 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • Administrator
  • *****
  • กระทู้: 1415
  • Level:
    0%
  • Thank : 61
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
VGA Card หรือ Display Adapter
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 10:59:32 am »



มีหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณ digital ให้เป็นสัญญาณภาพ โดยมี Chip เป็นตัวหลักในการประมวลการแปลงสัญญาณ ส่วนภาพนั้น CPU เป็นผู้ประมวลผล แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีการประมวลผลภาพนั้น VGA card เป็นผู้ประมวลผลเองโดย Chip นั้นได้เปลี่ยนเป็น GPU (Grarphic Processing Unit) ซึ่งจะมีการประมวลภาพในตัว Card เองเลย เทคโนโลยีนี้เป็นที่แพร่หลายมาก เนื่องจากราคาเริ่ม ปรับตัวต่ำลงมาจากเมื่อก่อนที่เทคโนโลยีนี้เพิ่งเข้ามาใหม่ๆ โดย GPU ค่าย Nvidia เป็นผู้ริเริ่มการลุยตลาด
สลอด เสียบการ์ดแบบต่างๆ
   หลักการทำงานพื้นฐานของการ์ดแสดงผลจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อโปรแกรมต่างๆ ส่งข้อมูลมาประมวลผลที่ ซีพียูเมื่อซีพียูประมวลผล เสร็จแล้ว ก็จะส่งข้อมูลที่จะนำมาแสดงผลบนจอภาพมาที่การ์ดแสดงผล จากนั้น การ์ดแสดงผล ก็จะส่งข้อมูลนี้มาที่จอภาพ ตามข้อมูลที่ได้รับมา การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาส่วนใหญ่ ก็จะมีวงจร ในการเร่งความเร็วการแสดงผลภาพสามมิติ และมีหน่วยความจำมาให้มากพอสมควร



ระบบ USB มีคุณสมบัติ ดังนี้
   • สามารถลดข้อจำกัดในการต่ออุปกรณ์พ่วงได้มากขึ้นถึง 127 ชิ้น
   • ขยายอุปกรณ์มาตรฐานด้วยไดรเวอร์มาตรฐานได้
   • สามารถจ่ายไฟฟ้าขนาด 5 Volt ให้แก่อุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับ USB
    • "Hot Swapping" สนับสนุนการต่อ ,ถอดออก และรีเซต อุปกรณ์ที่ติดต่ออยู่โดยไม่ต้อง Reset เครื่อง Computer
   • สามารถส่งถ่ายข้อมูลได้สูงสุดถึง 1.5 Mbit/Sec และ 12 Mbit สัญญาณเสียง และสัญญาณภาพ
   • ลดจำนวนสายเคเบิลไท การเชื่อมต่อนั้นก็ง่ายเนื่องจากสายสัญญาณมีแค่ 4 สายสัญญาณ คือ V+ ,D+, D- และ V-    โดยสายสัญญาณข้อมูล (D+ และ D-)นั้นจะเป็นแบบ Twist pair
   • สายเคเบิลนั้นสามารถนั้นสามารถยาวได้ถึง 5 เมตร
   • มีระบบ Suspend เพื่อช่วยในการประหยัดพลังงาน
   • มีการกำหนดค่าตำแหน่งแอดเดรสของ อุปกรณ์ต่างๆ โดยอัตโนมัติ
โดยที่ว่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต่อกับ USB Hub นั้นจะเรียกว่า โหนด หรือ Function จะมีอุปกรณ์พิเศษ ที่เรียกว่า Hub ช่วยในการเชื่อมต่อ โดยตัวนี้นี่เอง ที่ทำให้เมื่อเราทำการถอดอุปกรณ์ ใดอุปกรณ์ หนึ่งออกไปก็จะไม่มีผลกับตัวอื่น โดยการต่อนั้น จะต่อกันลงไปเป็นทอดๆ ดังนั้นจึงเกิดเป็นลักษณะคล้าย ต้นไม้ และ Hub ที่ไม่ใช่ Root Hub นั้นจะเรียกว่า embedded hub
การเชื่อมต่อทางกล
ในการเชื่อมต่อของ USB นั้นจะสายเคเบิลแบบ 4 คอร์ ซึ่งมีตำแหน่งขาดังนี้
- ขา 1 เป็น Voltage +
- ขา 2 เป็น DATA -
- ขา 3 เป็น DATA+
- ขา 4 เป็น Voltage -
การเชื่อมต่อทางไฟฟ้า
   สายส่งข้อมูลของระบบ USB มี 2 สาย สำหรับ สัญญาณ D+ และ D- ในการส่งสัญญาณ สัญญาณจะถูกส่งในลักษณะส่งสัญญาณความต่าง ซึ่งก็ คือ
กรณีในการส่งสัญญาณ "0" สัญญาณD- จะมีระดับแรงดันที่สูงกว่า D+ กรณีในการส่งสัญญาณ "1" สัญญาณD- จะมีระดับแรงดันที่ต่ำกว่า D+
การจ่ายกำลังไฟฟ้า
   สามารถจ่ายให้ได้สูงสุด 5 โวลต์ และ ต่ำสุด 4.75 โวลต์ จ่ายกระแสได้สูงสุด 5 แอมป์ สำหรับอุปกรณ์ต่างๆเฉพาะที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ


ที่มา : thaigoodview

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)